"หวยซอง เลขเด็ด เขียนโดยสาธารณชน เป็นการเสนอแนะเพื่อเสี่ยงโชคซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกกฎหมายเท่านั้น ไม่มีการขายหวยทุกชนิด และ ไม่มีใครทราบว่าหวยจะออกตัวไหน โปรดใช้วิจารณญาณ"

เรื่อง: อานิสงส์ของการบำรุงบิดามารดา มี ๑๓ ประการ
 
 17898

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

  • พลังน้ำใจ: 14
11 กันยายน 2009, 14:07:44น.
อานิสงส์ของการบำรุงบิดามารดา มี ๑๓ ประการ คือ
๑. ทำให้มีความอดทน
๒. ทำให้เป็นคนมีสติรอบคอบ
๓. ทำให้เป็นคนมีเหตุผล
๔. ทำให้พ้นทุกข์ได้
๕. ทำให้พ้นภัยได้
๖. ทำให้ได้ลาภโดยง่าย
๗. ทำให้แคล้วคลาดภัยในยามคับขัน
๘. ทำให้เทวดาลงมาพิทักษ์รักษาผู้ที่ทำ
๙. ทำให้ได้รับการยกย่องสรรเสริญ
๑๐. ทำให้มีความเจริญก้าวหน้า
๑๑. ถ้ามีลูกก็จะได้ลูกที่ดี
๑๒. ทำให้มีความสุข
๑๓. ทำให้เป็นตัวอย่างอันดีแก่อนุชนรุ่นหลัง

วิธีตอบแทนบุญคุณพ่อแม่
๑. เลี้ยงดูท่านยามชรา เอาใจใส่การกินอยู่หลับนอนของท่านไม่ให้เดือดร้อน เราจะรู้ได้อย่างไรว่า      ท่านแก่ เช้าวันใหม่ท่านแก่ไปอีกวันแล้ว เรารู้ว่าท่านแก่ทุกวันก็แล้วกัน จะได้ตอบแทนได้ทุกวัน ไม่ต้องดูอายุ
๒. ช่วยเหลือกิจการงานของท่าน ช่วยแบ่งเบาภาระของท่านเพื่อให้ท่านมีโอกาสพักผ่อนเพราะท่านเหนื่อยมามากแล้ว หรือเปิดโอกาสให้ท่านได้เข้าวัดฟังธรรมะ
๓. ไม่ทำตัวให้เสื่อมเสียแก่ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของท่าน รักษาวงศ์ตระกูลที่ท่านให้มา ดำรงอยู่ได้นานๆคือ ทำความดีนั้นเอง
๔. ประพฤติตนดีควรแก่การรับมรดก ไม่ใช่อยู่เพื่อหวังมรดก ไม่เกะกะเหลวไหล ไม่สุรุ่ยสุร่ายผลาญทรัพย์สมบัติที่ท่านมอบให้
๕. เมื่อท่านล่วงลับไปแล้วก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้อย่างสม่ำเสมอ แม้ท่านจะเกิดในภูมิที่สูงกว่าหรือไม่สามารถรับกุศลได้ การระลึกและแผ่เมตตาจิตให้แก่พ่อแม่เป็นมงคลอันประเสริฐ
พระพุทธองค์ตรัสว่า ถ้าบุตรจะพึงวางบิดามารดาไว้บนบ่าสองข้างของตน ประคับประคองท่านให้อยู่บนบ่านั้น ป้อนข้าวป้อนน้ำให้ท่าน ถ่ายอุจจาระปัสสาวะบนบ่านั้นเสร็จ แม้บุตรจะมีอายุถึง ๑๐๐ ปี และปรนนิบัติท่านเช่นนั้นตลอดชีวิต ก็ยังนับว่าตอบแทนบุณคุณท่านยังไม่หมด พระพุทธองค์ตรัสเพื่ออะไร เพื่อจะได้ให้รู้ว่าสิ่งที่เราควรกระทำก่อนจะไปแสวงหานอกบ้านนั้นอยู่ใกล้เราเหลือเกิน แต่เราไม่เคยมองดูคุณค่าอันนี้เลย ทำให้แก่พ่อแม่ พ่อแม่ก็มีวิบากดีที่ได้ลูกดี แต่คนที่ทำมีมงคลชีวิต

วิธีตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ให้หมด มี ๕ ประการ คือ

๑. เมื่อท่านยังไม่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา ก็พยายามชักนำให้ท่านตั้งอยู่ในศรัทธาให้ได้
๒. ถ้าท่านยังไม่ถึงพร้อมด้วยการให้ทาน ก็พยายามชักนำท่านให้บริจาคทานให้ได้ เริ่มต้นด้วยเราทำแล้วให้ท่านจบ
๓. ถ้าท่านยังไม่มีศีลรักษา ก็พยายามชักนำให้ท่านรักษาศีลให้ได้
๔. ถ้าท่านยังไม่ทำสมาธิ ยังไม่มีความสงบ ก็พยายามชักนำให้ท่านหาความสงบให้ได้
๕ . พยายามส่งเสริมท่านเดินทางสู่มรรค ผล นิพพาน อย่าขวางท่าน
เมื่อท่านถึงมรรค ผล นิพพาน ตอบแทนหมดไหม ? ฉะนั้นอะไรก็แล้วแต่ที่พ่อแม่กำลังทำเพื่อสร้างทางสู่มรรค ผล นิพพาน อย่าขวางท่าน


  • พลังน้ำใจ: 15
ตอบกลับ #1 12 กันยายน 2009, 04:04:50น.
 *)_ *)_ *)_  ตอนสมัยเรียนชอบเอากลอนติดไว้บนหัวนอน  จะได้อ่านก่อนนอนแล้วก็เตือนตัวเอง  เลยเอามาฝากทุก ๆ คนค่ะ


เหม่อมองฟ้าเริ่มขยับปรับเปลี่ยนสี
 
แสงสุรีย์ ส่องแสงผ่าน ม่านพฤกษา
 
ฝูงแมงปอบินว่อนร่อนผ่านมา
 
เหล่านกกาเริ่มโผผินบินกลับรัง
 

 
คิดถึงลูกอยู่อย่างไรที่ไหนหนอ
 
ลูกของพ่อดั้นด้นไปด้วยใจหวัง
 
แม้จะต้องจากบ้านนามาลำพัง
 
เจ้าก็ยังอุตส่าห์สู้ฝ่าฟัน
 

 
หากอยู่บ้านเจ้าคงเป็นเช่นพ่อแม่
 
ความหวังนั้นคงมีแต่แค่ในฝัน
 
เรื่องลำบากเช้าจรดเย็นเห็นทุกวัน
 
ต้องอดทนและบากบั่นหมั่นทำไป
 

 
วัยของพ่อมันก็เริ่มเพิ่มเรื่อยเรื่อย
 
ยามเหน็ดเหนื่อยแรงเริ่มลดไม่สดใส
 
ยามตากแดดตากฝนทนเพื่อใคร
 
เพียงหวังให้เจ้าได้ดีมีวิชา
 

 
ครอบครัวเราทรัพย์สมบัติก็ขัดสน
 
ถึงลำบากเพราะยากจนทนเสาะหา
 
บางครั้งยังถูกเหยียบย่ำไม่นำพา
 
เหมือนพวกเราไม่มีค่าน่าช้ำใจ
 

 
ขอให้เจ้าตั้งใจเรียนทั้งเขียนอ่าน
 
ให้ชำนาญทุกวิชาอย่าเหลวไหล
 
ให้สำเร็จเอาปริญญามาไวไว
 
พ่อคงจะ...ปลื้มใจ...ในตัวดินฯ

 

 

  • พลังน้ำใจ: 15
ตอบกลับ #2 12 กันยายน 2009, 04:11:09น.
 :P :P :P
ลูกรัก  . . .

ในวันที่ลูกเห็นพ่อแก่ตัวลง และความเจ็บป่วยเริ่มย่างกายเข้ามาหา ได้โปรดเข้าใจสังขารของพ่อด้วยนะลูกรัก

ถ้าพ่อกินเลอะเทอะ หรือกินหก และไม่สามารถลุกขึ้นมาแต่งตัวเองได้เวลาป่วยไข้ ก็โปรดเข้าใจพ่อนะ . . . ถึงแม้เมื่อก่อนพ่อจะเป็นคนพล่ำสอนสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกก็ตาม

จำได้ไหม...ลูกรัก เมื่อก่อนพ่อมักพูด ประโยคเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา แต่ลูกก็ไม่เคยพูดขัดคอพ่อ ลูกได้แต่นั่งฟังพ่อพูดตาแป๋ว . . . ตกค่ำพ่ออ่านนิทานกล่อมลูกเรื่องเดิม ๆ ให้ลูกฟังแล้วฟังอีก จนลูกของพ่อหลับสนิท

หากพ่อไม่ต้องการอาบน้ำ ก็อย่าคิดตำหนิพ่อเลยนะลูก ...จำได้ไหม ว่าพ่อต้องวิ่งไล่จับลูกกี่ครั้งกี่หนเพื่อตามตัวลูกมาอาบน้ำ พร้อมทั้งนั่งฟังขอแก้ตัวสารพัดในการไม่อาบน้ำ  แต่! พ่อคนนี้ก็มีวิธีทำให้ลูกของพ่อต้องเดินไปอาบน้ำแต่โดยดี

