"หวยซอง เลขเด็ด เขียนโดยสาธารณชน เป็นการเสนอแนะเพื่อเสี่ยงโชคซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกกฎหมายเท่านั้น ไม่มีการขายหวยทุกชนิด และ ไม่มีใครทราบว่าหวยจะออกตัวไหน โปรดใช้วิจารณญาณ"

เรื่อง: เกี่ยวกับอาหาร
 
 54334

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

  • พลังน้ำใจ: 15689
ตอบกลับ #30 22 กันยายน 2010, 13:55:14น.

ทำดีต้องได้ดีซินะ 

  • พลังน้ำใจ: 1615
ตอบกลับ #31 23 กันยายน 2010, 10:29:52น.
แวะมาสวัสดี  พี่ sonic x ครับ



5404

  • พลังน้ำใจ: 1615
ตอบกลับ #32 23 กันยายน 2010, 10:52:10น.
ขออนุญาตวางเพลงนะครับ

<a href="http://www.youtube.com/v/fqLI0wrpJa4?fs=1&amp;<br />amp;hl=en_US&amp;amp;color1=0x234900&amp;amp;color2=0x4e9e00=1&amp;autoplay=1" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/fqLI0wrpJa4?fs=1&amp;<br />amp;hl=en_US&amp;amp;color1=0x234900&amp;amp;color2=0x4e9e00=1&amp;autoplay=1</a>

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 18068
ตอบกลับ #33 24 กันยายน 2010, 02:06:15น.


h*[ สวัสดีค่ะพี่โซนิค +1 h*[ +1พี่บัค h*[
 h*[ คืนนี้นอนหลับฝันดีนะคะ เป็นกำลังใจให้กันทุกวันค่ะ h*[


  • พลังน้ำใจ: 6372
ตอบกลับ #34 26 กันยายน 2010, 11:17:11น.


ชีวิตนี้ไม่มีอะไร.แค่มีเธอทุกวัน...ฉันก็พอใจ..

หวยซอง เลขเด็ด อภิโชควิเคราะห์เลขรวย หวยรัฐบาล : Apichoke.net

Re: เกี่ยวกับอาหาร
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: 26 กันยายน 2010, 11:17:11น. »

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 18068
ตอบกลับ #35 26 กันยายน 2010, 12:03:44น.
<a href="http://img262.imageshack.us/img262/8506/5cc6b4971lm7.swf" target="_blank" class="new_win">http://img262.imageshack.us/img262/8506/5cc6b4971lm7.swf</a>
T|g สวัสดีค่ะพี่โซนิค k(*  +1 h*[ เป็นกำลังใจให้กันทุกวันนะคะ k#|
มีความสุขกับวันหยุดพักผ่อนนะคะ p]|



สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #36 29 กันยายน 2010, 17:53:41น.
กินเจ กินผัก
พญ.ลลิตา ธีระสิริ

          นักวิทยาศาสตร์รู้ว่าสิ่งมีชีวิตทุกประเภทที่สามารถดำรงพันธุ์อยู่ในโลกนี้ได้ก็เพราะร่างกายมีวิธีสร้างสารต้านอนุมูลอิสระขึ้นมาต่อต้านการทำลายของปฏิกิริยาออกซิเจน อย่างพืชหรือต้นไม้ มันจะสร้างสารต้านอนุมูลอิสระออกมามากมาย มันจึงไม่สูญพันธุ์ไปจากโลกนี้

          ทุกวันนี้เรารู้จักสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ในชื่อของ ‘สารผัก’ หรือ ไฟโตนิวเตรียนท์ ซึ่งในพืชผักแต่ละอย่างก็มีไฟโตนิวเตรียนท์แตกต่างกันไป เช่น

          พืชผักแต่ละชนิด ล้วนแล้วแต่มีไฟโตนิวเตรียนท์ทั้งสิ้น หากเรากินผักเข้าไปเราก็ได้รับสารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพไปใช้ได้ในทันที

          การกินเจในแต่ละปี ปีละ 10 วัน น่าจะเป็นโอกาสที่คนเรากินผักเพื่อจะได้สารไฟโตนิวเตรียนท์ดังกล่าวเข้าไป ทำให้สุขภาพร่างกายดีขึ้นโดยรวม ภูมิต้านทานดีขึ้น ลดอัตราเสี่ยงของมะเร็งลง

          การกินเจที่มีแต่หมูปลอม ไก่ปลอม ปลาปลอม กระทั่งหูฉลามปลอม น่าจะได้ประโยชน์น้อยกว่าการกินเต้าหู้ กินผักสด ผักสุก และกินข้าวกล้อง
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

  • พลังน้ำใจ: 15689
ตอบกลับ #37 04 ตุลาคม 2010, 14:08:31น.

ทำดีต้องได้ดีซินะ 

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #38 05 ตุลาคม 2010, 06:38:02น.
สวัสดีตอนเช้าครับ
พร้อมอากาศดีๆ  กับกลิ่นหอมของกาแฟ
มีความสุขในทุกๆ เรื่อง ตลอดทั้งวันนะครับ


<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

  • พลังน้ำใจ: 15689
ตอบกลับ #39 06 ตุลาคม 2010, 10:16:24น.

