<a href="http://www.youtube.com/v/lR70W-eI83Y?version=2&amp;amp;hl=th_TH&amp;amp;color1=aaeefff&amp;amp;color2=dddccff &amp;amp;border=1&amp;autoplay=1&amp;loop=1" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/lR70W-eI83Y?version=2&amp;amp;hl=th_TH&amp;amp;color1=aaeefff&amp;amp;color2=dddccff &amp;amp;border=1&amp;autoplay=1&amp;loop=1</a>

[size=22pt]คำถาม: เราจะสังเกตคนได้อย่างไร ว่าใครเป็นคนดีหรือคนเลว?


คำตอบ: คนจะดีหรือเลว มันขึ้นอยู่ที่ใจของเขา ถ้าใจของเขาคิดดีก็จะเป็นผลให้พูดดี ทำดี ถ้าใจของเขาคิดชั่ว ก็จะส่งผลให้พูดชั่วทำชั่ว

โดยทั่วไปแล้ว มีคนบางคนชอบคิดชั่วๆ ตลอดเวลา แต่แสร้งทำเป็นพูดดี ทำดีต่อหน้าคน ถ้าลับหลังระหว่างอยู่ในกลุ่มคนเลวๆ ด้วยกัน เขาก็จะพูดเลว ทำเลว คนประเภทนี้ถ้าคบกันเผินๆ เราก็จะหลงเข้าใจว่าเขาเป็นคนดี

วิธีสังเกตคนว่าเป็นคนดีหรือคนเลววิธีง่ายๆ โดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว และเราเองก็ไม่จำเป็นจะต้องมีฤทธิ์ มีอำนาจพิเศษถึงกับอ่านใจคนได้ คือให้สังเกตดูว่า เท่าที่ผ่านมาคนนั้นมีความกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ผู้มีอุปการคุณ หรือต่อผู้มีคุณคนอื่นๆ หรือเปล่า บางคนแม้ว่าเขาอาจจะโง่ไปบ้าง การศึกษาต่ำไปบ้าง สะเพร่าไปบ้าง แม้ที่สุดอาจจะมีนิสัยเกะกะเกเรไปบ้าง แต่ถ้าเขายังดูแลพ่อแม่ ยังรับใช้ครูบาอาจารย์ ไม่ล่วงเกินผู้มีพระคุณให้เสียใจ ก็อย่าไปตั้งข้อรังเกียจเขาเลย เพราะนั่นแสดงว่าธาตุแท้จริงๆ ของเขายังดี ความกตัญญูของเขายังมีอยู่ มีทางฝึกให้เป็นคนดีได้


ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี

ถ้าจะรับคนประเภทนี้เอาไปเป็นเพื่อนผู้ร่วมงาน เป็นลูกน้องเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา เขาก็ยังมีแววเอาดีได้ พยายามอดทนฝึกฝนถ่ายทอดนิสัยดีๆ ให้กันไปเถอะ แต่ตรงกันข้าม ใครก็ตามถึงแม้จะมีความรู้ ความสามารถมีฝีมือเก่งกาจแค่ไหน แต่ไม่รู้คุณคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณของพ่อแม่ คนประเภทนี้เป็นประเภทเลวแท้ เพราะไม่ว่าใครๆ จะทำดีกับเขาอย่างไร ก็ไม่มีทางเกินพ่อแม่เขาได้ ขนาดพ่อแม่เขายังไม่เห็นความดี เขาก็ไม่มีทางเห็นความดีของใครได้ คนอย่างนี้คบด้วยก็อันตราย ไม่ควรเข้าใกล้


รู้จักหน้า ไม่รู้จักใจ อยากจะรู้ให้ได้ก็ต้องคบ ต้องดูกันไปนานๆ และใช้มาตรฐานคนดีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นเครื่องวัด คือ คนดี ต้องไม่โง่ (มีปัญญา) ไม่แล้งน้ำใจ (มีกรุณา) และไม่เป็นพิษเป็นภัย (มีความบริสุทธิ์) คุณสมบัติทั้ง 3 อย่างนี้ คือคุณสมบัติของคนดีตามที่พระพุทธองค์ทรงวางแบบไว้ให้   

