"หวยซอง เลขเด็ด เขียนโดยสาธารณชน เป็นการเสนอแนะเพื่อเสี่ยงโชคซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกกฎหมายเท่านั้น ไม่มีการขายหวยทุกชนิด และ ไม่มีใครทราบว่าหวยจะออกตัวไหน โปรดใช้วิจารณญาณ"

เรื่อง: สูตรและวิธีการทำอาหารด้วยตัวเองค่ะ
 
 7109

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
09 กรกฎาคม 2015, 12:44:46น.


สวัสดีค่ะ มาเรียนรู้วิธีการทำอาหารกันเองที่บ้านเพื่อคนที่เรารักดีกว่านะคะ
 


ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #1 09 กรกฎาคม 2015, 12:48:30น.




การทำปอเปี๊ยะสด จะแบ่งเป็นสองส่วนคือส่วนของไส้ปอเปี๊ยะ และ น้ำราด
ดังนั้นเราจะเริ่มที่ไส้ปอเปี๊ยะกันก่อน
( วัตถุดิบและเครื่องปรุงสำหรับทำไส้ปอเปี๊ยะสด )
1. เครื่องพะโล้
2. กระดูกหมูสำหรับทำน้ำซุป
3. เต้าหู้ขาว
4. หมูตั้ง
5. กุนเชียง
6. ถั่วงอกลวก
7. แตงกวา
8. ไข่เจียวหั่นฝอย
( ขั้นตอนการทำไส้ปอเปี๊ยะสด )
1. หั่นแตงกวา หมูตั้ง กุนเชียง เป็นชิ้นยาวๆ
2. นำเอาเต้าหู้ขาวไปจี่กระทะ พอให้ผิวนอกเกรียม หั่นเป็นชิ้นยาวๆ
3. ต้มน้ำซุปกระดูกหมู ใส่เครื่องพะโล้ ปรุงรสด้วยซิอิ๊วขาว แต่งสีด้วยซิอิ๊วดำ
4. ต้มจนกระดูกหมูใกล้เปื่อย ใส่เต้าหูขาวที่หั่นเตรียมไว้ลงไปต้ม รอจนรสชาดเข้าเนื้อ
5. นำเต้าหูขึ้น ตักน้ำพะโล้ที่ได้ แยกไว้สำหรับทำน้ำราด
นำเอาถั่วงอกลวก ไข่เจียวหั่นฝอย แตงกวา เต้าหู้ หมูตั้ง กุนเชียง มาเรียงในแป้งปอเปี๊ยะสำเร็จ
กะปริมาณให้ม้วนออกมาแล้วมีขนาดกำลังสวยงาม ม้วนแป้ง จัดเรียงลงในจาน หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
( วัตถุดิบและเครื่องปรุงสำหรับทำน้ำราดปอเปี๊ยะสด )
1. โอทึ้ง (น้ำตาลทรายแดง)
2. น้ำขามเปียก
3. แป้งข้าวโพดละลายน้ำ
4. น้ำพะโล้ที่ได้จากการต้มเต้าหู้
" ขั้นตอนการทำน้ำราดปอเปี๊ยะสด "
1. ตั้งน้ำพะโล้ให้เดือด ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกและน้ำตาลทรายแดง
2. เมื่อรสได้ตามต้องการแล้วก็ใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำลงไปจนน้ำเหนียวข้นตามต้องการ
3. คนให้แป้งสุกแล้วดับไฟ
ราดน้ำที่ได้ลงไปบนตัวปอเปี๊ยะ โรยเนื้อปู วางต้นหอมลงไป ก็เป็นอันพร้อมรับประทาน
 

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #2 09 กรกฎาคม 2015, 12:51:42น.



" ส่วนผสมในการทำน้ำพริกนรก "

1. พริกขี้หนูแห้ง นำมาคั่วให้หอมและตำให้ละเอียด เราใช้ประมาณ 1 ถ้วยตวง
2. หอมแดงซอย อีกประมาณ 1 ถ้วยตวง
3. กระเทียมซอยหรือสับ ใช้ประมาณ เกือบๆ 1 ถ้วยตวง
4. น้ำปลา จะตราอะไรก็ใช้ได้หมดครับ แต่ผมใช้ที่เป็นผู้หญิงหน่ะประมาณ ( 4-5 ช้อนโต๊ะ )
5. น้ำมะขามเปียกแบบข้นๆ ประมาณ ครึ่งถ้วยตวง
6. กุ้งแห้งป่น อีกประมาณ 1 ถ้วยตวงครึ่ง
7. กะปิเผาอีก 1 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำมันพืช (เราต้องใช้ในการผัดน้ำพริก)
ขั้นตอนต่อไปเราก็มาลงมือกันเลย
( วิธีทำน้ำพริกนรก )
1. นำส่วนผสมดังต่อไปนี้ลงไปโขลกในครกให้เข้ากัน: พริกขี้หนูแห้งคั่วป่น, หอมแดงซอย และ กระเทียมสับ
2. หลังจากนั้นให้ใส่กะปิเผาแล้วโขลกต่อให้เข้ากัน แล้วจึงใส่กุ้งแห้งโขลกให้เข้ากัน
3. ถึงขั้นตอนนี้ให้ใส่น้ำมะขามเปียกและน้ำปลาแล้วคนให้เข้ากัน (ขั้นตอนนี้ไม่ต้องตำนะ มันจะกระเด็น ฮิฮิ)
4. เอาหล่ะเราจะมาผัดน้ำพริกกัน: เริ่มจากตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมันรอให้พอร้อน แล้วจึงใส่น้ำพริกลงไปผัดให้สุกหอมแล้วจึงตักขึ้น (ขั้นตอนนี้ให้สังเกตุน้ำพริกว่าให้น้ำพริกแห้งก็สามารถตักขึ้นได้เลยครับ หากยังไม่แห้งจะทำให้เสียเร็วและเก็บไว้ได้ไม่นาน)
5. วิธีการเก็บให้เก็ยใส่กระปุกปิดฝาให้สนิทแล้วเก็บเข้าตู้เย็นสามารถเก็บได้หลายอาทิตย์เลย
 

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #3 09 กรกฎาคม 2015, 12:57:23น.





" เครื่องปรุง น้ำปรุงซอสผัดไทย "
1. พริกแห้งเม็ดใหญ่ 5 เม็ด
2. หอมแดงหั่น 3 หัว
3. กระเทียม 7 กลีบ
4. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำตาลปี๊บ 3 1/2ช้อนโต๊ะ
8. น้ำ 1/2 ถ้วย
" เครื่องปรุง + ส่วนผสม "
1. น้ำมันพืช 2 + 1/2 ช้อนโต๊ะ
2. เต้าหู้ขาวแข็งหั่นชิ้นเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ
3. หอมแดงสับ 1 ช้อนโต๊ะ
4. หัวไชโป๊เค็มสับ 2 ช้อนโต๊ะ
5. กุ้งแห้งเนื้อ 1 ช้อนโต๊ะ
6. กุ้งสด 4-5 ตัว (กุ้งแช่บ๊วย กิโลกรัมละ 380-450 บาท)
7. เส้นผัดไทย 150 กรัม
8. น้ำ 1/2 ถ้วย
9. ซอสผัดไทย 1/4 ถ้วย
10. พริกป่น 1 ช้อนชา
11. ไข่ไก่ 1 ฟอง
12. ถั่วงอก 1 ถ้วย
( วิธีทำทีละขั้นตอน )

1. ตำพริกแห้งกับเกลือ 1 ช้อนชาให้ละเอียด ใส่หอมแดง กระเทียม โขลกรวมกันจนละเอียด
2. ตั้งกระทะน้ำมันใช้ไฟกลางพอร้อน ใส่หอมกระเทียมที่โขลกลงผัดพอหอมลดเป็นไฟอ่อนผัดสักครู่พอเกือบเหลือง ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาล และน้ำปลา ผัดเคี่ยวจนซอสข้นเหนียวชิมรสให้ออกหวาน และตามด้วยเปรี้ยว เค็ม
3. เสร็จแล้วจะได้น้ำซอสผัดไทยปริมาณ 1 + 1/2 ถ้วยคับ
4. ต่อด้วยขั้นตอนการทำผัดไทย เริ่มต้นตั้งกระทะน้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะบนไฟกลางพอร้อน ใส่เต้าหู้ลงผัด พอใกล้เหลืองใส่หอมแดงหัวไชโป๊ และกุ้งแห้ง ผัดพอสุกหอม ใส่กุ้งผัดพอสุก ตักกุ้งขึ้น
5. ใส่เส้นผัดไทยและน้ำ ผัดพอเส้นสุกนุ่มใส่ซอสผัดไทย พริกป่น ผัดพอทั่วใส่กุ้งที่ผัดไว้ และเนื้อปูกันเส้นไว้ข้างกระทะ ใส่น้ำมันที่เหลือ ต่อยไข่ใส่ใช้ตะหลิวเขี่ยไข่แดงให้แตก
6. พอไข่สุกเล็กน้อยผัดเส้นมาทับ ใส่ถั่วงอกและกุยช่าย ปิดไฟตักใส่จาน แต่งด้วยผักคียงสดต่างๆ ( หัวปลี ถั่วงอก กุยช่ายฯลฯ และเครื่องปรุงรส มะนาวหั่นชิ้น น้ำปลา น้ำตาล พริกป่น ) ตามชอบ
 

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #4 09 กรกฎาคม 2015, 13:00:53น.