ทำดีต้องได้ดีซินะ 

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #40 10 ตุลาคม 2010, 16:49:24น.
8 - 16 ตุลาคม 2553  เทศกาลกินเจ


คนกินเจ  ไม่เกเร   ไม่ว้าวุ่น               ได้สร้างบุญ หนุนนำ ค้ำจุนจิต
กินแต่ผัก รักษาตัว ชั่วชีวิต                ไม่เสี่ยงพิษ ไม่เสี่ยงภัย ใฝ่กินเจ 
ละความอยาก เนื้อสัตว์  ขจัดโรค         จะมีโชค  วาสนา พาหันเห
พบแต่สิ่งดีๆ ไม่เสเพล                     ลองทุ่มเท กินผักมาก  ไม่ยากจน
แต่ละมื้อ  เบาสบาย คลายกิเลส          เพราะสาเหตุ เมตตาธรรม นำเกิดผล
บารมี แห่งเมตตา มหามงคล               บันดาลดล  พ้นทุกข์โศก และโรคภัย
เป็นความเชื่อ กินเจดี มีกุศล               แต่ละคน  เมื่อละเว้น  เป็นไฉน
คงแล้วแต่ ความคิดเห็น จะเป็นไป         บุญของใคร ของเขา คิดเอาเอง
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #41 10 ตุลาคม 2010, 16:51:56น.
สิบข้อห้าม ในเทศกาลกินเจ


ประเพณีกินเจก็คือประเพณีกินผัก หรือที่เรียกว่า มังสวิรัติ ซึ่งเป็นประเพณีเก่าของ ชาวจีน ที่ถึงจะย้ายถิ่น ฐานไปอยู่ในประเทศใด ก็ยังคงยึดถือปฏิบัติตามประเพณีนี้อยู่ สำหรับ ประเทศไทยที่มีชาวจีนมาตั้งรกรากอยู่จำนวนไม่น้อย ปัจจุบันกลายเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ก็ยังยึดถือประเพณีกินเจเช่นกัน ประเพณีกินเจในประเทศไทยที่ผู้คนรู้จักกันดีก็คือ ที่จังหวัดภูเก็ต ที่เกิดขึ้นมากกว่าร้อยปีแล้ว โดยแพร่หลาย มาจากคณะงิ้วประเทศจีนที่มาแสดงให้ชาวจีนในภูเก็ตดู การกินเจในปัจจุบันมิได้มีจุดมุ่งหมายเพียงเพื่อจะป้องกัน ภัยพิบัติเท่านั้น แต่ยังเป็นการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์และเป็นการเคารพถึงดวงวิญญาณของบรรพบุรุษที่ล่วงลับไป

แล้ว .........ในช่วงเทศกาลกินเจมีข้อห้ามที่ยึดถือปฏิบัติกันมานานอยู่หลายข้อ เชื่อกันว่าถ้าปฏิบัติได้ครบทุกข้อจึงจะเข้า ถึงการกินเจที่ถูกต้องและ ได้บุญอย่างแท้จริง จึงขอยกข้อห้ามทั้ง 10 ข้อในเทศกาลกินเจมาเล่าให้ฟังกัน จะว่าเป็น การไขข้อข้องใจกันก็ได้ เพราะเชื่อว่าบางข้อยัง เป็นที่สงสัยกันอยู่ เริ่มที่

ข้อแรก
การงดกินผักฉุนหรือผักที่มีกลิ่นแรง ซึ่งประกอบไปด้วยพืชผัก 5 ชนิด ได้แก่ กระเทียม (หัวกระเทียม, ต้นกระเทียม) หัวหอม (ต้นหอม, ใบหอม, หอมแดง,หอมขาว,หอมหัวใหญ่) หลักเกียว (ลักษณะคล้าย หัวกระเทียม แต่เล็กกว่า) กุ้ยช่าย (ใบคล้ายใบหอม แต่แบนและเล็กกว่า) ใบยาสูบ (บุหรี่,ยาเส้น,ของเสพติดมึนเมา) ผักเหล่านี้เป็นผักที่มีรสหนัก กลิ่นรุนแรง นอกจากนี้ยัง ให้โทษทำลายพลังธาตุในร่างกาย เป็นเหตุให้อวัยวะหลัก สำคัญภายในทั้ง 5 ทำงานไม่ปกติ สำหรับผู้ปฏิบัติสมาธิกรรมฐานไม่ควรรับประทาน พราะผักดังกล่าวมีฤทธิ์ กระตุ้นจิตใจและอารมณ์ให้เร่าร้อน ใจคอหงุดหงิด โกรธง่าย และยังมีผลทำให้พลังธาตุในร่างกายรวมตัวไม่ติด จิตใจจะไม่บริสุทธิ์ ซึ่งในข้อห้ามนี้มีบางคนยังข้องใจกันมาก คือ กระเทียมซึ่งทางการแพทย์และเภสัชกรพบว่า สามารถรับประทานเป็นยาได้ ทั้งนี้เพราะเป็นสารที่มีประโยชน์สามารถละลายไขมันในเส้นเลือดได้ เช่น ผู้ป่วยที่ เป็นโรคเส้นโลหิตเลี้ยงหัวใจตีบหรืออุดตัน เป็นต้น แม้ทางการแพทย์แผนโบราณก็ยืนยันตรงกันว่ากระเทียมเป็น สมุนไพรรักษาโรคได้ แต่คนจีนที่ปฏิบัติในการกินเจถือว่าให้โทณกับหัวใจ ซึ่งในข้อนี้ต้องขึ้นอยู่กับความเชื่อของ แต่ละคน

ข้อที่สอง
การงดกินเนื้อสัตว์ ซึ่งประกอบไปด้วย เนื้อวัว หมู ปลา หรือสัตว์มีชีวิตที่ใช้เป็น อาหารได้ เพราะ คนจีนเชื่อว่าก่อนตายมันจะตกอยู่ในอาหารตกใจกลัวเมื่อเรากินมันเข้าไป อาจจะทำให้เรามีบาปติดตัวไปด้วย เพราะมันคือสิ่งที่มีชีวิตเหมือนกับคน ข้อนี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่คนจีนถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด แต่มาถึงปัจจุบัน ..........บางคนเริ่มหาข้อคัดค้านว่าสัตว์บางชนิดอย่าง หอยหรือปลาเล็กๆ ก็น่าจะรับประทานได้เพราะมันเป็นสัตว์ไม่มีเลือด ตามความเชื่อแล้วมันขึ้นอยู่กับแต่ละคน แต่ถ้าในความเป็นจริงแล้ว คนจีนเขาเชื่อว่าประเพณีนี้ศักดิ์สิทธิ์ถ้าปฏิบัติ ให่เคร่งครัด ถึงจะมีคนคัดค้านแต่กับข้อนี้คงไม่ได้ผล