ลูกรัก... หากลูกเห็นพ่อไม่เข้าใจเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้โปรดอย่ามองพ่อด้วยสายตา และรอยยิ้มที่ดูเยาะเย้ยพ่อคนนี้เลย . . . ขอเวลาให้พ่อได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ในยุคของลูกบ้าง

พ่อสอนสิ่งต่าง ๆ มากมายให้ลูก ทั้งเรื่องการกินดีอยู่ดีและการมีชีวิตที่สุขสบาย

ในบางช่วงขณะที่พ่อต้องสูญเสียความทรงจำ หรือไม่สามารถปะติปะต่อเรื่องราวเวลาเราสนทนากันได้ ให้เวลาพ่อหน่อย . . . พ่อจำเป็นต้องใช้เวลาในการทบทวนความจำ และถ้าพ่อทำไม่ได้ก็ไม่ได้หมายความว่า พ่อเพ้อเจ้อ หรือมีปัญหาทางประสาท และที่สำคัญถึงพ่อไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดให้ลูกฟังได้ แต่พ่อก็เชื่อว่าลูกจะฟังในสิ่งที่พ่อพูดนะ

ถ้าพ่อยังไม่ต้องการกิน ลูกอย่าบังคับพ่อนะ พ่อรู้ว่าพ่อหิวและต้องกินเมื่อไหร่

เมื่อขาของพ่ออ่อนล้า อย่าปล่อยให้พ่อเดินลำพัง

ขอมือลูกจูงพ่อไป เหมือนเมื่อครั้งที่พ่อจูงมือลูกเดินก้าวแรกในชีวิตของลูก

ถ้าวันหนึ่ง พ่อบอกว่า พ่อต้องการตาย! ได้โปรดอย่าโกรธพ่อ เพราะไม่ได้หมายความว่า พ่อไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ แต่....วันหนึ่งลูกจะเข้าใจสิ่งที่พ่อพูด เข้าใจพ่อนะ

เพราะพ่อก็พยายามเข้าใจว่า ไม่มีใครที่จะมีชีวิตอยู่ค้ำฟ้า ทุกคนต้องตาย

สักวันหนึ่ง ลูกจะเข้าใจพ่อ ทุก ๆ สิ่งที่พ่อทำ ทุกย่างก้าวที่ลูกเดิน พ่อพยายามเตรียมสิ่งดี ๆ ไว้รอลูกเสมอ

ลูกรัก...อย่ารู้สึกแย่ หรือโกรธพ่อ พ่อยังอยู่ข้าง ๆ ลูก ลูกก็ต้องอยู่ใกล้ ๆ พ่อ พยายามเข้าใจพ่อ และช่วยพ่อ เหมือนเมื่อครั้งที่พ่อช่วยหนูให้ยืนอยู่บนโลกใบนี้ได้ 

ช่วยพ่อเดิน ช่วยพ่อจนวินาทีสุดท้ายของเส้นทางเดินด้วยความรักและความอดทน พ่อจะจ่ายค่าตอบแทนให้ลูกเป็นรอยยิ้มและความรักที่ยิ่งใหญ่ พ่อจะอยู่กับลูกตลอดไป

พ่อรักลูก . . . จากพ่อ


  • พลังน้ำใจ: 15
ตอบกลับ #3 12 กันยายน 2009, 04:16:02น.
โบราณกล่าวขานกันไว้ว่า
มีธิดาไม่ดีเหมือนมีส้วม
ประพฤติตัวเหลวไหลไม่สำรวม
พ่อแม่อ่วมฤทัยไปจนตาย


ลูกสาวเอ๋ย...จงเป็นเช่นปุบผา
ที่โสภา พริ้งเพริศงามเฉิดฉาย
มีศีลมีธรรมนำใจกาย
เกียรติกำจาย เป็นที่หมายของผู้ดี


เป็นดอกไม้สีงามและกลิ่นหอม
จงอย่ายอมเป็นปุบผาไร้ราศี
อย่าทำตัวไร้ค่าเปื้อนราคี
แต่จงเป็น "กุลสตรี" ของตระกูลฯ

 *)_ *)_

  • พลังน้ำใจ: 15
ตอบกลับ #4 12 กันยายน 2009, 04:22:28น.
แม้มิได้เป็นดอกกุหลาบหอม          ก็จงยอมเป็นเพียงลดาขาว
 แม้มิได้เป็นจันทร์อันสกาว            จงเป็นดาวดวงแจ่มแอร่มตา
 แม้มิได้เป็นหงศ์ ทะนงศักดิ์          ก็จงรักเป็นโนรีที่หรรษา
 แม้มิได้เป็นน้ำแม่คงคา                จงเป็นธาราใสที่ไหลเย็น
 แม้มิได้เป็นมหาหิมาลัย               จงพอใจจอมปลวกที่แลเห็น
 แม้มิได้เป็นวันพระจันทร์เพ็ญ        ก็จงเป็นวันแรมที่แจ่มจาง
 แม้มิได้เป็นต้นสนระหง               จงเป็นพงอ้อสะบัดไม่ขัดขวาง
 แม้มิได้เป็นนุชสุดสอาง               จงเป็นนางที่มิใช่ไร้ความดี
 อันจะเป็นสิ่งใดไม่ประหลาด         กำเนิดชาติดีทรามตามวิถี
 ถือสันโดษ ทำประโยชน์ในชีวี    ให้สมที่เกิดมา น่าชมเอย...ฯ