ขนมจีบหมูสูตรเด็ด

" ส่วนผสมในการทำอาหาร "

1. แผ่นเกี๊ยว 20 แผ่น
2. เนื้อหมูบดละเอียด 200 กรัม
3. กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
4. พริกไทย 1 ช้อนชา
5. รากผักชี 1 ช้อนชา
6. ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
7. ซอสแม็กกี้ 1 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
9. ผักชีเด็ดเป็นใบ 20 ใบ
10. พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเป็นเส้น 1 เม็ด
" ส่วนผสมน้ำจิ้ม "
1. ซีอิ้วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
2. ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ

( สูตรวิธีการทำอาหารไทย-ขนมจีบหมูสูตรเด็ด )
1. นำรากผักชี พริกไทย กระเทียม โขลกรวมกันให้ละเอียด
2. นำเนื้อหมูผสมกับเครื่องที่โขลก ผสมให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว ซอสแม็กกี้ น้ำตาลทรายให้เข้ากัน
3. นำแผ่นเกี๊ยวห่อส่วนผสมของเนื้อหมู นำใส่ถ้วยตะไลเล็ก ตกแต่งปากถ้วยด้วยกรรไกรให้เรียบร้อย วางใบผักชีและพริกชี้ฟ้า
4. นำขนมจีบเรียงใส่หม้อซึ้ง นึ่งไฟปานกลางประมาณ 15–20 นาที ยกลงกินคู่กับน้ำจิ้ม
5. วิธีทำน้ำจิ้ม : นำส่วนผสมทุกอย่างรวมกัน ตั้งไฟ พอเดือดยกลง
Tips:
เวลานึ่งขนมจีบ ให้พรมน้ำก่อน เพื่อไม่ให้ขนมจีบแข็งกระด้าง
..............................................................................
สูตรที่ 2
( สูตร ขนมจีบ + น้ำจิ้มขนมจีบ )
" ส่วนผสมไส้
1. หมูบด 1/2 ถ้วย
2. เนื้อปูแกะ 1/2 ถ้วย ( เนื้อกุ้งสับก็ได้คะ)
3. มันแกวหั่นเต๋าเล็ก 1/2 ถ้วย
4. ต้นหอมใช้แต่ตรงโคนหั่นละเอียด 1 ชต.
5. แป้งข้าวโพด 1 ชต.
6. ซีอิ้วขาว 2 ชต.
7. พริกไทยป่น 1/2 ชช.
8. น้ำมันงา 1 ชช.
9. เหล้าจีน 2 ชช.
10. น้ำตาลทราย 1 ชช.
11. ไข่ไก่เบอร์2 1 ฟอง
12. แผ่นเกี๊ยวตัดมุม 4 มุม
" วิธีทำ"
1. ผสมส่วนผสมทั้งหมดข้อ 1-11 คลุกเคล้าให้เข้ากัน นวดมือซัก 5 นาที หมักทิ้งไว้ ครึ่งชั่วโมง
2. วางแผ่นเกี๊ยว แล้วใส่ไส้ไว้ตรงกลาง แล้วจีบหยาบๆ ให้คลุมใส้ แล้วเรียงใส่ลังนึ่ง นึ่งให้สุก
3. เสริฟพร้อมกระเทียมเจียว น้ำจิ้มขนมจีบ
( ส่วนผสมน้ำจิ้ม )
1. พริกชี้ฟ้าแดง 2 เม็ด
2. กระเทียมเล็ก 2 ชต.
3. น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วย
4. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
5. จิ๊กโฉ่ 2 ชต.
6. เกลือสมุทร 1 ชช.

"วิธีทำ "

1. โขลกพริกชี้ฟ้ากับกระเทียมเข้าด้วยกันจนละเอียด แล้วพักไว้
2. ใส่น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย จิ๊กโฉ่ และเกลือลงหม้อ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนน้ำตาลละลาย ใส่เตรื่องที่โขลกไว้ คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสริฟ
 

หวยซอง เลขเด็ด อภิโชควิเคราะห์เลขรวย หวยรัฐบาล : Apichoke.net

Re: สูตรและวิธีการทำอาหารด้วยตัวเองค่ะ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2015, 13:00:53น. »

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #5 09 กรกฎาคม 2015, 13:04:14น.




( หอยทอด 2 สูตร ) สูตรแป้งกรอบหอมอร่อย

( หอยทอดแป้งกรอบ สูตร 1 )

" ส่วนผสม "

1. หอยแมลงภู่ สด10–15 ตัว หรือมากน้อยตามชอบ
2. ไข่ไก่ 1 ฟอง
3. แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
4. แป้งท้าวฯ 1 ช้อนโต๊ะ
5. แป้งทอดกรอบ 1 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำปูนใส 1 ช้อนโต๊ะ [ส่วนนี้เราเพิ่มเอง]
7. น้ำเย็นจัด หรือน้ำโซดาเย็นจัด 4-5 ช้อนโต๊ะ
8. ซีอิ๊วขาว หรือ น้ำปลา
9. น้ำส้มสายชู
10. น้ำตาลทราย
11. ถั่วงอก
12. พริกไทยป่น
13. ต้นหอมซอยละเอียด
14. กระเทียมสับ
15. น้ำมันรำข้าว สำหรับทอด
16. ผักชี (สำหรับตกแต่ง)
..........................................................................
( หอยทอดแป้งกรอบ สูตร 2. )

1. แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
2. ผงทอดกรอบ "คนอร์" 2 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำเปล่า 5 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำปูนใส 1 ช้อนโต๊ะ
หมายเหตุ:
1. ผงทอดกรอบคนอร์ (Knorr) 2 in 1 เป็นทั้งผงหมักและผงทอดกรอบ
ผงหมักของคนอร์ เป็นผงปรุงรสที่ปรุงมาเรียบร้อยทั้งพริกไทย และเกลือ
[ ส่วนผสมน้ำซอสแบบสะดวก ]
" ชอบแบบใดก็เลือกกันตามสบายนะคับ "
1. ซอสพริกศรีราชา สูตรต้นตำรับ 2 ช้อน ผสมกับน้ำจิ้มไก่ 1 ช้อน
2. หรือ ซอสพริกตราม้าบิน 2 ช้อน ผสมน้ำจิ้มไก่ 1 ช้อนโต๊ะ
3. หรือสูตรพริกโบราณ พริกชี้ฟ้าเหลือง/เขียว/แดง หั่น ดองกับน้ำส้มสายชู
" วิธีทำซอสพริก "
1. ซอสพริกศรีราชา 1/4 ถ้วยตวง [ที่เขาขายส่วนใหญ่ใช้ซอสพริกตราม้าบิน]
2. น้ำตาล 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
3. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
4. น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ในหม้อใบเล็ก แล้วนำไปตั้งไฟอ่อนๆ จนเดือด
ชิมรสตามชอบ ชอบเปรี้ยวก็จัดหนักซอสพริก ชอบหวานก็เติมน้ำจิ้มไก่

" วิธีทำหอยทอด "

