หวยซอง เลขเด็ด อภิโชควิเคราะห์เลขรวย หวยรัฐบาล : Apichoke.net

ปกิณณกะ => สุขภาพ-สมุนไพร => ข้อความที่เริ่มโดย: pedcy ที่ 25 มิถุนายน 2014, 09:53:21น.

หัวข้อ: ประโยชน์ของ "กล้วยน้ำว้า" ทั้งสุกและดิบ
เริ่มหัวข้อโดย: pedcy ที่ 25 มิถุนายน 2014, 09:53:21น.

(http://upic.me/i/zh/10369212_482551225180637_583686821812829348_n.jpg) (http://upic.me/show/51623474)


 a|a พฤติกรรมของคนเราเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตอนเช้าไม่กินข้าว ตอนดึกกินอาหารเข้าไปมาก บางรายจึงมีอาการกรดไหลย้อน หรือบางคนก็เป็นโรคกระเพราะ มาดูวิธีง่ายๆ ที่ใช้ในการบรรเทาอาการปวดท้องจากโรคกระเพาะกันนะคะ
 
ตำราสมุนไพรไทยระบุว่า กล้วยน้ำว้า ใช้ทำยาได้ทั้งดิบและสุก โดยเฉพาะ กล้วยดิบ นั้นมีแทนนิน สารฝาดสมานสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้ดี จึงช่วยป้องกันผนังกระเพาะอาหารและลำไส้ไม่ให้เชื้อโรคและของรสเผ็ดจัด เช่น พริก เข้าไปทำลายผนังเนื้อเยื่อกระเพาะลำไส้ ช่วยแก้ท้องเสียได้ดี
 
สำหรับกล้วยที่เพิ่งเริ่มสุกหรือห่ามๆ ซึ่งเปลือกยังมีสีเขียวอยู่ประปรายนั้น เป็นทั้งยาและอาหารที่ดีมากสำหรับคนท้องเสีย เพราะนอกจากจะช่วยแก้ท้องเสียแล้วยังช่วยหล่อลื่นลำไส้เพิ่มกากเวลาขับถ่าย
 
กล้วยกึ่งดิบกึ่งสุกนี่เองที่มีธาตุโพแทสเซียมสูงมาก เวลาท้องร่วงร่างกายจะสูญเสียโพแทสเซียมไปเยอะ การกินกล้วยห่ามจึงเป็นการชดเชยได้ดี ถ้าหากคนท้องเสียปล่อยให้ร่างกายสูญเสียโพแทสเซียมไปมากๆ อาจทำให้การเต้นของหัวใจผิดปกติถึงขั้นหัวใจวายได้
 
กล้วยห่ามยังมีสารเซโรโทนินช่วยออกฤทธิ์กระตุ้นให้ผนังกระเพาะอาหารสร้างเยื่อเมือกมากขึ้น จึงช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหาร

สำหรับวิธีกินกล้วยเป็นยาเพื่อรักษาอาการของโรคกระเพาะอาหารแบบจริงๆ จังๆ นั้น มีขั้นตอนยุ่งยากอยู่บ้าง เริ่มจากการนำกล้วยดิบมาฝานเป็นแว่นบางนำไปตากแดดจัดๆ ให้แห้ง หรืออบที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส
 
ห้ามใช้ความร้อนสูงกว่านี้เด็ดขาด เพราะถ้าใช้ความร้อนสูง สารในกล้วยที่มีฤทธิ์รักษาโรคกระเพาะนั้นจะสูญเสียไป หรือหมดฤทธิ์ทันที
 
เริ่มจากการไปหากล้วยดิบที่แก่จัด 1 หวี มาปอกเปลือก หั่นแว่น ตากแดด เลือกวันที่มีแดดจัดๆ หน่อย ตากกันแดดเดียวก็เห็นผล
 