หวยซอง เลขเด็ด อภิโชควิเคราะห์เลขรวย หวยรัฐบาล : Apichoke.net

Re: อานิสงส์ของการบำรุงบิดามารดา มี ๑๓ ประการ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 12 กันยายน 2009, 04:22:28น. »

  • พลังน้ำใจ: 15
ตอบกลับ #5 12 กันยายน 2009, 05:01:35น.
พ่อแม่ก็แก่เฒ่า จำจากเจ้าไม่อยู่นาน
จะพบจะพ้องพาน เพียงเสี้ยววานของคืนวัน
ใจจริงไม่อยากจาก เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน
แต่ชีพมิทนทาน ย่อมร้าวรานสลายไป
ขอเถิดถ้าสงสาร อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ
คนแก่ชะแรวัย คิดเผลอไผลเป็นแน่นอน
ไม่รักก็ไม่ว่า เพียงเมตตาช่วยอาทร
ให้กินและให้นอน คลายทุกข์ผ่อนพอสุขใจ
เมื่อยามเจ้าโกรธขึง ให้นึกถึงเมื่อเยาว์วัย
ร้องให้ยามป่วยไข้ ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยน
เฝ้าเลี้ยงจนโตใหญ่ แม้เหนื่อยกายก็ยอมทน
หวังเพียงจะได้ผล เติบโตจนสง่างาม
ขอโทษถ้าทำผิด ขอให้คิดทุกทุกยาม
ใจแท้มีแต่ความ หวังติดตามช่วยอวยชัย
ต้นไม้ที่ใกล้ฝัง มี หรือหวังอยู่ทนได้
วันหนึ่งคงล้มไป ทิ้งฝั่งไว้ให้วังเวง

  • พลังน้ำใจ: 15
ตอบกลับ #6 12 กันยายน 2009, 05:05:02น.
จดหมายถึงลูก
พ่อแม่ไม่มี                     เงินทอง                  จะกองให้
จงตั้งใจ                        พากเพียร                เรียนหนังสือ
หาวิชา                         ความรู้                     เป็นคู่มือ
เพื่อยึดถือ                     เอาไว้                     ใช้เลี้ยงกาย
 
พ่อกับแม่                      มีแต่                        จะแก่เฒ่า
จะเลี้ยงเจ้า                   เรื่อยไป                    นั้นอย่าหมาย
ใช้วิชา                         ช่วยตน                    ไปจนตาย
เจ้าสบาย                      แม่กับพ่อ                 ก็ชื่นใจ
 
ถึงแม้จน                       ทนได้                     ไม่ทุกข์หนัก
เท่าลูกรัก                      ประพฤติตน              เป็นคนชั่ว
ลูกกี่คน                         ทนเลี้ยงได้              ไม่หมองมัว
ไม่โศกเศร้า                   เท่าลูกตัว                 ชั่วระยำ
 
พ่อแม่ส่ง                       ให้ลูกเรียน               เพียรศึกษา
พ่อแม่ฝันฝ่า                   อุปสรรค                  แสนหนักเหลือ
พ่อแม่ตั้งหน้า                 หาทุน                     มาจุนเจือ
พ่อแม่ทำเพื่อ                 ลูกเจริญ                  เดินก้าวไกล
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 กันยายน 2009, 05:18:47น. โดย panyada

  • พลังน้ำใจ: 15
ตอบกลับ #7 12 กันยายน 2009, 05:25:57น.
แม่จ๋าตีหนูทำไม?

ควับ ควับ . . เสียงหวดเข้ากลางหลัง
ไม้เรียวดัง ดั่งฟ้าฟาด กลาดกลางหัว
ลูกทำผิดแล้วจ้า . . สำนึกกลัว
เจ็บทั้งตัว ไม้เรียวฟาด . . ไม่ขาดตอน

แม่จ๋า . . แม่จ๋า . . อย่าตีหนู
แม่ . . ก็รู้หนูเจ็บนะ . . แม่จ๋า
แต่ . . พอแม่หายโกรธ ก็ใส่ยา
แล้ว . . แม่จ๋า มาตีหนู อยู่ทำไม?