วิชาเจ้าเสน่ห์มีอยู่ ๔ ข้อ พุทธองค์ให้ไว้ มีดังนี้

๑. หมั่นให้ทาน ทานที่นี้ไม่ได้หมายถึงตักบาตร ทานในที่นี้หมายถึงมีอะไรก็ปันกันกิน ปันกันใช้ รวมทั้งปันกันดังด้วย ไม่ใช่ดังคนเดียว
๒. ฝึกเป็นคนพูดเพราะๆ สิ่งให้กำลังใจคนไม่มีอะไรเกินคำพูดเพราะๆ เอาคำเหล่านั้นมาให้กันบ้าง โดยไม่ต้องลงทุนอะไร
๓. ความรู้ความสามารถที่มีอยู่ ช่วยใครได้ก็ช่วย อย่าหวง นี่คือที่มาของ
เสน่ห์
๔. ควรมีความจริงใจกับทุกคน ไม่แทงใครข้างหลัง ไม่ว่าใครลับหลัง มีแต่ความจริงใจ ความปลอดภัยให้ พูดง่ายๆ โปรยเสน่ห์ด้วยการให้ ให้ทั้งของ ให้ทั้งคำพูด ให้ทั้งกำลังใจ ให้ทั้งความปลอดภัยแก่เขา ไม่รักก็ให้มันรู้กันไปเลย

พร 4 ข้อจากท่าน ว.วชิรเมธี

1. อย่าเป็นนักจับผิด
คนที่คอยจับผิดคนอื่น แสดงว่า หลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่น ไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง ‘กิเลสฟูท่วมหัว ยังไม่รู้จักตัวอีก’ คนที่ชอบจับผิด จิตใจจะหม่นหมอง ไม่มีโอกาส ‘จิตประภัสสร’ ฉะนั้น จงมองคน มองโลกในแง่ดี’แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ถ้ามองเป็น ก็เป็นสุข’

2. อย่ามัวแต่คิดริษยา
‘แข่งกันดี ไม่ดีสักคน ผลัดกันดี ได้ดีทุกคน’
คนเราต้องมีพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
คนที่เราริษยาเป็นการส่วนตัว มีชื่อว่า ‘เจ้ากรรมนายเวร’ ถ้าเขาสุข เราจะทุกข์ ฉะนั้น เราต้องถอดถอน
ความริษยาออกจากใจเรา เพราะไฟริษยา เป็น ‘ไฟสุมขอน’ (ไฟเย็น) เราริษยา 1 คน เราก็มีทุกข์ 1 ก้อน
เราสามารถถอดถอนความริษยาออกจากใจเราโดยใช้วิธี ‘แผ่เมตตา’
หรือ ซื้อโคมมา แล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยา แล้วปล่อยให้ลอยไป

3. อย่าเสียเวลากับความหลัง
90% ของคนที่ทุกข์ เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ ‘ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น’
มนุษย์ที่สลัดความหลังไม่ออก เหมือนมนุษย์ที่เดินขึ้นเขาพร้อมแบกเครื่องเคราต่างๆ ไว้ที่หลังขึ้นไปด้วย
ความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว จงปล่อยมันซะ ‘อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีต มากรีดปัจจุบัน’
‘อยู่กับปัจจุบันให้เป็น’ ให้กายอยู่กับจิต จิตอยู่กับกาย คือมี ‘สติ’ กำกับตลอดเวลา

4. อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ
‘ตัณหา’ ที่มีปัญหา คือ ความโลภ ความอยากที่เกินพอดี เหมือนทะเลไม่เคยอิ่มด้วยน้ำ
ไฟไม่เคยอิ่มด้วยเชื้อ ธรรมชาติของตัณหา คือ ‘ยิ่งเติมยิ่งไม่เต็ม’
ทุกอย่างต้องดูคุณค่าที่แท้ ไม่ใช่ คุณค่าเทียม เช่น คุณค่าที่แท้ของนาฬิกา คืออะไร
คือ ไว้ดูเวลาไม่ใช่มีไว้ใส่เพื่อความโก้หรู
คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์มือถือ คืออะไร คือไว้สื่อสาร แต่องค์ประกอบอื่นๆ ที่เสริมมาไม่ใช่คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์
เราต้องถามตัวเองว่า ‘เกิดมาทำไม’ ‘คุณค่าที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน
‘ตามหา ‘แก่น’ ของชีวิตให้เจอ
‘ คำว่า ‘พอดี’ คือ ถ้า ‘พอ’ แล้วจะ ‘ดี’ รู้จัก ‘พอ’ จะมีชีวิตอย่างมีความสุข’

คำสอนดีๆ พระมหาสมปอง

อย่าเอาชีวิตเราไปฝากที่เท้าใคร
เพราะเมื่อเค้าเดินจากไป เราจะไม่เหลืออะไรเลย
จะสุขหรือทุกข์ เราเลือกได้ วันนี้คุณ...
อย่า...
ทำ...
นม...
หก...