ข้อที่สาม
ไม่ควรกินอาหารรสจัด ซึ่งไม่ใช่แค่รสเผ็ดอย่างเดียว รวมไปถึงรสเค็มมาก หวานมากหรือเปรี้ยวมาก ด้วย ซึ่งปกติคนจีนจะไม่กินรสจัดอยู่แล้วเพราะถือว่าจะเข้าไปทำลายสุขภาพ อย่างกินเผ็ดจัดก็จะไปทำลาย กระเพาะ กินเค็มมากจะไปทำลายไตได้ และอีกอย่างน้ำปลาก็ทำมาจากสัตว์เหมือนกัน ข้อห้ามนี้ถือว่าถูกหลักของ การแพทย์ แต่บางคนที่ปฏิบัติไม่เคร่งครัดนัก เช่น ชอบรสเค็มจัดก็ใช้เกลือแทนน้ำปลา อันนี้ถือว่าไม่ผิด

ข้อที่สี่
ต้องกินอาหารที่คนกินเจด้วยกันปรุง ซึ่งข้อนี้ถ้าปฏิบัติได้จะถือว่าบริสุทธิ์จริงๆ แต่ถ้าทำให้เกิดความยาก ลำบากก็ไม่จำเป็น จะได้ไม่ต้องเลือกร้านกันจ้าละหวั่น ฉะนั้นคนที่ปรุงอาจจะไม่ได้กินเจก็ได้แต่ขอให้อาหารที่กินเข้าไปเป็นอาหารเจก็พอ

ข้อที่ห้า
ถ้วยชามจะต้องไม่ปนกัน เพราะเขาถือเคร่งครัดว่าอาหารคาวซึ่งชาวจีนเรียกว่า " ชอ " นั้น ถ้วยชาม จะใช้ปนกันไม่ได้ จะถือว่าล้างสะอาดหมดจดแล้วจึงเอามาใช้ก็ผิดอีก บางคนคิดว่าล้างให้สะอาดมากๆ ก็ไม่จำเป็น ต้องแยก แต่ข้อนี้ถือว่าเป็นธรรมเนียมเหมือนอย่างอิสลามที่ไม่ยอม ใช้ถ้วยชามปนกัน เหมือนของจีนนั่นแหละ

ข้อที่หก
ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ข้อนี้ตรงกับการรักษาศีลของชาวพุทธ การฆ่าสัตว์ของชาวจีนตั้งแต่สัตว์เล็กๆ ไป จนถึงสัตว์ใหญ่เป็นข้อเคร่งครัดเช่นกัน บางคนสงสัยอีกว่าอย่างถ้าเป็นยุงหรือมดฆ่าได้ไหมตามความเชื่อแล้วห้าม เด็ดขาดไม่เช่นนั้นจะถือว่า ปฏิบัติไม่ครบ

ข้อที่เจ็ด
แต่งกายด้วยชุดขาว ข้อนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน บางคนก็ใส่ชุดสีขาวตลอดจนถึงออกเจเพราะเชื่อกัน ว่านอกจากงดอาหาร ต่างๆ ในร่างกายสะอาดแล้วภายนอกแม่จะเป็นเครื่องแต่งกายก็ต้องสะอาดด้วย ข้อนี้ไม่ใคร่ เข้มงวดสำหรับบุคคลที่ปฏิบัติอยู่กับบ้าน ไม่ได้ไปที่แจตั๊วหรือสถานที่ทำพิธีกินเจ

ข้อที่แปด
พูดจาไพเราะ คนที่ถือศีลกินเจไม่ใช่เพียงแต่กินของสะอาดเท่านั้น แต่คำพูดที่พูดออก จากปากก็ต้อง สะอาดด้วย สิ่งไม่ดีทั้งหลายไม่ควรพูดหรือที่เรียกว่า " ปากเจ " ซึ่งประกอบไปด้วย ไม่พูดเท็จ ไม่พูดยุแหย่ ไม่พูด เพ้อเจ้อ ถ้าปฏิบัติได้ก็ถือว่าสะอาดทั้งหมด

ข้อที่เก้า
งดดื่มสุราและของมึนเมา ตลอดช่วงเวลา 9 วัน ..........ข้อนี้สำคัญเพราะการงดอาหารที่เป็นของคาวแล้วสิ่ง ที่สร้างความมึนเมาหรือสิ่งแปลกปลอมในร่างกายก็ห้ามเข้าสู่ร่างกายด้วย

ข้อที่สิบ
ห้ามดับตะเกียงทั้ง 9 ดวง คนที่จะไปกินเจมักจะไปชุมนุมกันที่แจตั๊วหรือสถานที่กินเจ ณ ที่นั้น เขาจะประดับดอกไม้ตั้งโต๊ะบูชา วางกระถางธูปและตั้งเครื่องเจ ต่างๆ นอกจากนี้ ก็จุดโคม 9 ดวงเพื่อสมมติเป็น " เก๊าฮ้วงฮุดโจ้ว " นั่นเอง ซึ่งจะต้องจุดไว้ทั้งกลางวันและ กลางคืนจนตลอดงานทีเดียว ถ้าดับโคมไฟดวงใดดวงหนึ่ง ก็จะถือว่าไม่เป็นสิริมงคลและไม่ครบถ้วนพิธีการกินเจ…