1. หอยแมลงภู่ หรือหอยนางรม - ล้างหอยให้สะอาด แล้วนำใส่ตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำ
หอยทอดจานอร่อย มันง่ายมากก็ตรงใช้หอยแมลงภู่แห้ง ที่มีติดตู้เย็นไว้ตลอด
เป็นหอยแดดเดียวที่ยังคงมีความชื้นแฉะ จึงต้องใส่ช่องแช่แข็งไว้ กันเชื้อราและเน่าเสีย
โดยนำหอยแห้งมาแช่น้ำจนนิ่ม หอยที่เหี่ยวแห้งจะเริ่มบานและฟูขึ้น กลับสู่สภาพหอยสด
2. ในชามผสม นำแป้งท้าว, แป้งข้าวเจ้า, แป้งทอดกรอบ ผสมให้เข้ากัน
กลัวแป้งจะไม่กรอบ ขอเติมน้ำปูนใส และใส่น้ำเย็นจัด จะใช้น้ำโซดาเย็นจัดก็ได้นะ
ใส่เนื้อหอยลงไป ใส่ต้นหอยซอยละเอียด แล้วคนจนส่วนผสมทั้งหมดละลายเป็นเนื้อเดียว
" วิธีทอด "
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ปรับเป็นไฟร้อนปานกลาง ใส่กระเทียมลงผัดให้เหลืองเล็กน้อย
จากนั้นเทแป้งลงในกระทะ โดยให้แป้งกระจายตัวไปทั่ว ใส่หอยแมลงภู่วางเลียงไป
2. เมื่อแป้งเริ่มอยู่ตัว ตอกไข่ไก่ใส่ไป แล้วใช้ตะหลิวเกลี่ยไข่ให้กระจายไปทั่วแผ่นแป้ง
อย่าคนหรือพยายามกลับหน้าจนกว่าแป้งเกือบจะสุก ทอดไปเรื่อยจนแป้งเหลืองกรอบ
3. ทอดไปเรื่อยจนแป้งเหลืองกรอบ ค่อยๆ กลับด้านไปทอดอีกข้างให้กรอบ
แนะนำให้ใช้ตะหลิวสองด้ามเป็นตัวช่วยในการทอด เพื่อความสะดวกนะคะ
เมื่อแป้งทั้งสองด้านสุกทั่วจนเหลืองกรอบแล้ว ใช้ตะหลิวตัดแบ่งให้เป็นชิ้น
4. จากนั้นใช้ตะหลิวเกลี่ยแป้งทอดไปไว้ขอบกระทะอีกด้านหนึ่ง จากนั้นใส่ถั่วงอก, ต้นหอมซอย
ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว, น้ำส้มสายชู, น้ำตาลทราย แล้วผัดจนส่วนผสมเข้ากัน ไม่ต้องผัดนาน
5. หรือถ้าชอบแบบถั่วงอกไม่สุกมาก นำถั่วงอกสดวางลงก้นจาน ปิดทับด้วยหอยทอดร้อน ๆ
ความร้อนของแป้งทอดจะทำให้ถั่วงอกสุกกรอบ และไม่สุกมาก แล้วมาปรุงอร่อยรสนอกจาน
6. จากนั้นก็ตักใส่จานแล้วนำแป้งหอยทอดวางลงบนถั่วงอก เหยาะพริกไทยป่นไปนิดหน่อย
แต่งหน้าด้วยผักชี เสริฟทันทีขณะยังร้อน เพราะแป้งยังกรอบดี พร้อมน้ำจิ้มที่เตรียมไว้
 

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #6 09 กรกฎาคม 2015, 13:07:40น.




"แกงฮังเล อาหารไทยภาคเหนือ"

1.หมูสามชั้นเลือกแบบที่ติดมันน้อย 1 กก.หั่นชิ้นประมาณ 1 นิ้ว
2.พริกแกงเผ็ดประมาณ 2 ช้อนแกงพูนๆ
3.ผงฮังเล ประมาณ 1 ช้อนแกงไม่ต้องพูน
4.กระเทียมแกะเปลือกตามชอบ ถ้ากระเทียมโทนจะได้รสจัด
5.ขิงซอย 1 ขีด
6.น้ำมะขามเปียก
7.น้ำตาลปิ๊บ,ซอสปรุงรส
นำหมูคลุกเคล้ากับพริกแกงและผงฮังเลให้เข้ากัน หมักไว้ในตู้เย็นราวๆ 1 ชั่วโมง ตั้งหม้อบนเตาใส่หมูเติมน้ำพอท่วมหมูเคี่ยวไฟกลางไปเรื่อยๆ ใส่กระเทียม ปรุงรสด้วยน้ำตาล,น้ำมะขามเปียก,และซอสปรุงรส ชิมดูพออร่อยถูกลิ้นก็ใส่ขิงซอย เคี่ยวต่อจนหมูนิ่มหายเหนียวเหลือน้ำขลุกขลิก ถ้าน้ำแห้งก็เติมได้
 

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #7 09 กรกฎาคม 2015, 17:55:59น.




สูตรทำขาหมูเยอรมัน
" เครื่องปรุง "
ขาหมู 1 ขา (800 กรัม)
ใบกระวาน 10 ใบ
โรสแมรี่ 1/4 ถ้วย
แครอทหั่น 2 หัว
คื่นฉ่ายหั่น 2 ต้น
หอมหัวใหญ่หั่น 4 หัวเล็ก
เกลือป่น 1/2 ถ้วย
พริกไทยเม็ด 1/4 ถ้วย (บุบ)
น้ำเปล่า ปริมาณท่วมขาหมู
" วิธีทำ "
1. นำขาหมูมาล้างให้สะอาดแล้วซับให้แห้ง พักไว้ก่อน
2. นำเครื่องปรุงทุกอย่างผสมรวมกันในหม้อต้ม ใส่ขาหมูลงไป แล้วใส่น้ำเปล่าพอท่วมขาหมู
3. ยกหม้อขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวไปนานประมาณ 4 ชั่วโมง หลังจากนั้นทิ้งไว้ให้เย็นสนิท
4. พอขาหมูเย็นลงแล้ว ก็ให้ตักขึ้นมาผึ่งลมให้พอแห้งซักหน่อย (ไม่ยังงั้นเดี๋ยวน้ำมันกระเด็นเวลาทอดคับ)
5. ตั้งกระทะใส่น้ำมันกะๆ ดูให้พอท่วมขาหมู แล้วจึงนำขาหมูลงทอดจนกระทั่งหนังหมูเหลืองกรอบ
6. เวลารับประทาน ให้เสิร์ฟพร้อมกับมันบดราดน้ำเกรวี่ ผักดอง และน้ำจิ้มสามรสแบบไทยคคับ
................................................................................................
( เคล็ดลับการทอดขาหมู เยอรมัน ให้กรอบนอกนุ่มใน )
เริ่มต้นกันที่เลือกขาหมูขนาดพอเหมาะ สัก 1 ขา ถ้าเป็นขาหลังจะมีเนื้อแน่น มีปริมาณเนื้อเยอะกว่าไขมัน
ส่วนขาหน้าเนื้อจะนุ่ม มีปริมาณเนื้อไม่มาก
หลังจากเลือกขนาดได้แล้วก็ต้องทำความสะอาด ถอนหรือเผาขน แล้วขูดผิวให้สะอาด
ต่อจากนั้นนำไปนึ่งในรังถึง หรืออบในเตาอบให้สุกทั้งชิ้นถึงเนื้อใน ผึ่งให้เย็น
( ขั้นตอนการทอด )
ต้องทอดแบบน้ำมันท่วมถึงทั้งชิ้น โดยใช้น้ำมันปาล์ม เพราะจุดเป็นควันสูงเหมาะแก่การทอดอาหาร
ให้น้ำมันร้อนจัดแล้วจึงนำขาหมูลงไปทอดพอสุกผิวนอกเป็นสีเหลืองทอง
ถ้าชอบกรอบมากๆ ให้ทอดนานอีกหน่อยพอเป็นสีน้ำตาลทอง แล้วตักขึ้นพอสะเด็ดน้ำมัน
ก็จัดรับประทานทันทีพร้อมผักกระหล่ำปลีดอง
คุณก็จะได้ขาหมูกรอบนอกนุ่มในแบบเยอรมันที่คุณชอบนะคับ
เครื่องปรุงน้ำจิ้มแจ่ว
* หัวหอมแดงซอย 2-3 ช้อนโต๊ะ
* ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
* ผักชีฝรั่งซอย 2 ช้อนโต๊ะ
* พริกคั่วป่น 1 ช้อนชา
* ข้าวคั่วป่น 3 ช้อนชา
* สะระแหน่เด็ดใบ 1 กิ่ง
* น้ำมะขาม 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาลเชื่อม 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำปลาดี 2-3 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุงน้ำจิ้มซีฟู้ด
* พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
* น้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา
* กระเทียมสดกลีบเล็ก 10 กลีบ
* รากผักชี 3 ราก
เครื่องปรุงน้ำจิ้มหวาน
* พริกขี้หนูสีแดง 10 เม็ด
* น้ำส้มสายชู 2-3 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
* เกลือ 1 ช้อนชา
* กระเทียมสดกลีบเล็ก 10 กลีบ
วิธีทำ
1. ผสมกระเทียมบดกับน้ำสุกเล็กน้อย จากนั้น นำไปทาลงบนหนังของขาหมู โรยเกลือและพริกไทยให้ทั่ว แล้วใช้เหล็กแหลมเล็กๆ จิ้มหนังให้ทั่วเพื่อให้เครื่องปรุงซึมเข้าเนื้อ นำไปอบให้แห้ง
2. พักให้เย็นลงก่อนใช้มีดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ พองาม แล้วนำมาทอดด้วยไฟแรงจนหนังกรอบ จัดเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสามรส
 

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #8 09 กรกฎาคม 2015, 19:59:49น.



สันคอหมูทอด น้ำจิ้มแจ่ว
♡♡♡♡♡♡♡♡♡
-สันคอหมูล้างให้สะอาด
-กระเทียมพริกไทย ตำรวมกัน
♡♡♡♡♡♡♡♡♡
หมักหมูกับกระเทียมพริกไทยที่ตำไว้แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา..หมักไว้20นาที..แล้วนำไปทอดในน้ำมันร้อนๆให้เหลือง ตักขึ้นมาหั่นชิ้นพอคำแล้วจัดใส่จาน กินกัน้ำจิ้มแจ่ว..
วิธีทำน้ำจิ้มแจ่ว..น้ำมะขามเปียก น้ำปลา พริกป่น ข้าวคั่ว น้ำตาลปี๊บนิดหน่อย ต้นหอมซอย ผักชีใบเลื่อยซอย ทั้งหมดผสมรวมกันชิมรสตามชอบ..
จะกินกับข้าวสวยหรือข้าวเหนียวก็อร่อยคะ..
สูตรโดย : ถนอมศรี ศรีภูสิตโต
 

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #9 10 กรกฎาคม 2015, 09:00:33น.