การหั่นกล้วยถ้าหั่นขนาดบางไม่เท่ากันก็จะเจอปัญหาเวลาเอาไปตากแดด คือจะแห้งได้ไม่เท่ากัน เมื่อนำมาบดหรือตำก็จะได้ความละเอียดไม่สม่ำเสมอ มีทั้งส่วนที่กรอบบางและเหนียวหนึบ
 
หลังจากนั้น ก็นำมาวางเรียงในถาด ไม่ให้แต่ละชิ้นทับกัน เพื่อจะได้โดนแดดถ้วนทั่ว ใช้เวลาตากอยู่ไม่กี่ชั่วโมง ช่วงใกล้เที่ยงไปจนถึงบ่าย 3 โมง ก็เรียบร้อย แห้งสนิท
 
พอจับดูแผ่นกล้วย เห็นว่าแห้งดีแล้ว ก็เอามาตำ ตำด้วยครกหิน
 
วิธีใช้ก็ไม่ยุ่งยากอะไร แค่ละลายผงกล้วยกับน้ำร้อนหรือจะเติมน้ำผึ้งด้วยก็ได้ กินวันละ 3 คร้้ง ก่อนอาหาร
 
ต้องยอมรับว่ายาผงกล้วยทำเองนี่ได้ผลตามสรรพคุณจริงๆ แม้จะไม่ได้ทำให้อาการโรคกระเพาะอาหารหายขาดเป็นปลิดทิ้ง แต่ก็ช่วยบรรเทาอาการลงไปได้กว่าครึ่ง ทำให้เราไม่ต้องพึ่งพายาหมอสั่งมากจนเกินไปนัก
 
ทราบมาว่าผงกล้วยดิบนี้สามารถทำได้โดยใช้ได้ทั้งกล้วยน้ำว้าดิบหรือกล้วยหักมุกดิบ ซึ่งสรรพคุณในการรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารนั้นผ่านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มาหมดแล้ว
  |g|  |g| |g|
 
หัวข้อ: Re: ประโยชน์ของ "กล้วยน้ำว้า" ทั้งสุกและดิบ
เริ่มหัวข้อโดย: games99 ที่ 31 กรกฎาคม 2014, 16:11:21น.
 $|8 $|8 $|8 $|8 $|8 $|8
หัวข้อ: Re: ประโยชน์ของ "กล้วยน้ำว้า" ทั้งสุกและดิบ
เริ่มหัวข้อโดย: pedcy ที่ 30 สิงหาคม 2014, 10:59:55น.



(http://upic.me/i/dc/10354872_330242983821651_5878621081409788284_n.jpg) (http://upic.me/show/52511977)



‎ใช้เวลาเพียง‬ 5 วิ...วิธีเก็บกล้วยไว้กินนานๆ
 คนชอบกินกล้วย ซื้อทีเป็นหวี แต่กินไม่ทัน มีวิธีเก็บกล้วยโดยใช้เวลาเพียงแค่ 5 วินาที ทำให้เราสามารถเก็บกล้วยไว้กินนานๆไม่
 เน่าเร็ว
 "เพียง 5 วินาทีโคตรง่าย!!
เก็บกล้วยให้อยู่กับเราไปนานๆ"
 ไปเจอเคล็ดลับง่ายๆในเว็บ Grape ที่เป็นที่แพร่หลายในญี่ปุ่น
 แต่เหมาะสำหรับเมืองไทยอย่างเรามากๆ
นั่นคือ การเก็บกล้วยให้อยู่ได้นานๆ ไม่เน่าเร็ว ด้วยเวลา 5 วิ!!
 ‪#‎วิธีการคือ‬
1. เอาฟิล์มยืดห่ออาหาร (หรือพลาสติกwrap)
มาพันหุ้มขั้วข้างบนกล้วยส่วนที่ตัดออกมาจากเครือกล้วยตามภาพ
 2.เสร็จสิ้น!!
 ง่ายมั้ยล่ะ ไปลองใช้ดูแล้วกันนะจ้ะ!!
 ขอขอบคุณข้อมูลจาก ชมรมคนรักสุขภาพ