ยามเล็กเล็ก . . ไม่รู้ว่า . . ไม้เรียวเรียว
ที่ฟาดเฟี้ยว มานี้มอบเจ็บให้
เพราะแม่ . . ไม่รักแน่ รู้แก่ใจ
ยังมาทำโทษ . . ให้เจ็บอุรา

แต่เมื่อโต . . ไม้เรียวที่เคี่ยวเข็ญ
ทำให้หนูเป็นใหญ่ และมีค่า
แม่นั้น . . ดั่งจันทร์เพ็ญ และดารา
ส่องนำทาง ข้างหน้าให้หนูเดิน

จนวันนี้ . . จึงรู้ว่า . .
ไม้เรียว ที่แม่เที่ยวเอาไว้ใช้ตีหนู
แค่หวดลงมาถูกอณู
หนูก็รู้ว่า . . แม่เจ็บกว่าแสนพัน

ทุกวันนี้ . . ลูกของแม่นั้น . . รู้แล้ว
แม่นั้น . . รักลูก ไม่แคล้ว ไม่แปรผัน
ลูกคนนี้ . . ก็รักแม่ และผูกพัน
ขออภิวันท์แทบเท้าของแม่เอย . .


  • พลังน้ำใจ: 15
ตอบกลับ #8 12 กันยายน 2009, 05:32:03น.
เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าของลูกผู้ชายคนหนึ่งที่ตระเวนทั้งเรียนทั้งทำงานไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำแม้เขาจะเติบโตกล้าเก่งกาจขึ้นเรื่อยๆ ความรู้เพิ่มมากขึ้น
โลกใบนี้เริ่มเล็กลงแต่พ่อแม่ที่อยู่บ้านเดิม(ในเมืองจีน)ก็เริ่มแก่ตัวลง

ลูกคนนี้ทำงานอยู่ต่างประเทศ ไม่ค่อยได้กลับมาเยี่ยมพ่อแม่ได้แต่ติดต่อกันทางจดหมาย
โชคดีต่อมามีไอพีการ์ด เลยได้คุยสดกันบ้าง ทุกครั้งแม่ก็จะคอยเตือนให้ระวังสุขภาพของตัวเอง ตั้งใจทำงาน
ไม่ต้องเป็นห่วงแม่ ไม่ต้องกลับมาเยี่ยมบ่อยๆ เพราะจะสิ้นเปลืองเงินทอง...ยิ่งพูดก็ยิ่งซ้ำๆซากๆ
เขารู้ดีว่าแม่เริ่มคิดถึงเขามากจนกระทั่งปีนี้ แม่อายุ 75
เขาจึงตั้งใจจะกลับไปเยี่ยมแม่โดยตั้งใจว่าจะอยู่สัก 1 เดือน จะไม่ทำอะไรเป็นพิเศษ
แต่ขอเป็นเพื่อนแม่เพียงอย่างเดียว พอบอกข่าวนี้ให้แม่ทราบ แม้จะมีเวลาอีกตั้ง 2
เดือนเศษแม่ก็เริ่มเตรียมตัวในการต้อนรับการกลับมาเยี่ยมบ้านของลูกแม่ดึงเอาสมุดบันทึกมาจดสิ่งที่ต้องตระเตรียม แม่เตรียมรายการอาหารที่ลูกชอบ ดึงเอาผ้าห่มที่ลูกเคยชอบห่มมาปะชุนใหม่...
สำหรับคนอายุ 75เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย

พอกลับถึงบ้าน ตอนอยู่บนเครื่องบิน เคยตั้งใจว่าจะขอกอดแม่ให้ชื่นใจสักครั้ง แต่พอมาเห็นแม่
แม่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า ผอมแห้ง หน้าตาเหี่ยวย่นช่างไม่เหมือนแม่คนก่อนหน้านี้เลย...

แม่ใช้เวลาทั้งชั่วโมงเตรียมอาหารที่ลูกเคยชอบ โดยที่หาทราบไม่ว่าเดี๋ยวนี้ลูกไม่ได้ชอบอาหารแบบนั้นแล้ว
และเพราะแม่ตาไม่ค่อยดี รสชาติอาหารจึงแย่มากๆ บางจานก็เค็มจัด บางจานก็จืดสนิท
ผ้าห่มที่แม่อุตส่าห์เตรียมให้ ทั้งหนาทั้งหยาบ ไม่สบายกายเลย
แม่หารู้ไม่ว่าเดี๋ยวนี้ลูกนอนห้องแอร์และใช้ผ้าห่มขนแกะแล้ว แต่เขาก็ไม่บ่นอะไร
เพราะเขาตั้งใจจะกลับมาเป็นเพื่อนแม่จริงๆ