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อห้ามในการกินเจใครจะปฏิบัติตามหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อของตัวเอง ประเพณีกินเจโดยทั่วไปแล้วมิได้ทำกันตลอดทั้งปี แต่จะเริ่มกินในช่วงวันขึ้น 1 ค่ำ จนถึง 9 ค่ำ เดือน 9 ซึ่งตก ในเดือน 11 ข้างไทยเป็นวันกินเจ ซึ่งจะสับเปลี่ยนเวียนไปตามปีนั้นๆ ใครที่ไม่ได้เป็นลูกหลานชาวจีนถ้าต้องการจะ มีร่างกายและจิตใจ ที่บริสุทธิ์และได้ทำบุญกุศลอาจจะอยากเข้าร่วมพิธีนี้ด้วยก็ได้ เป็นการดีเสียอีกที่ปีหนึ่งคนเรา หันมาทำบุญร่วมกัน

T|g ขอขอบคุณ : ที่มา nairobroo.com
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #42 10 ตุลาคม 2010, 16:53:22น.
สิบข้อควรปฏิบัติ สำหรับผู้ถือศีลกินผักในเทศกาลกินเจ


ข้อแรก
ชำระร่างกายให้สะอาดตลอดช่วงงานประเพณีถือศีลกินผัก 

ข้อที่สอง
ทำความสะอาดเครื่องครัวและแยกใช้คนละส่วนกับผู้ที่ไม่ได้ถือศีลกินผัก

ข้อที่สาม
ควรสวมชุดขาวตลอดช่วงงานประเพณีถือศีลกินผัก

ข้อที่สี่
ประพฤติตนดีทั้งกายและใจ

ข้อที่ห้า
ห้ามบริโภคเนื้อสัตว์ 

ข้อที่หก
ห้ามมีเพศสัมพันธ์ในช่วงงานประเพณีถือศีลกินผัก

ข้อที่เจ็ด
ห้ามดื่มสุราและของมึนเมา

ข้อที่แปด
ผู้ที่อยู่ระหว่างไว้ทุกข์ไม่ควรร่วมงานประเพณีถือศีลกินผัก 

ข้อที่เก้า
หญิงมีครรภ์ไม่ควรดูพิธีกรรมใด ๆ ในช่วงงานประเพณีถือศีลกินผัก

ข้อที่สิบ
หญิงมีประจำเดือนไม่ควรร่วมพิธีกรรมใด ๆ ในช่วงงานประเพณีถือศีลกินผัก

T|g ขอขอบคุณ : phuketvegetarian.com 
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #43 10 ตุลาคม 2010, 16:54:44น.
อานิสงส์สิบข้อ ของการไม่กินเนื้อสัตว์ (กินเจ)


อานิสงส์ขั้นต้นของการไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่ฆ่าสัตว์และไม่เบียดเบียนสัตว์ คือ จะทำให้ชีวิตของเราไม่ต้องตายด้วย ปืนผาหน้าไม้ คมหอกคมดาบ ไม่่ตายด้วยเหตุกาณ์อันน่าสยดสยองหรือภัยพิบัติต่างๆ ทั้งยังสามารถตัดกรรมในเรื่องการฆ่าและยุติการจองเวรกับสรรพสัตว์ทั้งหลายอีกด้วย องค์สมเด็จพระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระผู้เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาอันมิอาจประมาณได้ทรงรักใคร่สรรพสัตว์ทั้งหลายประดุจลูกในอุทรของพระองค์เองเมื่อได้บรรลุอนุตตรสัมโพธิญาณสูงสุดแล้ว ก็ยังทรงมีพระทัยห่วงใยปรารถนาให้เวไนยสัตว์ทั้งหลาย ได้หลุดพ้นออกจากบ่วงกรรมและระงับดับการจองเวรซึ่งกันและกัน ในบรรดา บาปกรรมทั้งหลายที่คนหลงผิดกระทำไปการเบียดเบียนฆ่าทำลายชีวิตผู้อื่นถือ เป็นบาปกรรมที่ร้ายแรงที่สุดแม้ว่าจะกระทำลงไปโดยไม่เจตนา ก็ยังต้องไปรับโทษ นับประสาอะไรกับการจงใจเจตนาฆ่าเขาให้ตาย โทษทัณฑ์์นั้นจะ ยิ่งใหญ่ หลวงและ ไม่อาจให้อภัยได้ด้วยเหตุที่พระพุทธองค์ทรงมี พระประสงค์ ์ให้เราทุกคนละเว้นจาก การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และเลิกเบียดเบียนผู้อื่นโดยเด็ดขาด พระองค์จึงทรงบัญญัติ ศีลข้อ “ปาณาติบาต” คือห้ามการฆ่า เป็นข้อที่สำคัญอันดับหนึ่ง ขอให้เราจง มาร่วมกันศึกษาพิจารณาพระพุทธวจนะว่าด้วยเรื่อง “อานิสงส์ 10 ข้อของการ ไม่กินเนื้อสัตว์” เพื่อจักได้นำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติและบำเพ็ญธรรม ให้สูงขึ้นไป ในพระสูตรของพระพุทธศาสนามหายานเล่าว่า

“สมัยหนึ่ง... องค์สมเด็จพระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จไปเทศนาโปรดบรรดาเหล่าพญานาคทั้งหลาย พระพุทธองค์ ์ได้ทรงตรัสธรรมกถาวิสัชนาแสดงแก่พญานาคราชความว่า “บุคคลใด หยุดการฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต และงดเว้นเสียจากการเสพเลือดเนื้อสัตว์ อีกทั้งยังชี้นำส่งเสริมให้หมู่ชนทั้งหลายหยุดฆ่า หยุดเสพชีวิตเลือดเนื้อผู้อื่น บุคคลผู้นั้นย่อมห่างไกลจากอกุศลมูล ทั้งปวง และบริบูรณ์พร้อมด้วยอานิสงส์ ทั้ง 10 ประการอันได้แก่