กลอนธรรมะเตือนใจ
.. ไม่มีใครเกิดมาไร้ค่า
แม้แต่คนโง่ที่สุดยังฉลาดในบางเรื่อง
และคนฉลาดที่สุด
ก็ยังโง่ในหลายเรื่อง ..

.. ไม่มีอะไรเสียเวลาไปมากกว่า
การคิดที่จะย้อนกลับไปแก้ไขอดีต

ไม่เคยมีอะไรช้าเกินไป
ที่จะทำใหสิ่งที่ตนฝัน ..

.. คนที่ไม่เคยหิว
ย่อมไม่ซาบซึ้งรสของความอิ่ม

ความสำเร็จที่ผ่านความล้มเหลว
ย่อมหอมหวานกว่าเดิม ..

กลอนธรรมะเตือนใจ

.. อันตรายที่สุดของชีวิตคนเราคือ การคาดหวัง
อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่
เหตุผลของคนๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่เหตุผลของคน
อีกคนนึง ถ้าคุณไม่ลองก้าว คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่า
ทางข้างหน้าเป็นอย่างไร
ปัญหาทุกอย่างล้วนอยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น
ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป
หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ
มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง ..



.. คนเรา
ไม่ต้องเก่งไปทุกอย่าง
แต่จงสนุกกับงานทุกชิ้น
ที่ได้ทำ ..

หัวใจของการเดินทางไม่ได้อยู่ที่จุดหมาย
หากอยู่ที่ประสบการณ์สองข้างทาง .. มากกว่า

 

 

                                 
                          
                                                   ขอให้มีสุขภาพดี
                  ชีวีสดใส ทำการสิ่งใดๆ สมความปรารถนาค่ะ

<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1370320397.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1370320397.swf</a>                              
                   << MT14 >>

 iluแต้ม TF สูตร 910 เป็นต้นไป ไม่มีเลยค่ะ ขอความอนุเคราะห์ด้วยค่ะ  รวยๆๆๆๆๆๆๆๆ

iluแต้ม TF สูตร 910 เป็นต้นไป ไม่มีเลยค่ะ ขอความอนุเคราะห์ด้วยค่ะ  รวยๆๆๆๆๆๆๆๆ

บุญเก่าที่ทำให้ได้ลาภก้อนใหญ่


๑) เคยเป็นผู้ให้ลาภลอยแก่คนอื่น โดยที่เขาไม่คาดฝัน หรือโดยที่ตนเองก็ไม่ได้คาดหมายไว้ก่อน เมื่อพบเห็นใครน่าช่วยเหลือก็ช่วยเลยทันที เมื่อทำให้คนอื่นได้รับลาภ ก็ย่อมสมควรแก่การเป็นผู้รับลาภในอนาคต ลาภที่ให้ผู้อื่นไม่จำเป็นต้องมากมาย แต่อย่างน้อยต้องทำให้เขายินดีปรีดา หรือทำให้เขารอดจากภาวะยากลำบากแบบฉับพลันทันที (ลาภที่ได้รับอาจมาจากหลายทางโดยไม่คาดฝัน อย่าแค่ไปคิดถึงการถูกล็อตเตอรี่อย่างเดียวนะครับ ประเภทอยู่ดี ๆ มีเงินโอนเข้าบัญชีหลายแสนแบบสืบหาต้นตอไม่ได้ แจ้งธนาคารตรวจสอบแล้วก็ไม่รู้ความเป็นมา อันนี้เคยเกิดกรณีพิลึกพรรค์นี้มาแล้วจริง ๆ)


๒) เคยเป็นผู้ตั้งใจให้คนอื่นดีใจกับการได้รับของขวัญ ของกำนัลโดยไม่คาดฝัน มีมากครับพวกชอบเซอร์ไพรส์ชาวบ้านโดยไม่เปิดโอกาสให้รู้เนื้อรู้ตัว หวังจะเห็นเขาตื่นเต้นยินดีสุดขีด ความหวังชนิดนั้น ถ้าทำสำเร็จก็ให้ผลเป็นลาภลอยก้อนใหญ่ได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ารู้ว่าใครอยากได้อะไรมานาน รู้ว่าชีวิตเขาจะเปลี่ยนไปในทางดีขึ้นหากได้สิ่งนั้น นั่นแหละตรงเป้าอย่างจังทีเดียว

(คลิกเพื่อแสดงรูปที่ซ่อนอยู่.)
(คลิกเพื่อแสดงรูปที่ซ่อนอยู่.)