รวมสูตรน้ำสลัดและวิธีทำน้ำสลัด ทั้งสูตรน้ำสลัดผลไม้ สูตรน้ำสลัดน้ำใส สูตรน้ำสลัดน้ำข้น สูตรน้ำสลัดญี่ปุ่น ลองทำกันดูครับใครชอบสูตรไหน สลัดเป็นเมนูเพื่อสุกขภาพที่หลายคนชื่นชอบ มีคุณค่าทางโภชนาการ แถมยังอร่อยอีก ฮาๆ
( สูตรน้ำสลัดผลไม้และวิธีทำน้ำสลัดผลไม้ )
ส่วนผสมน้ำสลัดผลไม้
-น้ำส้มไซเดอร์ 1/2 ขวด
-น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
-เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
-ผลไม้ชนิดต่าง ๆ สับเป็นชิ้นเล็ก ๆ 1 ถ้วย
( วิธีทำน้ำสลัดผลไม้ )
สับผลไม้ เช่น องุ่น สับปะรด มะละกอ (เลือกห่ามสักหน่อย) แคนตาลูป แตงไทย สาลี่ สตรอเบอร์รี่ ลูกหม่อน ฯลฯ อะไรก็ได้ ใช้หลายอย่างก็ได้ ใช้อย่างเดียวก็ได้ แล้วแต่ชอบกลิ่น เทน้ำตาลกับเกลือผสมในน้ำส้มจนละลายดีแล้ว เอาส่วนผสมใส่ในขวดใหญ่ ใส่ผลไม้ลงไปปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ในที่มืดสัก 2 สัปดาห์ จากนั้นกรองเอาผลไม้ออก แล้ว บรรจุน้ำสลัดที่ได้ลงในขวดสีชาเพื่อกันแสง
" หมายเหตุ "
น้ำสลัดจากการดองผลไม้จะให้กลิ่นหอม ของผลไม้ เหมาะสำหรับทำน้ำสลัดของสลัดผลไม้ เป็นน้ำสลัดแคลอรีต่ำเช่นเดียวกัน แต่ถ้าจะนำไปผสมกับน้ำมันมะกอกเป็นน้ำสลัดที่มีน้ำมันอยู่ด้วยก็ไม่เลว
สูตรน้ำสลัดน้ำใส และวิธีทำน้ำสลัดน้ำใส 5 สูตรเด็ด
( สูตรน้ำสลัดน้ำใส สูตร 1 )
" ส่วนผสมน้ำสลัดน้ำใส "
1.น้ำส้มคั้นใหม่ๆ 1/4 ถ้วย
2.หอมใหญ่สับ 1 ช้อนโต๊ะ
3.เกลือป่น 1 ช้อนชา
4.น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
5.มัสตาร์ด 1/4 ช้อนชา
6.น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย
7.น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
( วิธีทำน้ำสลัดน้ำใส )
ผสมลงในขวดแก้ว ปิดฝาแล้วเขย่าให้เข้ากัน ถ้าใครมีเครื่องปั่นก็นำลงเครื่องปั่น แล้วปั่นให้ละเอียดเลยคับ จากนั้น นำเข้าตู้เย็น
......................................................................................
( สูตรน้ำสลัดน้ำใส สูตร 2 )
" ส่วนผสมน้ำสลัดน้ำใส "
1.มัสตาร์ด 2 ช้อนโต๊ะ
2.น้ำส้มสายชู 6 ช้อนโต๊ะ
3.น้ำตาล 1/2 ช้อนชา
4.เกลือ 1 ช้อนชา
5.หอมแดงสับละเอียด 1 ช้อนชา
6.น้ำมันมะกอก 1/2 ถ้วย
7.พริกไทย 1/2 ช้อนชา
8.น้ำมะนาว 1-2 ช้อนโต๊ะ (ถ้าไม่ชอบเปรี้ยวมาก จะไม่ใส่ก็ได้)
( วิธีทำน้ำสลัดน้ำใส )
ผสมลงในขวดแก้ว ปิดฝาแล้วเขย่าให้เข้ากัน ถ้าใครมีเครื่องปั่นก็นำลงเครื่องปั่น แล้วปั่นให้ละเอียดเลยคับ จากนั้น นำเข้าตู้เย็น
...............................................................
( สูตรน้ำสลัดน้ำใส สูตร 3 )
" ส่วนผสมน้ำสลัดน้ำใส "
1.น้ำมันสลัดหรือน้ำมันมะกอกชนิด Extra Virgin 1 ถ้วย
2.น้ำมะนาว 1/4 ถ้วย
3.เกลือ 2 ช้อนชา
4.น้ำตาล 1 ช้อนชา
5.มัสตาร์ด 1/2 ช้อนชา
6.หอมใหญ่สับ 1/2 ช้อนชา
7.พริก Paprika 1/2 ช้อนชา
8.ออริกาโน 1/2 ช้อนชา
9.ใบ Thyme ป่น 1/2 ช้อนชา
10. กระเทียมสับ 2 กลีบ
( วิธีทำน้ำสลัดน้ำใส )
ผสมทุกอย่างลงในขวด ปิดฝาให้สนิท เขย่าให้เข้ากัน เก็บในตู้เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนเสิร์ฟ
............................................................................
( สูตรน้ำสลัดน้ำใส สูตร 4 )
" ส่วนผสมน้ำสลัดน้ำใส "
1.น้ำมันสลัดหรือน้ำมันมะกอกชนิด Extra Virgin 1 ถ้วย
2.น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย
3.น้ำมะนาว 1/4 ถ้วย
4.เกลือ 2 ช้อนชา
5.มัสตาร์ด 1/2 ช้อนชา
6.พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
( วิธีทำน้ำสลัดน้ำใส )
ผสมทุกอย่างลงในขวด ปิดฝาให้สนิท เขย่าให้เข้ากัน เก็บในตู้เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนเสิร์ฟ
.......................................................................................
( สูตรน้ำสลัดน้ำใสมาตรฐาน สูตร 5 )
" ส่วนผสม "
1.น้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาว 1/3 ถ้วยตวง (หรือใช้ 2 อย่างรวมกันก็ได้)
2.พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
3.พริก Paprika 1 ช้อนชา (ถ้าไม่ชอบเผ็ดก็ไม่ต้องใส่)
4.น้ำมันสลัด 1 ถ้วยตวง
5.เกลือ 1 ช้อนชา
6.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
( วิธีทำ )
1. นำส่วนผสมเทลงในเครื่องปั่น ปั่นให้เข้ากัน หรือจะเขย่า หรือตีให้เข้ากันก็ได้ แล้วนำไปแช่เย็นเก็บไว้
2. ก่อนนำมาใช้ เขย่าให้เข้ากันเสียก่อน
...
...
( สูตรน้ำสลัดน้ำข้นและวิธีทำน้ำสลัดน้ำข้น 3 สูตรเด็ด )
( สูตรน้ำสลัดน้ำข้น สูตร 1 )
" ส่วนผสมน้ำสลัดน้ำข้น "
1.ไข่แดง 3 ฟอง
2.เกลือป่น 2 ช้อนชา
3.พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
4.มัสตาร์ด 1/4 ช้อนชา
5.น้ำตาลทรายเม็ดเล็ก 5 ช้อนโต๊ะ
6.น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ
7.น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
8.น้ำมันพืช 1+1/ 2 ถ้วย
( วิธีทำน้ำสลัดน้ำข้น )
ผสม น้ำส้มสายชู น้ำตาล พริกไทย มัสตาร์ด น้ำมะนาว เข้าด้วยกัน พักไว้ คนไข่แดงและเกลือให้เข้ากันจนขึ้นฟู ค่อย ๆ ใส่น้ำมันทีละน้อย (คนให้เข้ากันก่อนจึงใส่ใหม่) จนเหลือครึ่งหนึ่ง ใส่ส่วนผสมน้ำส้มทีละน้อย ๆให้เข้ากันแล้วจึงใส่น้ำมันที่เหลือ คนให้เข้ากัน ใส่สลับกันจนน้ำมันและน้ำส้มหมด
...
( สูตรน้ำสลัดน้ำข้น สูตร 2 )
" ส่วนผสมน้ำสลัดน้ำข้น "
1.น้ำส้มสายชู 5 ช้อนโต๊ะ
2.น้ำตาลทราย 10 ช้อนโต๊ะ
3.นมข้นหวาน 3 ช้อนโต๊ะ
4.ไข่ไก่ทั้งฟอง 1 ฟอง
5.มัสตาร์ด 1/2 ช้อนชา