ข้อแรก
เป็นที่รักใคร่ของบรรดาเทพ พรมตลอดจนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย

ข้อที่สอง
จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิดขึ้น

ข้อที่สาม
สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์เหี้ยมโหดเครียดแค้นในใจลงได้

ข้อที่สี่
ปราศจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนร่างกาย

ข้อที่ห้า
มีอายุมั่นขวัญยืน

ข้อที่หก
ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากวัชรเทพทั้งแปด

ข้อที่เจ็ด
ยามหลับนิมิตรเห็นแต่สิ่งที่ดีงามเป็นศิริมงคล

ข้อที่แปด
ย่อมระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ่งกันและกัน

ข้อที่เก้า
สามารถดำรงอยู่ในกระแสแห่งนิพพาน ไม่พลัดหลงตกลงสู่อบายภูมิ

ข้อที่สิบ
ทันทีที่ละสังขารจากโลกนี้ จิตญาณจะมู่งสู่คติภพ

T|g ขอขอบคุณ : elib-online.com   
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #44 10 ตุลาคม 2010, 16:56:31น.
8 - 16 ตุลาคม 2553  เทศกาลกินเจ



ขอเชิญสมาชิกทุกท่าน ถือศีล ทานเจ ทำจิตใจให้บริสุทธิ์

หนึ่งมื้อทานเจ  หมื่นชีวิตรอดตาย
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #45 10 ตุลาคม 2010, 16:58:05น.


ทานเจเพื่ออะไร

::) จุดประสงค์หลักของผู้ที่ทานเจ สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้ :

::) กินเพื่อสุขภาพ
อาหารเจเป็นอาหารประเภทชีวจิต เมื่อรับประทานติดต่อกันช่วงเวลาหนึ่งจะทำให้ร่างกายเกิดการปรับตัวให้อยู่ในสภาวะสมดุล สามารถขับพิษของเสียต่างๆ ออกจากร่างกายได้ ปรับระบบไหลเวียนโลหิต ระบบทางเดินอาหารให้มีเสถียรภาพ ทั้งนี้ผู้ทานเจจะต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และดื่มน้ำให้เพียงพอ

  ::) กินด้วยจิตเมตตา
เนื่องจากอาหารที่เราทานอยู่ในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วยเลือดเนื้อของสรรพสัตว์ ผู้มีจิตเมตตา มีคุณธรรม และมีจิตสำนึกอันดีงาม เห็นอกเห็นใจผู้อื่น ย่อมไม่อาจทานเลือดเนื้อของสัตว์เหล่านั้น ซึ่งมีเลือดเนื้อ จิตใจ และที่สำคัญมีความรักตัวกลัวตายเช่นเดียวกับคนเรา

::) กินเพื่อเว้นกรรม
ผู้ที่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง ย่อมตระหนักว่าการกินซึ่งอาศัยการฆ่า เพื่อเอาเลือดเนื้อของผู้อื่นมาเป็นของเราเป็นการสร้างกรรมเกี่ยวกับการฆ่าโดยตรง แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่าเองก็ตาม การซื้อจากผู้อื่นก็เหมือนกับการจ้างฆ่า เพราะถ้าไม่มีคนกินก็ไม่มีคนฆ่ามาขาย (" หยุดกิน... คือหยุดฆ่า") กรรมที่สร้างนี้ จักติดตามสนองเราในไม่ช้า ทำให้สุขภาพร่างกาย อายุขัยของเราสั้นลง เป็นบ่อเกิดของโรคภัยไข้เจ็บ จากเวรกรรมซึ่งรักษาได้ยากและเรื้อรังด้วยการแพทย์แผนปัจจุบัน ชีวิตบั้นปลายจะไม่มีความสุข เพราะมีแต่โรคภัยไข้เจ็บ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคเก้าท์ และอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย

เมื่อผู้มีความรู้เรื่องกฏแห่งกรรมหยั่งรู้ถึงเหตุนี้แล้วจึงหยุดกินหยุดฆ่า หันมารับประทานอาหารเจ ซึ่งทำให้ร่างกายเติบโด้เหมือนกัน โดยไม่เห็นแก่ความอร่อยในช่วงเวลาสั้นๆ แค่อาหารผ่านลิ้นเท่านั้น ความแตกต่างอยู่ที่ ทานอาหารเจไม่มีหนี้สินเวรกรรม
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #46 10 ตุลาคม 2010, 17:00:00น.
สวัสดีครับ
สุข สดชื่น กับวันหยุดพักผ่อนนะครับ


<a href="http://img442.imageshack.us/img442/6228/82022655oe4.swf" target="_blank" class="new_win">http://img442.imageshack.us/img442/6228/82022655oe4.swf</a>
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #47 10 ตุลาคม 2010, 17:08:04น.
::) ข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้รับประทานเจ
 :)
๑. ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าข้าวขาวขัดสี ควรบริโภคเป็นประจำ หรือผสมกับข้าวขาวในอัตราส่วน ๑ ต่อ ๑ ก็ได้
๒. การได้รับประทานสาหร่ายทะเลทั้งสดและแห้งพร้อมทั้งใช้เกลือทะเลมาปรุงลงในอาหาร ทั้ง ๒ อย่างนี้มีไอโอดีน ซึ่งสามารถป้องกันโรคคอพอกได้เป็นอย่างดี
๓. งาขาวและงาดำ ในอาหารและขนมคนกินเจควรใช้งาปรุงผสมด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นงาขาวหรืองาดำ เพราะในเมล็ดงามีกรดไขมันไลโนเลอิค (LINOLEIC ACID) ซึ่งจำเป็นต่อร่างกายมาก แต่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้