สองสามวันแรก แม่ยุ่งอยู่กับเรื่องจิปาถะ จนไม่มีเวลาพักผ่อน พอเริ่มได้พัก แม่ก็เริ่มพูดมาก
สอนโน่นสอนนี่ พูดแต่ปรัชญาเก่าๆ ซึ่งปรัชญาเหล่านั้น 10 กว่าปีก่อนก็เคยพูดแล้ว พอลูกบอกให้ฟังว่า
ปรัชญาเหล่านั้นไม่ทันสมัยแล้วแม่ก็เริ่มนิ่งเงียบและเศร้าซึม


“เหตุการณ์เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ ผมพบว่าสุขภาพแม่แย่ลง โดยเฉพาะสายตา อาหารบางจานมีแมลงวันด้วย
บางทีอาหารหกบนเตา แม่ก็เก็บใส่จานตามเดิม ครั้นผมพยายามชวนแม่ไปกินนอกบ้าน
แม่ก็บอกอาหารข้างนอกไม่สะอาด ของแปลกปลอมเยอะ เมื่อผมบอกแม่ว่าจะหาคนรับใช้มาช่วยแม่สักคน
แม่ก็โวยวายว่าแม่เองยังสามารถทำงานเลี้ยงดูเด็กให้ผู้อื่นได้เลย ผมเลยพูดไม่ออกพอผมจะออกไปช้อปปิ้ง
แม่ก็จะตามไปด้วย ทำเอาวันนั้นทั้งวัน พวกเราไม่ได้ไปช้อปปิ้งเลย...”

“พอพวกเราเริ่มคุยกันในเรื่องทันสมัย แม่ก็จะหาว่าพวกเราเพี้ยน ผมก็เริ่มบอกแม่อย่างไม่ค่อยเกรงใจว่า
แม่ นี่มันสมัยใหม่แล้ว แม่ต้องหัดมองโลกในแง่ใหม่ๆบ้าง... ช่วงครึ่งเดือนหลังที่อยู่กับแม่
ผมเริ่มขัดแม่มากขึ้นเรื่อยๆ และรู้สึกรำคาญเพิ่มมากขึ้นแต่เราไม่เคยทะเลาะกันนะ พอผมขัดแม่
แม่ก็หยุดกึกลง ไม่พูดไม่จา ในตามีแววเหม่อลอย – โลกซึมเศร้าแบบคนแก่ของแม่ชักหนักขึ้นเรื่อยๆ”

“ได้เวลาที่ผมจะต้องเดินทางกลับ
แม่ดึงกล่องกระดาษกล่องหนึ่งออกมาในนั้นเป็นข่าวหนังสือพิมพ์ที่แม่ตัดเก็บไว้ในช่วงที่ผมไปอยู่เมืองนอก
แม่เริ่มสนใจข่าวต่างประเทศเมื่อผมเดินทางไปนอก ทุกครั้งที่มีข่าวตึงเครียดในประเทศนั้นๆ
แม่จะตัดข่าวเก็บไว้ ตั้งใจจะมอบให้ผมตอนที่ผมกลับมา แม่พูดอยู่เสมอว่า อยู่นอกบ้านนอกเมืองต้องระวังตัวให้มากๆ
ครั้งหนึ่งมีเรื่องคนญี่ปุ่นต่อต้านและข่มเหงคนจีน มีการปะทะกันด้วย แม่เป็นห่วงมาก
ถามเพื่อนบ้านว่าจะส่งข่าวไปเตือนผมที่ญี่ปุ่นได้อย่างไรตอนนั้นผมสอนอยู่ที่ญี่ปุ่น”


แม่ดึงเอาปึกกระดาษข่าวนั้นออกมาอย่างยากลำบากวางใส่ในมือผมเหมือนของวิเศษชิ้นหนึ่ง มันหนักมาก
ผมเริ่มรู้สึกลำบากใจเพราะผมไม่อยากนำกลับไป
มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้วผมรู้ว่าแม่เก็บมันด้วยความยากลำบาก แม่สายตาไม่ค่อยดี ต้องใช้แว่นขยาย
อ่านได้วันละ 2 หน้าก็เก่งแล้ว นี่ยังตัดเก็บได้ขนาดนี้ ทันใดนั้นมีข่าวแผ่นหนึ่งปลิวหลุดลงมา
แม่รีบเอื้อมไปหยิบแต่แทนที่แม่จะเก็บเข้ากองเดิม แม่กลับพับเก็บไว้ในกระเป๋าของตัวเอง

ผมรู้สึกเอะใจ เลยถามว่า “แม่ นั่นกระดาษอะไร ขอผมดูหน่อยนะ”แม่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
จึงล้วงออกมาวางบนข่าวปึกนั้นแล้วหุนหันเข้าครัวไปทำกับข้าวทันที


ผมหยิบแผ่นข่าวนั้นขึ้นมาดู มันเป็นบทความบทหนึ่ง ชื่อว่า “เมื่อฉันแก่ตัวลง”
ตัดจากหนังสือพิมพ์เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2004
เป็นช่วงที่ผมเริ่มเถียงกับแม่ถี่มากขึ้นทุกทีบทความนั้นคัดมาจากนิตยสารฉบับหนึ่งของเม็กซิโก
ฉบับเดือนพฤศจิกายน ผมอ่านบทความนั้นทันที ....