6.พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
7.เกลือป่น 2 ช้อนชา
8.น้ำมันสลัด 1 ถ้วยตวง (ใช้น้ำมันพืชหรือน้ำมันมะกอกแทนได้)
( วิธีทำน้ำสลัดน้ำข้น )
นำ ส่วนผสมทั้งหมดยกเว้นน้ำมันพืช ลงปั่นในเครื่องปั่น (Food Processor) ทิ้งระยะไว้สักพัก จนแน่ใจว่าส่วนผสมคลุกเคล้ากันดีแล้ว ให้เริ่มต้น หยด น้ำมันทีละน้อย ๆ ลงไปเรื่อย ๆ จนเกือบหมด แล้วปั่นทิ้งไว้อีกสักพัก สังเกตดูหากน้ำสลัดข้นพอดีแล้ว ให้หยุดการใส่น้ำมันพืชแค่นั้น แต่ถ้ายังไม่ข้นพอ จึงค่อยเติมน้ำมันส่วนที่เหลือจนหมด
...
( สูตรน้ำสลัดน้ำข้น สูตร 3 )
" ส่วนผสมน้ำสลัดน้ำข้น "
1.ไข่ไก่ 2 ฟอง
2.น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
3.น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
4.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
5.มัสตาร์ดผง 3/4 ช้อนชา
6.เกลือ 1/2 ช้อนชา
7.พริกป่น 1/2 ช้อนชา
8.น้ำมันสลัด 2 ถ้วยตวง
9.นมข้นหวาน 1/2 ถ้วยตวง
( วิธีทำน้ำสลัดน้ำข้น )
1. ตีไข่แดงจนขึ้นเป็นสีนวล (ใช้เครื่องตี)
2. ใส่น้ำตาล มัสตาร์ด เกลือ และพริกป่น ตีด้วยความเร็วสูงประมาณ 30 วินาที
3. ค่อยๆ เหยาะน้ำมันลงทีละน้อย จนหมด 1/4 ถ้วย
4. ใส่น้ำส้มสายชู ค่อยๆ เพิ่มน้ำมัน ใส่อย่างช้าๆ ตีด้วยความเร็วสูง
5. เทน้ำมะนาวลงทีละน้อย สลับกับน้ำมันจนหมดส่วนผสม (ขณะที่ตีควรจะปาดส่วนผสมที่ติดอยู่รอบๆ อ่างผสมบ่อยๆ เพื่อจะได้น้ำสลัดที่ดี) หรือนำส่วนผสมทั้งหมดใส่เครื่องปั่น ใช้ความเร็วสูงประมาณ 15 นาที
...
( สูตรน้ำสลัดญี่ปุ่นและวิธีทำน้ำสลัดญี่ปุ่น 3 สูตรเด็ด )
( สูตรน้ำสลัดญี่ปุ่น งาขาว+งาดำ สูตร 1 )
" สวนผสมน้ำสลัดญี่ปุ่น "
1. ซีอิ้วญี่ปุ่น KIKOMAN 1/2 ถ้วย
2. น้ำส้มแอบเปิ้บไซเดอร์ 1/2 ถ้วย ((ถ้าชอบเปรี้ยวใส่ 3/4 ถ้วยได้ค่ะ))
3. น้ำตาลทรายแดง หรือบ้านเราน่าจะเรียก น้ำตาลสีรำ 1/2 ถ้วย
((กดให้แน่น เดี๋ยวดูรูปว่ากดอย่างไรให้แน่น))
4. น้ำต้มสุก 1/2 ถ้วย
5. งาขาว+งาดำ 1/2 ถ้วย (งาขาว 1/4 ถ้วย งาดำ 1/4 ถ้วยค่ะ)
6. มิริน 1/4 ถ้วย
7. กระเทียมสับ 2 ชต
8. พริกไทยดำป่น 1 ชต
9. น้ำมันงา 2 ชต
( วิธีทำ น้ำสลัดญี่ปุ่น )
1. ตวงซีอิ้วขาวญี่ปุ่น น้ำส้ม น้ำต้มสุก เทลงในหม้อ
2. ตวงน้ำทรายแดง โดนกดให้แน่นถ้วย ดูตามรูปข้างล่างนั่นเลยคับ การกด เพราะ chef เน้นว่าต้องกด ให้แน่นคับ เวลาที่คว่ำถ้วยน้ำตาล จะออกมาเป็นทรงของถ้วยเลย
3. เทน้ำตาลที่ได้ ลงในหม้อ คนให้น้ำตาลละลาย แล้วยกขึ้นตั้งไฟอ่อน พอเดือด ปิดไฟ ยกลงทันที ทิ้งไว้ให้เย็น
((chef บอกว่า ต้องให้เย็น หรืออุ่นนิดๆ เพราะเวลาที่เทมิรินลงไป กลิ่นมันจะหายไปคับ))
4. ช่วงที่เรารอให้ซอสเย็น ก็หันมาเตรียมเครื่องอื่น คั่วงาดำ งาขาวคับ และพริกไทยดำ ..แล้วบุบให้แตก วิธีบุบ chef บอกว่า อย่าตำน่ะคับ เพราะถ้าตำ น้ำมันของงาจะออกมามากเกินไป และทำให้เป็นก้อน ใช้มือหมุนสากให้บี้ไปกะครก
ส่วนพริกไทยก็เหมือน ตำให้แตกก่อนเบา แล้วก็ใช้วิธีบี้เร็วๆ เหมือนกัน ...
5. กระเทียมสับ ถ้าชอบให้มีกลิ่นของกระเทียม ก็ตำก็ได้ค่ะ แต่ chef บอกว่า ถ้าคนไม่ชอบกระเทียม ก็จะไม่ค่อยชอบทาน พอดีวันนี้ ทำให้เด็กด้วย เลยใช้สับเอา
6. เติมมิริน พริกไทยดำบด งาบด และกระเทียม น้ำมันงา คนให้เข้ากัน ก็เก็บใส่กล่องแช่ตู้เย็นไว้ 1 คืน เช้านำออกมาทานกับผักสลัด
เช่น :
- แตงกวาญี่ปุ่น หรือ ถ้าแตงร้านก็ได้ แต่ให้เอาไส้ออก เพราะไส้มีน้ำมาก จะทำให้เสียรสของน้ำสลัดคับ
((chef ย้ำว่า แตงไทย แตงโม ไม่ได้น่ะฮ่ะ ห้ามคับ ...เพราะไม่ถูกโรคกันคับ และถ้าอยากให้เด้งดึ๋ง ..ก็บุบพริกขี้หนู ในสวนของป้าโพของไปซัก 3-4 เม็ด..เด้งเลยคับ))
- ผัดสลัด ผักกาดแก้ว แครอท มะเขื่อเทศเชอรี่ แต่น้ำสลัดนี้ จะไม่เหมาะที่จะทานกับ พริกหวาน หัวหอมใหญ่ แล้วอะไรอีกหว๋า ...((ลืมง่ะ))
- เนื้อสัตว์ เช่น สันในหมู ต้มน้ำน้อยๆ จนสุก โดยต้มให้น้ำแห้ง และซึมเข้าเนื้อหมู (อย่าใส่เกลือน่ะคับ เดี๋ยวจะไปทำให้เสียรสอีก) แล้วมาหั่นเป็นชิ้น ผสมลงในชามสลัดได้
- เนื้ออกไก่ ต้มแลฉีกเป็นเส้น หรือของอะไรที่เหลืองจากตู้เย็น เอามาทานให้หมดคับ อร่อยแล้วยังได้ขจัดขยะในตู่เย็นของเราไปในตัวคับ
- ปลาทูน่ากระป๋อง ยีให้ละเอียด โรยหน้า สลัดคับ ...อร่อยมาก อันนี้ลองแล้ว
...
( สูตรน้ำสลัดญี่ปุ่น งาขาว สูตร 2 )
" ส่วนผสมน้ำสลัดญี่ปุ่น "
ซีอิ๊วญี่ป่น 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำคั้น 1/4 ถ้วย+2 ช้อนโต๊ะ
พริกป่นญีปุ่น 1/2 ช้อนชา
น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
งาขาวคั่ว 2 ช้อนชา
( วิธีทำ น้ำสลัดญี่ปุ่น )
1.ผสมซีอิ๊วญี่ปุ่น น้ำผึ้ง น้ำส้มคั้น พริกป่นญี่ปุ่น น้ำมันมะกอก น้ำมะนาว เกลือ และพริกไทย
2.ตีให้เข้ากันด้วยตะกร้อ จากนั้นใส่งาขาว คนพอทั่ว ชิมรสให้เปรี้ยวเค็มกลมกล่อม และหลานเล็กน้อย
**สูตรนี้จะหอมกลิ่นงาคั่ว น้ำสลัดมีสีน้ำตาลเข้มของซีอิ๊วญี่ปุ่นและมีส่วนผสมของน้ำมันลอยที่ผิวหน้า
...
( สูตรน้ำสลัดญี่ปุ่นงาบด สูตร 3 )
" ส่วนผสมน้ำสลัดญี่ปุ่น "
น้ำส้มสายชูหมัก 1/4 ถ้วย+1 ช้อนโต๊ะ
ซอสคิดโคแมน 3 ช้อนโต๊ะ
งาขาวคั่วสุก 1/4 ถ้วย
น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วย
น้ำต้มสุก 1/4 ถ้วย
พริกไทยป่น
เกลือป่น
( วิธีทำน้ำสลัดญี่ปุ่น )
1.นำงาคั่วสุกมาปั่นพร้อมกับน้ำต้มสุก น้ำตาล ซอสคิดโคแมน น้ำส้มสายชู จนละเอียดดี
2.เทใส่ชามแก้ว ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย จากนั้นนำไปตีด้วยตะกร้อใหเข้ากันดี ชิมรสให้ออกเปรี้ยว มัน เค็ม หวาน น้ำสลัดจะมีลักษณะข้นๆ
 