  สำหรับผู้ทำอาหารเจรับประทานเอง ให้นำงาขาวมาล้างเอาผงฝุ่นออกจนสะอาดดี ตักใส่ตะแกรงทิ้งไว้ให้หมาดแล้วใช้ไฟอ่อนๆ คั่วในกระทะจนสุกเหลือง พอเย็นจึงนำมาโขลกหรือปั่นให้แตกด้วยเครื่อง จะทำให้ได้ประโยชน์จากน้ำมันที่อยู่ในเมล็ดดียิ่งขึ้น งาที่บดแล้วจะมีกลิ่นหอมสามารถนำไปใช้ปรุงอาหาร และขนมได้ทุกประเภท ทำให้มีรสดี หอมน่ารับประทาน โดยปกติผู้ที่กินเจควรรับประทานงาในปริมาณวันละ ๒ ช้อนโต๊ะ ก็นับว่าเพียงพอแก่ความต้องการของร่างกาย

๔. อาหารเจไม่ควรปรุงรสจัดเกินไป เช่น เผ็ดจัด เค็มจัด ขมจัด เปรี้ยวจัด หวานจัด รสชาติที่จัดมากๆ จะส่งผลให้ไม่ดีต่ออวัยวะหลักภายในร่างกาย
๕. หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารหมักดอง เช่น ผักดอง ผลไม้ดอง เครื่องกระป๋อง อาหารสำเร็จรูป ควรหันมารับประทานอาหารสดที่ปรุงใหม่ๆ จะให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า
๖. เครื่องดื่ม คนกินเจควรดื่มน้ำผลไม้สดๆ ตามธรรมชาติ เช่น น้ำส้ม น้ำมะเขือเทศ น้ำสับปะรด น้ำอ้อย น้ำมะพร้าว น้ำใบบัวบก น้ำมะตูม ฯลฯ


   น้ำผลไม้ดังกล่าวจะทำให้ร่างกายและผิวพรรณสดชื่นเปล่งปลั่ง เราควรงดน้ำหวานที่ปรุงแต่รสและเจือสีสังเคราะห์ เพื่อหลีกเลี่ยงพิษภัยจากสิ่งปนปลอม

   นอกจากการดื่มน้ำผลไม้สดๆ แล้ว ทุกคนต้องดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ ๘ แก้ว เป็นประจำ

   ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นหลักความรู้ในการปรุงและบริโภคอาหารเจ ซึ่งคนกินเจต้องยึดถือปฏิบัติเพื่อให้ได้มาซึ่งพลานามัยที่สุขสมบูรณ์พร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจ
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #48 10 ตุลาคม 2010, 17:32:32น.
::) อาหารมังสวิรัติ กับ อาหารเจ แตกต่างกันอย่างไร

บางคนคงสับสนระหว่างอาหารมังสวิรัติและอาหารเจ ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร คงนึกกันแค่ว่าต้องไม่มีเนื้อสัตว์
 
"อาหารมังสวิรัติ" หมายถึง อาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ทุกประเภท แต่ยังคงใช้ผักทุกประเภทมาปรุงอาหารรับประทาน
 
"อาหารเจ" เป็นอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ทุกประเภทเช่นกัน แต่อาหารเจจะไม่ใช้ผักฉุนทั้ง 5 ประเภท มาปรุงลงในอาหารโดยเด็ดขาด (ได้แก่ กระเทียม หัวหอม ต้นหอม กุยช่าย รวมทั้งใบยาสูบ )เพราะฉะนั้นผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติอยู่แล้ว หากจะทดลองปรุงและรับประทานอาหารเจดูบ้าง ก็เพียงแต่ไม่บริโภคผักฉุนทั้ง 5 ประเภทก็เรียกว่าเป็น "อาหารเจ" และ "กินเจ"


วัตถุดิบในการประกอบอาหารเจ คือ แป้ง เต้าหู้ ซีอิ้ว ถั่วเหลือง ถั่วต่างๆ และผักนานาชนิดยกเว้นผักที่กล่าวไปข้างต้น นอกจากนี้ สำหรับผู้กินเจที่เคร่งครัดนั้น น้ำมันพืชที่ใช้ต้องบริสุทธิ์ 100% จะไม่ใช้น้ำมันพืชสูตรผสม เช่น น้ำมันรำข้าวปนน้ำมันถั่วเหลือง ภาชนะที่ใส่อาหารเจก็ต้องเตรียมไว้เป็นพิเศษ ไม่ใช้ปะปนกับภาชนะที่ใส่เนื้อสัตว์ ปัจจุบันอาหารเจได้รับการพัฒนารูปแบบขึ้นมาก มีการทำ "หมี่กึน" ที่ทำมาจากแป้งสาลีดัดแปลงให้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนเนื้อสัตว์ นำมาปรุงอาหารสำหรับผู้ที่ยังไม่สามารถตัดขาดจากเนื้อสัตว์ได้เด็ดขาด

อาหารเจจะกินกันในระหว่างเทศกาลกินเจ คือ ช่วงระหว่างวันขึ้น 1-9 ค่ำ เดือน 9 (ตามปฏิทินจีนราวเดือนตุลาคม) ระยะเวลาประมาณ 10 วัน หรือกินในระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง ผู้ที่กินเจเชื่อว่า การกินเจเป็นการได้บุญ จะส่งผลให้ชีวิตประสบความสุขความเจริญ ทั้งเป็นการต่อชีวิตให้ยืนยาวต่อไป