  {"b}กำลังใจยามค่ำคืนมีให้เสมอค่ะ นอนหลับฝันดีทุกท่านนะคะ

 

สรพงศ์ ชาตรี จัดงานบำเพ็ญกุศลครบรอบ 141 ปี แห่งการมรณภาพของหลวงปู่โต




นครราชสีมา วันที่ 22 มิถุนายน 2556 นายสรพงศ์ ชาตรี ประธานมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) เมตตาบารมี พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนจัดงานบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายครบรอบปีที่ 141 แห่งการมรณภาพของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) ณ มหาวิหารมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) บ้านโนนกุ่ม อำเภอสีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยทางมูลนิธิฯได้บำเพ็ญสาธารณกุศลอุทิศถวายรถตู้จำนวน 2 คัน ให้กับวัดหลักสี่พระอารามหลวง กทม.,วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร กทม. พร้อมมอบเครื่องดนตรีแก่วงโยธวาฑิตโรงเรียนสุรนารีวิทยา จ.นครราชสีมาและโรงเรียนสตรีวัดระฆังโฆสิตาราม กทม. ตลอดจนมอบทุนการศึกษาแก่พระภิกษุสามเณรวัดดาวดึงศึกษาราม กทม.และนักเรียนโรงเรียนสีคิ้วสวัสดิ์ผดุงวิทยา จ.นครราชสีมา รวมทั้งยังได้มอบเบี้ยยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้สูงอายุ อ.สีคิ้ว โดยมีพระพรหมเมธี กรรมการมหาเถระสมาคม วัดสัมพันธวงศ์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

พบต้นหมากเหมือนพญานาค-ดึงตะเคียนขึ้นอีก3
พบต้นหมากเหลืองแตกใบอ่อนเหมือนพญานาค 2 ตัว‏ มีถึง 2 ก้าน ขณะที่'อุตรดิตถ์'ฮือฮา!พบตะเคียนเพิ่มอีก 3 ต้นกลางน้ำน่านวังกะพี้ ชาวบ้านแห่ขอเลขเด็ด

26 มิ.ย.56 ที่วัดโพสพผลเจริญ เลขที่18 หมู่ที่18 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จากการเปิดเผยของ พระรัตนชัย สุทนโต พระลูกวัดโพสพผลเจริญ เล่าว่า เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีโยมนำต้นหมากเหลืองมาถวายให้กับทางวัด และอาตมาได้รับไว้เพื่อจะได้ปลูกริมรั้วที่วัด ตั้งไว้ก็ไม่พบสิ่งแปลกอะไรแต่พอมาถึงวันที่ 25 มิ.ย.56 อาตมาได้นำกระถางใบใหญ่มาเปลี่ยนให้ใหม่ก็พบกับว่า ที่ก้านหมากเหลืองคล้ายกับพญานาค 2 ตัว และยังพบแตกใบใหม่ใต้โคลนต้นมีอีก 1 ใบลักษณะเหมือนกับใบแรกเลยและตรงกลางต้นก็มียอดแทงขึ้นมาจากดินมาอีกหนึ่งต้น ดูแล้วก็แปลกจนเป็นที่เล่าขานต่อกันไปจนบรรดานักเสี่ยงโชคมาจุดธูปและขอเลขเด็ดกันจำนวนมาก และได้ถ่ายรูปกันแบบแปลกจริงในสิ่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
               อย่างไรก็ตาม พระรัตนชัย สุทนโต ได้ฝากบอกกับบรรดาญาติว่า ต้นไม้ที่เห็นกับทางวัดไม่ได้แต่งเติม ของจริงทุกอย่างขอให้มาชมได้ที่วัดโพสพผลเจริญ  คุณย่าสำเนียง จารุจันทน์ อายุ 85 ปี เป็นคนเก่าแก่ของชุมชนซอย 39 ที่มาทำบุญที่วัดเป็นประจำ ซึ่งในวันนี้ก็มาทำบุญที่วัดตามปกติ ไม่เคยพบว่าต้นหมากเหลือง ออกก้านมามีลักษณะคล้ายพระยานาค ลำต้นเดียวมีพระยานาคถึง 2 ตัวจึงทำให้ประชาชนที่มาทำบุญมาดูและถ่ายรูปกันเป็นจำนวนมาก
               อย่างไรก็ตาม ส่วนนักเสี่ยงโชคที่รู้ข่าวพากันมายืนดูและวิภาควิจารณ์กันว่าขึ้นมาได้อย่างไร เลยทำให้ดูแปลกไป คุณย่าท่านนี้เลยจุดธูปเพื่อเป็นสิริมงคลแก่วัดสุดท้ายก็ขอโชคลาภเหมือนกัน