เมื่อฉันแก่ตัวลง.....ไม่ใช่ฉันที่เคยเป็น ขอโปรดเข้าใจฉัน
มีความอดทนต่อฉันเพิ่มขึ้นอีกสักนิด

ถ้าฉันทำน้ำแกงหกใส่เสื้อตัวเอง....ถ้าฉันลืมวิธีผูกเชือกรองเท้า
ขอให้คิดถึงตอนเธอเด็กๆ...ที่ฉันสอนเธอหัดทำทุกอย่าง


ถ้าฉันเริ่มพร่ำบ่นแต่เรื่องเดิมๆที่เธอรู้สึกเบื่อ….ขอให้อดทนสักนิด
อย่าเพิ่งขัดฉัน ตอนเธอยังเล็กๆ ฉันยังเคยเล่านิทานซ้ำๆซากๆ จนเธอหลับเลย

ถ้าฉันต้องการให้เธอช่วยอาบน้ำให้ อย่าตำหนิฉันเลยนะ
ยังจำตอนที่เธอยังเล็กๆได้ไหม
ฉันต้องทั้งกอดทั้งปลอบเพื่อให้....เธอยอมอาบน้ำ


ถ้าฉันงงกับวิทยาการใหม่ๆโปรดอย่าหัวเราะเยาะฉัน….
จำตอนที่ฉันเฝ้าอดทนตอบคำถาม
“ทำไม ทำไม”ทุกครั้งที่เธอถามได้ไหม



ถ้าฉันเหนื่อยล้าจนเดินต่อไม่ไหว
ขอ....จงยื่นมือที่แข็งแรงของเธอออกมาช่วยพยุงฉัน
เหมือนตอนที่ฉันพยุงเธอให้หัดเดินในตอนที่เธอยังเล็กๆ



หากฉันเผอิญลืมหัวข้อที่กำลังสนทนากันอยู่โปรดให้เวลาฉันคิดสักนิด
ที่จริงสำหรับฉันแล้ว.....กำลังพูดเรื่องอะไรไม่สำคัญหรอก
ขอเพียงมีเธออยู่ฟังฉัน......ฉันก็พอใจแล้ว



ตอนนี้ถ้าเธอเห็นฉันแก่ตัวลง...ไม่ต้องเสียใจ...ขอให้เข้าใจฉัน....สนับสนุนฉัน
ให้เหมือนตอนที่ฉันสนับสนุนเธอตอนเธอเพิ่งเรียนรู้อะไรใหม่ๆ


ในตอนนั้น....ฉันนำพาเธอเข้าสู่เส้นทางชีวิต
ตอนนี้....ขอให้เธอเป็นเพื่อนฉันเดินไปให้สุดเส้นทางของชีวิต……
โปรด....ให้ความรักและความอดทนต่อ....ฉัน



ฉันจะยิ้มด้วยความขอบใจ....
ในแววตาอันฝ้าฟางของฉัน....มีแต่ความรักอันหาที่สิ้นสุดมิได้
ของฉันที่มีให้กับ..........เธอ


ผมอ่านบทความนั้นรวดเดียวจบทันที.... เกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ตอนนั้นแม่เดินออกมา
ผมแกล้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นตอนแรกแม่คงอยากให้ผมได้อ่านบทความนี้หลังจากผมกลับไปแล้วจึงคะยั้นคะยอให
้ผมนำข่าวปึกนั้นกลับไป ตอนผมจัดกระเป๋าเดินทาง
ผมต้องสละไม่เอาสูทกลับไป 1 ตัว
จึงยัดเก็บปึกข่าวเหล่านั้นเข้าไปได้รู้สึกแม่จะดีใจมากเหมือนกับว่าหนังสือพิมพ์เหล่านั้นเป็นยันต์โชคลา
ภสำหรับผมและเหมือนกับว่าการที่ผมยอมรับหนังสือพิมพ์เหล่านั้นผมได้กลับมาเป็นเด็กดีของแม่อีกครั้งหนึ่งแม่ตามมาส่งผมจนถึงรถแท็กซี่เลยที่เดียว


หนังสือพิมพ์ที่ผมนำกลับมาเหล่านั้น ไม่ได้ใช้ทำประโยชน์อะไรเลย แต่บทความ
“เมื่อฉันแก่ตัวลง” บทนั้น ผมได้ตัดเก็บไว้ในกรอบ เอาไว้ข้างตัวผมตลอดไป