ส่วนอาหารมังสวิรัติ โดยรูปศัพท์หมายถึงการงดเว้นเนื้อสัตว์ (มังสะ = เนื้อสัตว์, วิรัติ = การงดเว้น)

ผู้บริโภคอาหารมังสวิรัติมี 2 กลุ่ม

กลุ่มแรกไม่บริโภคเนื้อสัตว์ แต่ยังคงบริโภคไข่และนม
กลุ่มที่สองไม่บริโภคเนื้อสัตว์ รวมทั้งไม่บริโภคไข่และนมด้วย
อาหารมังสวิรัติงดเนื้อสัตว์เหมือนกับอาหารเจ รวมทั้งเครื่องปรุงที่ทำมาจากสัตว์ เช่น กะปิ น้ำปลา แต่ต่างกับอาหารเจตรงที่ไม่ห้ามบริโภคกระเทียม หัวหอม ต้นกุยช่าย หรือผักที่กลิ่นแรงตลอดจนเครื่องเทศที่เผ็ดร้อน อาหารมังสวิรัติสามารถบริโภคได้ทั้งปี ไม่มีเทศกาลเหมือนอาหารเจ ผู้ที่กินอาหารมังสวิรัติเชื่อว่า จะทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เพราะได้งดเนื้อสัตว์และอาหารที่มีไขมันอื่นๆ อีกมากมาย



บทความโดย FoodieTaste
ขอบคุณครับ

 T|g T|g T|g

<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #49 10 ตุลาคม 2010, 20:51:19น.
<a href="http://img262.imageshack.us/img262/8506/5cc6b4971lm7.swf" target="_blank" class="new_win">http://img262.imageshack.us/img262/8506/5cc6b4971lm7.swf</a>
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #50 10 ตุลาคม 2010, 20:52:03น.
7 สุดยอดอาหารเด็ด พิชิตหวัด

ช่วงนี้หน้าฝน บางวันร้อน บางวันตก เอาแน่เอานอนไม่ได้ อาจมีคนใกล้ตัวไอ จาม เป็นหวัดกันระนาว จะหลีกหนีให้ไกลหรือใส่ผ้าปิดจมูกกันตลอดเวลาคงไม่สะดวก จึงขอป้องกันตัวเองง่ายๆ ด้วยการเลือกกิน สร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายกันดีกว่า


ซุปไก่น้ำแกงชั้นยอด
          อาหารง่ายๆ ที่เรียกได้ว่าเป็นเพนนิซิลินธรรมชาติ และถือเป็นท็อปลิสต์ในบรรดาอาหารพิชิตหวัดทั้งหมด ในแง่ที่สามารถบำบัดอาการได้ดีที่สุด ซุปไก่ร้อนๆ ช่วยให้ทางเดินหายใจสะดวกขึ้น ให้พลังงาน และถ้าเพิ่มผักเข้าไปด้วยโดยเฉพาะหอมใหญ่ กระเทียม ก็จะยิ่งเพิ่มสรรพคุณในการบำบัดอาการมากยิ่งขึ้นครับ


อาหารเผ็ด รสจัด
            อาหารจัดจ้านแบบนี้ล่ะ ช่วยให้จมูกโล่งหายใจ สะดวกดีนัก เมนูแนะนำต้องนี่เลย ต้มยำ เพราะมีนานาสมุนไพรที่นอกจากแก้หวัดแล้ว ยังช่วยขับลมและย่อยอาหาร หรือจะเป็นเปปเปอร์มินต์ซุปหรือจริงๆ ก็ต้มจืดใบสาระแหน่นี่ล่ะครับ  สูตรนี้ไม่ยาก เหมือนแกงจืดตำลึงทุกอย่าง แค่เปลี่ยนจากใบตำลึงเป็นสาระแหน่เท่านั้น เหมาะกับคนที่มีอาการคัดจมูก หายใจไม่สะดวกมากๆ


กระเทียมไร้เทียมทาน
            ช่วยขับเสมหะ และมีคุณสมบัติเป็นยาแก้อักเสบ และในกระเทียมมีสารตัวหนึ่งชื่อ alliin เชื่อกันว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำลายอนุมูลอิสระที่จะมาทำร้ายเซลล์ ช่วงนี้คุณอาจเพิ่มปริมาณกระเทียมที่ใส่ในอาหารให้มากขึ้นกว่าปกติเล็กน้อย และมีข้อควรระวังคือไม่ควรกินกระเทียมขณะที่ท้องว่าง เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะได้


น้ำ
            เป็นช่วงที่คุณต้องเติมน้ำให้กับร่างกายมากๆ  ไม่ว่าจะเป็นน้ำเปล่าบริสุทธิ์ น้ำผลไม้สดๆ 100% น้ำอัดลม หรือจะเป็นน้ำจากผักผลไม้สดได้ทั้งนั้น แต่ที่ดีที่สุดก็ต้องน้ำเปล่าครับ สำหรับบางคนการได้ดื่มอะไรร้อนๆ จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น ก็อาจเลือกเป็นชาสมุนไพร เช่น ชาคาร์โมมายล์ ชาเปปเปอร์มินต์ หรือจะจิบน้ำอุ่นๆ ลอยด้วยมะนาวฝานก็ช่วยได้ดีทีเดียว


ผลไม้ตระกูลส้ม
            ช่วงเป็นหวัดร่างกายจะต้องการวิตามินซีมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่สูบบุหรี่ซึ่งมีโอกาสเป็นหวัดง่ายกว่าคนไม่สูบ ร่างกายก็จะต้องการวิตามินป้องกันมากเป็นพิเศษ ฉะนั้นพยายามกินส้มหรือผลไม้ตระกูลส้มให้มาก ไม่ว่าจะกินผลสด เป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหาร หรือจะเป็นน้ำส้มคั้นในมื้อเช้าก็แล้วแต่ความชอบความสะดวก แต่ผลไม้ยิ่งสดเท่าไหร่ยิ่งเป็นวิตามินซีคุณภาพกับร่างกายมากเท่านั้น