''อุตรดิตถ์"สุดฮือฮา!พบตะเคียนเพิ่มอีก 3 ต้นกลางน้ำน่านวังกะพี้

 
                เมื่อเวลา 08.00 น.  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ริมน่าน หมู่ 8 บ้านวังโป่ง ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ บริเวณจุดเลี้ยงปลากระชังของนางจรัส ปานใย อายุ 53 ปี กลับมาคึกคักและเนื่องแน่นไปด้วยประชาชนจำนวนมากอีกครั้ง หลังมีการระดมชุดประดาน้ำอาสาสมัครกู้ภัยอุตรดิตถ์ รถแบ็คโฮ ในการนำต้นตะเคียนทองอายุกว่า 100 ปี ขึ้นจากกลางน้ำน่าน หลังพบเพิ่มอีก 3 ต้น โดยก่อนหน้านี้นำขึ้นมาแล้ว 6 ต้น เชื่อเป็นครอบครัวตะเคียนทอง ประชาชนต่างนำผ้าแพ 7 สี พวงมาลัยดอกไม้สด ธูปเทียน เพื่อผูกต้นตะเคียนเพื่อความเป็นสิริมงคล บางรายไม่ลืมที่จะนำโทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูปมาเก็บภาพ ขณะที่รถแบ็คโฮทำการดึงต้นตะเคียนอย่างช้าๆ พ้นเหนือน้ำน่าน ประชาชนต่างยกมือไหว้ เปล่งเสียง...สาธุ สาธุ สาธุ ดังทั่วริมน้ำน่าน

              นางจรัส กล่าวว่า หลังจากเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ลูกชายฝันมาว่า มีพญานาคเล่นน้ำบริเวณกระชังปลาจำนวนหลายตัว ตนจึงนำความฝันให้คนทรงเจ้าที่นับถือวิเคราะห์และทำนาย พร้อมแนะนำให้ลงไปค้นหาอาจมีสิ่งใดอยู่ใต้น้ำ จึงประสานชุดประดาน้ำอาสาสมัครกู้ภัยอุตรดิตถ์ ดำสำรวจเพื่อความสบายใจ จนพบว่ามีต้นตะเคียนทอง และใช้รถแบ็คโฮลากขึ้นมาไว้ที่ลานวัดวังโป่งแล้วจำนวน 6 ต้น โดยต้นที่ขนาดใหญ่สุดเส้นรอบวง 2 คนโอบ ยาว 25 เมตร 21 เมตร 12 เมตร และ 3 เมตรตามลำดับ

              "จากนั้นมีหญิงผมยาวผูกสไบเขียว มาเข้าฝันขอร้องให้นำสามีและลูกๆ ที่จมอยู่ใต้น้ำน่านจุดเดิมให้มาอยู่พร้อมหน้าครอบครัว จึงตัดสินใจปรึกษาเจ้าอาวาสวัดวังโป่ง คณะกรรมการหมู่บ้าน ก่อนจะให้ชุดประดาน้ำลงสำรวจอีกครั้ง พบว่า มีตะเคียนอีก 3 ต้นถูกทรายทับถม จึงทำพิธีบวงสรวง ทำการดึง โดยต้นแรกมีขนาดใหญ่ประมาณ 2 คนโอบ ยาว 8.20 เมตร และ 7 , 2 เมตร ตามลำดับ โดยได้นำไปไว้รวมกับต้นตะเคียนที่พบครั้งแรกรวม 9 ต้นที่ลานวัดวังโป่ง เชื่อว่าตะเคียนอายุกว่า 100 ปี ที่พบทั้งหมดเป็นครอบครัวตะเคียนทอง หลังจากทำการล้าง ทำความสะอาดตะเคียนทุกต้นแล้ว ชาววังโป่งจะทำจุดสถานที่ลานวัดทำพิธีบวงสรวงใหญ่ในวันที่ 28 มิ.ย. นี้ เพื่อความเป็นสิริมงคล"นางจรัส กล่าว

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่วัดวังโป่งคึกคักไปด้วยประชาชนที่ทราบข่าวการพบครอบครัวตะเคียนทองเข้ามากราบไหว้ ขอพรขอความโชคดี ขณะที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลก็มีจำนวนไม่น้อยมาให้บริการถึงที่ ด้านหน้าวัดกลายเป็นตลาดนัดขนาดแห่งใหม่ มีร้านค้าจำหน่ายของใช้ ของกิน ครบครัน

อรุณสวัสดิ์ค่ะ รับพลังน้ำใจจากเป็ดด้วยนะคะ

                 
                                                     
                                     
        วันพรุ่งนี้จะดีไหมยังไม่รู้
                                     แต่ขอสู้กับวันนี้ดีให้ได้
                                                    อุปสรรครอบด้านจะผ่านไป
                          เพราะเรามีฝันไกลไปให้ชิง