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #10 12 กรกฎาคม 2015, 13:29:11น.









( สูตรทำหมูฝอยที่ทานกับข้าวเหนียว )
" ส่วนผสมของหมูฝอยของข้าวเหนียวหมูฝอย "
- สะโพกหมู 1 1/2 กิโลกรัม
- ซีอิ๊วขาว 6 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 2 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำปลา 3/4 ถ้วยตวง
- น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 6 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 7 1/2 ถ้วยตวง
- เกลือป่น 2 ช้อนชา
- น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
- สีส้มแดงเล็กน้อย
" วิธีทำหมูฝอยของข้าวเหนียวหมูฝอย "
1.ล้างเนื้อหมูให้สะอาด หั่นเป็นเส้นยาว
2.นำน้ำเปล่าตั้งไฟ ใส่ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมันหอย ซอสปรุงรส เกลือป่นและสีส้มแดง คนให้เข้ากันจึงใส่เนื้อหมูลงเคี่ยว ด้วยไฟปานกลางจนหมูสุกนิ่ม ตักเนื้อหมูพักบนกระชอนพอเย็น นำหมูฉีกเป็นเส้นฝอยๆ
3.นำกระทะใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย จากนั้นนำหมูที่ฉีกเป็นเส้นลงคั่วไฟอ่อน พอเหลืองกรอบตักขึ้น ผึ่งให้เย็น เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิท จะทำให้หมูคงความกรอบ รับประทานกับข้าวเหนียวนึ่ง
( ส่วนผสมของข้าวเหนียวนึ่งของข้าวเหนียวหมูฝอย )
- ข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม
( วิธีทำข้าวเหนียวนึ่งของข้าวเหนียวหมูฝอย )
- นำข้าวเหนียวแช่น้ำเปล่า 3-6 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับข้าวเหนียวใหม่หรือข้าวเหนียวเก่า) ซาวน้ำทิ้งล้างข้าวเหนียวให้สะอาด ทำไปใส่ในหวดไม้ หรือลังถึงปิดฝานึ่งนาน 30 นาที

 

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #11 17 กรกฎาคม 2015, 08:25:18น.





เย็นตาโฟ
" ส่วนผสม ของเย็นตาโฟ "
- เส้นก๋วยเตี๋ยว 80 - 100 กรัม
- ผักบุ้งไทย 40 - 50 กรัม
- ซอสเย็นตาโฟ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มพริกดอง 1 ช้อนชา
- น้ำซุป 250 - 300 มิลลิลิตร
- ลูกชิ้น (หลายๆชนิดรวมกัน) 5 - 6 ลูก
- เลือดหมู 1 ชิ้น
- ปลาหมึกกรอบ 2 ชิ้น
- เห็ดหูหนูขาว 1 ช่อ
- เต้าหู้ทอด 2 - 3 ชิ้น
- เกี๊ยวทอด 1 ชิ้น
- กระเทียมเจียว 1/2 ช้อนชา
( วิธีทำ เย็นตาโฟ )
1.นำเส้นก๋วยเตี๋ยวและผักบุ้งไทยลวกในน้ำเดือดจัด จากนั้นใส่ชามพักไว้
2.นำลูกชิ้น เลือดหมู ปลาหมึกกรอบ และเห็ดหูหนูขาวลวกในน้ำร้อนจนสุก และใส่ลงในชามก๋วยเตี๋ยว จากนั้นจึงตักน้ำซุปใส่ลงในชามก๋วยเตี๋ยวเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องปรุง
3.ตักซอสเย็นตาโฟน้ำส้มพริกดองและกระเทียมเจียวใส่ลงในชามก๋วยเตี๋ยว จากนั้นจึงตักน้ำซุปใส่ลงในชามก๋วยเตี๋ยว
4.วางเกี๋ยวทอดและเต้าหู้ทอดลงในชามก๋วยเตี๋ยว เสิร์ฟพร้อมกับเครื่องปรุง
....................................................
( ส่วนผสม ซอสเย็นตาโฟ )
- เต้าหู้ยี้แดง 100 กรัม
- น้ำเต้าหู้ยี้ 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสมะเขื่อเทศ 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสพริก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำกระเทียมดอง 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกชี้ฟ้าสีแดง(ไม่เอาเม็ด) 100 กรัม
- น้ำส้มสายชู 50 มิลลิลิตร
- น้ำมันงา 1 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อยโต๊ะ
- น้ำตาลทราบ 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1/2 ช้อชา
- น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร
" วิธีทำ ซอสเย็นตาโฟ "
1.นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในเครื่องปั่นผมไม้จากนั้นเปิดเครื่องปั่นและปั่น
ส่วนผสมทั้งหมด ให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน จนมีลักษณะเป็นซอสข้นๆ
2.นำซอสเย็นตาโฟที่ได้จากข้อ 1 ไปตั้งไฟให้เดือด
...........................................................
( ส่วนผสมน้ำส้มพริกดองของเย็นตาโฟ )
1. พริกขี้หนูสีแดง 50 กรัม
2. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
3. น้ำส้มสายชู 150 มิลลิลิตร
" วิธีทำน้ำส้มพริกดองของเย็นตาโฟ "
นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้และปั่นจนพริกละเอียดตามต้องการ
 

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #12 20 กรกฎาคม 2015, 13:21:56น.





กระท้อนลอยแก้ว
ส่วนผสม
1.กระท้อนปุยฝ้าย(พันธ์อื่นๆก็ได้) 2-3 ลูก
2.น้ำตาลทราย
3.เกลือ
4.มะนาว
5.น้ำเปล่า
6.ใบเตย
วิธีทำ
1.ผสมน้ำแช่กระท้อน โดยใช้ น้ำเปล่าผสมเกลือป่น จากนั้นล้างมะนาวให้สะอาด ผ่าครึ่งมะนาว แล้วบีบน้ำมะนาวใส่ในน้ำเกลือ เอาเปลือกมะนาวใส่ลงไปด้วย
2.ล้างกระท้อนให้สะอาด จากนั้นผ่าครึ่งกระท้อน มีดต้องคม ผ่าทีเดียวพยายามอย่าให้กระท้อนมีรอย
3.เอากระท้อนที่ผ่าครึ่งแล้ว ลงแช่ในน้ำที่เตรียมไว้ จากนั้นก็ปอกเปลือกกระท้อน คว้านเมล็ดออก แล้วก็ตกแต่งกระท้อนให้สวยงาม เสร็จแล้วก็เอาลงแช่น้ำไว้เหมือนเดิม แช่ทิ้งไว้ ประมาณ 30 นาที
4.ระหว่างรอ ก็ทำน้ำเชื่อม โดยใช้น้ำเปล่า น้ำตาลทราย ใบเตย 4-5 ขยำๆแล้วมัด ใส่ลงในน้ำเชื่อม ใช้ไฟอ่อนๆ ตั้งไฟจนน้ำตาลละลายหมด ปล่อยให้เดือดแล้วปิดไฟ ตักใบเตยออกทิ้ง น้ำเชื่อมพักไว้ให้เย็น จากนั้นกรองด้วยผ้าขาวบาง พักไว้
5.กระท้อนเมื่อแช่น้ำครบ 30 นาทีแล้ว ก็เอาขึ้นจากน้ำ จากนั้นสะเด็ดน้ำออกให้หมด
6.เมื่อจะรับประทานก็เอากระท้อน ใส่ในถ้วยไว้ แล้วก็ใส่น้ำเชื่อมตามลงไป ก็รับประทานได้เลย แต่ถ้าจะให้อร่อยยิ่งขึ้น ก็แช่กระท้อนไว้ในน้ำเชื่อมใส่ตู้เย็น ทิ้งไว้ 1 คืน หรือจะมากกว่านั้นก็ได้ ถ้าทานไม่หมด แช่ฟิตไว้ให้พอเป็นเกล็ดน้ำแข็ง แล้วทานอร่อยมากค่ะ
 

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #13 24 กรกฎาคม 2015, 08:37:35น.