ตอนนี้ ผมขออุทิศบทความนี้ ให้กับลูกๆทั้งที่พเนจรและไม่ได้พเนจรทั้งหลาย...ถ้ามีเวลาว่างก็แวะไปหาท่าน
หรือไม่ก็โทรไปหาท่านบ้าง บอกท่านว่าคุณอยากกินอาหารที่ท่านทำเสมอ....
ท่านไม่ได้ต้องการอะไรจากเรามากไปกว่า...แค่ได้รับรู้ว่า
เราสุขสบายดี..ถ้าหากเราไม่สามารถไปเยี่ยมท่านได้....ตอนคุยโทรศัพท์กับท่าน...โปรดยิ้มให้กว้างๆและยิ้มบ
่อยๆ...แม้ท่านจะมองไม่เห็น..แต่ท่านจะรู้สึกได้......

  • พลังน้ำใจ: 15579
ตอบกลับ #9 12 กันยายน 2009, 10:50:18น.
ซาบซึ้งจังเลยคะ  ขอบคุณมาก ๆ ที่ได้นำบทความนี้มาเผยแพร่
ทำดีต้องได้ดีซินะ 

  • พลังน้ำใจ: 662
ตอบกลับ #10 12 กันยายน 2009, 19:27:36น.

  • พลังน้ำใจ: 78
ตอบกลับ #11 06 ธันวาคม 2010, 19:53:44น.
 Y$@ขอบคุณมากๆ กลับบทความดีๆ Y$@

  • พลังน้ำใจ: 8
ตอบกลับ #12 12 ธันวาคม 2010, 21:05:13น.
s#y s#y s#yอ่านได้รู้สึกรักคุณพ่อคุณแม่มากยิ่งขึ้นไม่อยากให้มีการพรากจากกันเลยแต่ก็เป็นไปไม่ได้ทุกวันนี้ก็คงทำได้แต่ตอบแทนพระคุณท่านให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะแม่เคยเล่าให้ฟังบ่อย ๆ ว่าถ้าแม่ตายไปแล้วต่อให้มีเงินมากมายแค่ไหนก็ไปหาพ่อกับแม่ไม่ได้นะลูกนะ ทุกคนเห็นด้วยกับคำพูดคำนี้หรือไม่ h[* h[* h[*

  • พลังน้ำใจ: 0
ตอบกลับ #13 07 กุมภาพันธ์ 2011, 15:10:18น.
ทำงานเหนื่อยมาก ๆ ก็ขอผ่อนคลายหน่อยนะคะ


Safetyburapha

sa ออฟไลน์
  • พลังน้ำใจ: 85
ตอบกลับ #14 26 มีนาคม 2011, 15:45:43น.
ขอบคุณค่ะที่หาข้อมูลดีๆมาให้อ่าน+1พลังน้ำใจค่ะ

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #15 22 สิงหาคม 2011, 22:56:55น.
NooNa
Newbie

พลังน้ำใจ: 6


 T|g T|g T|g
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

  • พลังน้ำใจ: 11
ตอบกลับ #16 11 มีนาคม 2017, 11:21:06น.

  • พลังน้ำใจ: 15
ตอบกลับ #17 11 มีนาคม 2017, 16:28:41น.
 FI|  J@:  lo# ขอบคุณครับ รักพ่อ รักแม่ครับ  f|c


ทางเข้า sbobet

 

เว็บไซต์ในเครือข่ายอภิโชค : apichokeonlin.com | apichoke.net | apichoke.biz | apichoke.me | apichoke.org | apichoke.info
"ศาสตร์ของการคำนวณหวย สถิติหวยความน่าจะเป็น บนเว็บนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน-นักคำนวณ และบุคคลทั่วไปตลอดจนเลขจากไสยศาสตร์ต่างๆ การที่ใครจะถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือถูกหวย รวยด้วยหวย ก็เป็นเพียงแต่ การเสี่ยงโชค เสี่ยงดวง เท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ และไม่ควรงมงาย หากต้องการเสี่ยงโชค ซื้อหวย เล่นหวย ก็ขอให้ เสี่ยงโชคแต่พอเพียงตามกำลังของตนเอง อย่าซื้อเกินกำลังอาจทำให้เดือนร้อนได้"
คำเตือน : อย่าหลงเชื่อหากมีผู้อ้างตนเป็นอาจารย์ดังสามารถให้หวยถูก100%หรือให้ถูกทุกงวดแน่นอน หรืออวดอ้างว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่กองสลาก แล้วเรียกเก็บเงินจากท่าน
ข้อมูลในเว็บนี้ใช้ประกอบเสี่ยงโชคสำหรับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น ไม่สนับสนุนหวยที่ผิดกฏหมาย