( หมึกไข่นึ่งมะนาว )

เป็นอีกเมนูเด็ด ๆ เผ็ด ๆ ร้อน ๆ แซบ ๆ ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว ปลาหมึกไข่ตัวโตๆสดๆ อัดแน่นไปด้วยไข่นำไปนึ่งกับเครื่องปรุงต่างๆ จนได้รสชาติ เปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวาน ไข่ปลาหมึกที่เหนียวหนึบเคี้ยวอร่อยกับน้ำซุปรสแซ่บ รับรองถูกใจหลายๆคนแน่นอน ลงมือกันเลย

[ วัตถุดิบและส่วนผสม ]
1. ปลาหมึกกล้วยตัวใหญ่
2.น้ำปลา
3.พริกจินดา หรือพริกขี้หนู
4.มะนาว
5.รากผักชี
6.กระเทียมจีน หรือกระเทียมไทย
7.สะระแหน่
8.ข่า
9.ตะไคร้
10.น้ำกระเทียมดอง
11.น้ำตาลทราย
12.น้ำปลา
13.รากผักชี ผักชี สำหรับโรยหน้า

[ ขั้นตอนการปรุง: ]

1. ล้างปลาหมึก ดึงหนวดออกจากตัว ตัดโคนหนวดพร้อมกับกรีดถุงหมึก ล้างจนสะอาด บีบเอาตาออกส่วนตัวปลาหมึกดึงเอากระดองด้านหลังออก บั้งตัวปลาหมึก ไม่ต้องขาด ใส่จานไว้
2.ขั้นตอนการทำน้ำปรุงรสผสมพริกขี้หนู กระเทียม น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาล เข้ากันในถ้วย คนให้ทั่ว พักไว้
3.เรียงตัวปลาหมึกและหนวดปลาหมึกใส่จานสำหรับนึ่ง นำไปนึ่งในชั้นลังถึงบนหม้อน้ำเดือดไฟแรงจนสุก เทเอาน้ำที่ได้จากการนึ่งปลาหมึกทิ้ง แล้วจึงราดน้ำปรุงรสแซบบ ๆๆ ที่ทำไว้ ยกลงตกแต่งด้วยมะนาวหั่นแว่นและขึ้นฉ่าย เสิร์ฟร้อนๆหรือเตาอบไมโคเวฟก็ได้เหมือนกัน
 

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #14 29 กรกฎาคม 2015, 08:17:25น.



สูตรหมูกรอบ

เครื่องปรุง
1. หมูสามชั้น 1/2 กิโลกรัม
2. น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
3. เกลือป่น 2 ช้อนชา

วิธีทำ
1. ต้มหมูสามชั้นให้สุก แล้วใช้ปลายช้อนส้อม หรือปลายมีดแหลมจิ้มให้ทั่วหนังหมู
2. ทาเกลือ ให้ทั่วชิ้นหมู ส่วนหนังหมูให้ใช้น้ำส้มสายชูทาให้ทั่ว
3. นำไปตากแดดโดยให้หนังหมูอยู่ด้านบน ตากจนหนังหมูแห้ง
4. หากไม่มีแดด ให้อบจนหนังหมูแห้ง
การทอด
1. ใส่น้ำมันในกระทะหรือหม้อ วางหมูโดยเอาหนังหมูลงด้านล่าง ขณะน้ำมันยังเย็นอยู่ (ไม่ต้องรอให้น้ำมันร้อน) ปิดฝากระทะหรือหม้อ
2. เปิดแก๊สด้วยไฟอ่อนสุด ปล่อยทิ้งไว้จนกว่าจะได้ยินเสียงหนังหมูพองแตก และปล่อยให้พองเต็มที่
3. เร่งไฟแรงปานกลาง ทอดไล่น้ำมันให้ทั่วชิ้นหมู
 

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #15 13 สิงหาคม 2015, 13:28:04น.




 an| มีสูตรหมูทอดทั้งทีจะไม่มีสูตรหมูกรอบมาด้วยก็คงจะยังไง ๆ อยู่ กับหนังหมูกรอบ ๆ ฟู ๆ เคี้ยวมัน ๆ ดังกรุบ ๆ ฉ่ำมันหมู ประเด็นคือ หมูกรอบสูตรนี้ หนังกรอบมากแต่เนื้อหมูข้างในนุ่มสุด ๆ (สูตรจาก ครัวบ้านพิม)
.
* ส่วนผสม
หมูสามชั้น 1 แผ่น (หนักประมาณ 1.5 กก.)
น้ำเปล่า 10 ถ้วย
เกลือป่น 85 กรัม
น้ำมันปาล์มสำหรับทอด (เยอะมาก ๆ)
.
* วิธีทำ
1.เตรียมหมูกรอบโดยใช้มีดโกนมาขูดขนอ่อน ๆ ออกไปให้หมด นำไปล้างให้สะอาด บั้งเป็นแนวยาว 3 แถว
2. ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ ตามด้วยเกลือป่น นำขึ้นตั้งไฟรอจนน้ำเดือดแล้วใส่หมูทั้งชิ้นลงไปต้ม โดยคว่ำด้านหนังลง ต้มประมาณ 40 นาที แล้วพลิกเอาด้านเนื้อกลับลงไปต้มต่ออีกประมาณ 5 นาที
3. ตักขึ้นสะเด็ดน้ำแล้วนำไปตากแดดจัด ๆ หรืออบด้วยไฟอ่อน ๆ 1 ชั่วโมง หรือจนหนังหมูแห้ง
4. นำหมูที่แห้งแล้วไปทอดในน้ำมัน โดยทอดด้านหนังก่อน ใช้ไฟกลางค่อนมาทางแรง ทอดจนด้านหนังเหลืองดี จากนั้นพลิกกลับอีกด้านลงไปทอดแล้วลดไฟลงทอดจนหมูสุกเหลือทั้ง 2 ด้าน
.
 

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #16 21 สิงหาคม 2015, 14:52:12น.





 an| " ส่วนผสม"

- ใบตำลึง 20 กรัม(หั่น 10 ช้อน )

- น้ำเชื่อม 30 กรัม( 2 ช้อน )

- น้ำมะนาว 10 กรัม( 2 ช้อนชา )

- น้ำเปล่าต้มสุก 200 กรัม( 14 ช้อน )

- เกลือป่นผสมไอโอดีน 1 กรัม(1/5 ช้อน )

 an| " วิธีทำ "

นำใบตำลึงมาล้างให้สะอาดแล้วหั่น ใส่เครื่องปั่น ใส่น้ำต้มครึ่งหนึ่ง
( 7 ช้อน ) ปั่นให้ละเอียด นำไปกรอง ใส่น้ำที่เหลือคั้นเอาแต่น้ำ นำน้ำที่ได้ไปใส่เกลือ น้ำมะนาว น้ำเชื่อม ชิมรสตามชอบ
( ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ )

คุณค่าทางอาหาร : ให้วิตามินเอสูงมาก ซึ่งช่วยบำรุงสายตา มีแคลเซี่ยม และฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและวิตามินซี ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน

คุณค่าทางยา : นำใบมาตำให้ละเอียด แก้อาการแพ้ อาการอักเสบ แมลงกัดต่อย ช่วยป้องกันโลหิตจาง โรคมะเร็งและหัวใจขาดเลือด
 

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #17 23 สิงหาคม 2015, 13:03:19น.






 b|b ( สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า )

" ส่วนประกอบ "

เส้นสปาเก็ตตี้ต้มสุกแล้วประมาณ 300 กรัม
เบคอนหั่นชินเล็ก 100 กรัม
หอมหัวใหญ่หั่นเต๋าเล็ก (1 หัวเล็ก) 100 กรัม
กระเทียมสับ 4 กลีบใหญ่
เนย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
วิปปิ้งครีม ½ ถ้วยตวง
ไข่ฟองใหญ่ 1 ฟอง
พาร์มีซานชีส ขูดฝอย 4 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น ½ ช้อนชา
คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนชา

" วิธีทำ "

1. ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือดพร้อมทั้งใส่เกลือและน้ำมันมะกอก แล้วใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลงไป คนให้เส้นจมน้ำหมดทุกเส้น หรี่ไฟอ่อนพร้อมปิดฝา ต้มประมาณ15 นาที แล้วเช็คว่าสุกหรือไม่ (ลองหักว่า ข้างในเป็นสีเสมอกันหรือไม่ หากตรงกลางมีสีขาวๆ แสดงว่ายังไม่สุก) นำเส้นสปาเก็ตตี้ต้มสุกแช่น้ำเย็นสักครู่ สะเด็ดน้ำออก นำไปคลุกกับน้ำมันพืช พักไว้
2. นำวิปปิ้งครีม ไข่ไก่ และ พาร์มีซานชีสขูดฝอยมาผสมในถ้วย คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยคนอร์อร่อยชัวร์ และพริกไทย
3. นำกระทะตั้งไฟกลาง ใส่เนยลงไป เมื่อเนยละลายให้ใส่หอมใหญ่ที่ซอยไว้ลงไปผัดพอหอม แล้วใส่เบคอนลงไปทอดให้กรอบ (หากไม่ชอบทานเบคอน สามารถเปลี่ยนเป็นไส้กรอกได้)
4. ใส่กระเทียมลงไปพร้อมผัดให้เข้ากันจนกระเทียมเปลี่ยนสี เมื่อกระเทียมกรอบได้ที่แล้วก็นำเส้นสปาเก็ตตี้ที่เตรียมใส่ลงไป ตามด้วยส่วนผสมวิปปิ้งครีมพร้อมปิดไฟทันที คนเร็วๆ ให้ครีมเข้ากันดีกับเส้น นำใส่จานแล้วโรยพาร์มีซานชีสส่วนที่เหลือพร้อมเสิร์ฟ 
et"'
 

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #18 26 สิงหาคม 2015, 12:37:31น.





 b|b แกงเขียวหวานกวางมะเขือเปราะ+พวง
***********************************

***เตรียมเครื่องปรุง***

*เนื้อกวางติดมัน
*มะเขือเปราะ
*มะเขือพวง
*พริกแกงเขียวหวาน
*หัว+หางกะทิ
*ใบมะกรูด
*พริกชี้ฟ้า
*ใบโหระพา
*น้ำตาลปี๊ป
*น้ำปลา
*** *** *** *** *** *** *** *** *** ***

***วิธีทำ***

*มะเขือเปราะผ่า มะเขือพวงเด็ดแช่น้ำเตรียมไว้
*เนื้อหั่นชิ้นพอดีเตรียมไว้ ใบมะกรูดฉีกเตรียมไว้
*พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง ใบโหระพาเด็ดแช่น้ำเตรียมไว้
*เอาพริกแกงผัดกับหัวกะทิจนหอม ใส่เนื้อกวางลงผัดจนสุก เติมหางกะทิลงไปรอจนเดือดใส่ใบมะกรูดฉีกลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊ป ชิมปรุงรสตามใจชอบใส่มะเขือพวง มะเขือเปราะ พริกชี้ฟ้าลงไปรอจนมะเขือสุกใส่ใบโหระพาลงไปพอใบโหระพาสลดปิดไฟตักใส่ชามพร้อมเสริฟ
 

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #19 27 สิงหาคม 2015, 11:50:59น.





b|b ออส่วน

ส่วนผสมสำหรับทำ ออส่วน

1. ไข่ไก่ 2 ฟอง
2. หอยนางรมสดแกะเปลือก 1 ถ้วย
3. ถั่วงอกเด็ดหัว 1 กำมือ
4. กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนชา
5. ต้นหอมซอยแฉลบ 2 ช้อนโต้ะ
6. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
8. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
9. แป้งมันละลายน้ำอัตราส่วน น้ำ 1 ถ้วย แป้งครึ่งถ้วย
10. น้ำมันพืชสำหรับผัด 2 ช้อนชา
11. น้ำมันพืชสำหรับทอด
12. ใบผักชีสำหรับโรยหน้า
13. ซอสพริกสำหรับรับประทานคู่กัน

ขั้นตอนการทำออส่วน

1. ใส่หอยนางรมลงเคล้าเบา ๆ กับแป้งมัน ละลายน้ำให้ทั่ว พักไว้

2. ตั้งน้ำมัน 2 ช้อนชาในกระทะด้วยไฟกลางให้ร้อน ใส่กระเทียมลงเจียวให้หอม ตามด้วยถั่วงอก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และพริกไทย (เหลือไว้เล็กน้อยสำหรับโรยหน้า) ผัดเข้าด้วยกัน

3. ใส่ต้นหอม (แบ่งไว้เล็กน้อยสำหรับโรยหน้า) ผัดต่อพอเข้ากัน ตักใส่จานเสิร์ฟเตรียมไว้

4. ตั้งน้ำมันสำหรับทอดในกระทะก้นแบนด้วยไฟกลางค่อนข้างแรงให้ร้อน ใส่ส่วนผสมหอยนางรมลงทอดพอเกือบสุกใส่ไข่ ใช้ตะหลิวเกลี่ยเบา ๆ พอให้ไข่แดงแตก แล้วกลับด้านทอดจนสุกทั่ว ปิดเตา

5. ตักใส่จานเสิร์ฟที่เตรียมไว้ในข้อ 3 โรยหน้าด้วยต้นหอม ใบผักชี และพริกไทย รับประทานขณะร้อน ๆ คู่กับซอสพริก
 

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #20 04 กันยายน 2015, 09:19:50น.




 c|a วิธีทำไอศกรีมกะทิสดโบราณ

ส่วนผสม

1. เนื้อมะพร้าวขูด 6 กิโลกรัม
2. น้ำมะพร้าวน้ำหอม (อ่อน) 4 ผล
3. ใบเตยหั่นหยาบ 10 ใบ
4. น้ำตาลทราย 1.4 กิโลกรัม
5. เกลือป่น 2 ช้อนชา
6. น้ำเปล่า (สำรองไว้หากน้ำหนักรวมขาด)
วิธีทำ
1. นำน้ำมะพร้าวน้ำหอมตั้งไฟ ใส่ใบเตย ½ ส่วนพอขึ้นฟองที่ขอบหม้อให้ปิดไฟ (ก)
2. คั้นมะพร้าวขูดให้ได้กะทิ 6 กิโลกรัม ใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น คนให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน
3. นำน้ำมะพร้าวที่ตั้งไฟแล้ว (ข้อ1) เทผสมกับน้ำกะทิที่ผสมแล้ว (ข้อ2) คนให้เข้ากัน กรองด้วยผ้าขาวบางโดยใช้กระชอนรองผ้าไว้ (ข)
4. นำขึ้นชั่งจะได้น้ำหนัก 8.5 กิโลกรัม หากน้ำหนักขาดให้ใส่น้ำเปล่าหรือหากกะทิเพิ่ม
5. ใส่เครื่องปั่นไอศกรีม ปั่นนาน 18 นาทีจะได้ไอศกรีมจากนั้นนำไปบ่มในตู้แช่ หรือถังบ่ม 2 ชั่วโมงจึงนำออกไปขายหรือนำรับประทานได้
6. ตักไอศกรีมใส่ถ้วยตกแต่งด้วยท็อปปิ้งตามใจชอบ เช่นเยลลี่ ถั่ว ข้าวเหนียว นมข้น นมจืด
 

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 230181
ตอบกลับ #21 20 กันยายน 2015, 08:53:18น.





แหนมซี่โครงหมู (ทางอิสานเรียกส้มหมู)
ส่วนผสม
1.ซี่โครงหมูใบพาย 1กก.(หรือจะใช้เนื้อหมูก็ได้คะ) 2.กระเทียมโขลกหยาบๆ 2ชต. 3.เกลือป่น 1ชต. 4.ข้าวเหนียวนึ่ง 1/2ถ้วย
วิธีทำ
1.ล้างทำความสะอาดหมู หั่นเป็นชิ้นเล็ก ผึ่งให้แห้ง
2.โขลกกระเทียม นำไปผสมกับข้าวเหนียว และเกลือ คนให้เข้ากัน หลังจากนั้น นำซี่โครงหมู มาเคล้าให้เข้ากัน นวดๆให้ส่วนผสมเข้าเนื้อ แล้วใส่ในขวดกดให้แน่นๆ ปิดฝาขวดให้สนิท(ลวกขวดโหลด้วยน้ำร้อน ผึ่งให้แห้งก่อนนำมาใส่) พอครบ 2วัน จะเริ่มมีน้ำออกมาและสีหมูจะซีดลง แสดงว่าเริ่มเปรี้ยวแล้ว นำมาทอด หรืออบ ทานกับข้าวเหนียวคะ
ขอบคุณสูตร คุณพี่สุภาพร จ.อุดรธานี
 

  • พลังน้ำใจ: 15
ตอบกลับ #22 13 มีนาคม 2017, 10:36:31น.
 ][Y มีแต่เมนู น่าทานทั้งนั้นเลยครับ  c|t



sbobet mobile

 

เว็บไซต์ในเครือข่ายอภิโชค : apichokeonlin.com | apichoke.net | apichoke.biz | apichoke.me | apichoke.org | apichoke.info
"ศาสตร์ของการคำนวณหวย สถิติหวยความน่าจะเป็น บนเว็บนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน-นักคำนวณ และบุคคลทั่วไปตลอดจนเลขจากไสยศาสตร์ต่างๆ การที่ใครจะถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือถูกหวย รวยด้วยหวย ก็เป็นเพียงแต่ การเสี่ยงโชค เสี่ยงดวง เท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ และไม่ควรงมงาย หากต้องการเสี่ยงโชค ซื้อหวย เล่นหวย ก็ขอให้ เสี่ยงโชคแต่พอเพียงตามกำลังของตนเอง อย่าซื้อเกินกำลังอาจทำให้เดือนร้อนได้"
คำเตือน : อย่าหลงเชื่อหากมีผู้อ้างตนเป็นอาจารย์ดังสามารถให้หวยถูก100%หรือให้ถูกทุกงวดแน่นอน หรืออวดอ้างว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่กองสลาก แล้วเรียกเก็บเงินจากท่าน
ข้อมูลในเว็บนี้ใช้ประกอบเสี่ยงโชคสำหรับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น ไม่สนับสนุนหวยที่ผิดกฏหมาย