นานาวิตามินซี
           ไม่ใช่แค่ผลไม้ตระกูลส้มเท่านั้นที่มีวิตามินซีสูง ผลไม้ชนิดอื่นก็สามารถร่วมด้วยช่วยกันเป็นกองกำลังช่วยร่างกายต่อสู้กับ อาการจากหวัดได้ เช่น สับปะรด สตรอว์เบอรี่ ฝรั่ง หรือแม้แต่มันฝรั่ง พริกไทยสดก็มีวิตามินซีสูงเช่นกันครับ


ขิงแก่แต่สด
            ขิงสดๆ ช่วยรักษาอาการไอและไข้ได้ แต่คุณอาจเลือกกินเป็นน้ำเต้าฮวยร้อนๆ น้ำขิงชงสำเร็งรูป หรือจะลองทำชาขิงดื่ม ง่ายๆ แค่รินน้ำร้อน 1 ถ้วยลงบนขิงสดทุบ 2 ช้อนโต๊ะ ทิ้งไว้ 5-10 นาที



บทความโดย
Reference :  สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น
ขอบคุณครับ

T|g T|g T|g
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #51 10 ตุลาคม 2010, 23:25:28น.


คืนนี้ หลับฝันดีนะครับ ราตรีสวัสดิ์

Goodnight  h*[ I love you

<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #52 11 ตุลาคม 2010, 03:47:20น.
สวัสดีครับ เริ่มต้นทำงานกันอีกแล้ว
 h*[ เป็นกำลังใจให้เสมอ  h*[
ขอให้มีความสุขในทุกๆ เรื่อง ตลอดทั้งวัน ขอบคุณครับ

<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #53 13 ตุลาคม 2010, 09:54:47น.
Good morning
 h*[
สวัสดีตอนเช้าครับ

"เวลาที่เราทำอะไรประสบความสำเร็จ
แม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม
ให้กำหมัดฉลอง "yes"
ให้รางวัลกับตัวเองดังๆ ด้วยอารมณ์ที่เข้มข้น
สนุกสนาน ร่าเริง มีพลัง ฮึกเหิม
แล้วพูดตอกย้ำให้พลังกับตัวเองทันทีว่า
"ฉันทำได้ ฉันเก่งที่สุด ฉันเยี่ยมที่สุด
ฉันทำได้ YES"

 h*[
sonic เป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ สู้สู้


แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 ตุลาคม 2010, 07:36:16น. โดย sonic x
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #54 25 ตุลาคม 2010, 07:35:48น.


สวัสดีวันหยุดชดเชยครับ
มีใครได้หยุดชดเชยบ้าง หรือว่าไปทำงานตามปกติ
อย่างไรก็ตาม ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดี มีความสุขอีก 1 วัน
เป็นกำลังใจให้เสมอ ขอบคุณครับ


<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #55 25 ตุลาคม 2010, 17:32:16น.
ดื่มนม ช่วยลดน้ำหนักได้

          ต้องยอมรับว่าสาว ๆ หลายคนกลัวการดื่มนม เพราะคิดว่านมมาพร้อมกับไขมันและความอ้วน แต่ผลการวิจัยล่าสุดกลับบอกว่าการดื่มนมช่วยลดน้ำหนักได้

          โดยนักวิจัยได้ทำการติดตามคนอ้วนกว่า 300 คนที่มีอายุระหว่าง 40-65 ปี ซึ่งทำการควบคุมน้ำหนักด้วยการรับประทานอาหารไขมันต่ำ, คาร์โบไฮเดรตต่ำ หรือการไดเอทแบบเมดิเตอร์เรเนียน เป็นระยะเวลากว่า 2 ปี ผลที่ได้จากการติดตามพบว่ากลุ่มที่มีการรับประทานแคลเซียมสูงประมาณ 580 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเทียบเป็นนม 2 แก้ว สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 12 ปอนด์ใน 2 ปี ส่วนกลุ่มที่รับประทานต่ำเพียง 150 มิลลิกรัมหรือเทียบเป็นนมเพียงครึ่งแก้วต่อวัน ลดน้ำหนักได้แค่ 7 ปอนด์

          นักวิจัยอธิบายความแตกต่างที่เกิดขึ้นนี้ว่า นมไปช่วยเพิ่มระดับพลังงานในร่างกาย ทำให้เกิดการเผาผลาญได้ดี “นมช่วยให้เรารู้สึกอิ่ม และเกิดความพึงพอใจ ทำให้ไม่นึกอยากกินอาหารที่มีน้ำตาล เครื่องดื่มซอฟต์ดริ๊งค์ น้ำผลไม้หวาน ๆ หรือเครื่องดื่มโซดาทั้งหลาย”
นอกจากนั้นยังมีการวิจัยเพิ่มเติมว่าในน้ำนมมีวิตามิน D ที่ส่งผลดีต่อการลดน้ำหนักได้ดีกว่า โดยระดับวิตามิน D ที่มีการแนะนำไว้ต่อวันคือ 400 มิลลิกรัม หรือเทียบได้กับนมโลว์แฟต หรือพร่องมันเนยประมาณ 4 แก้ว

          ลดน้ำหนักคราวนี้นมสักแก้วก็ดีนะครับ...

ขอบคุณมากครับ
 T|g T|g T|g h*[ h*[ h*[
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

  • พลังน้ำใจ: 15689
ตอบกลับ #56 12 พฤศจิกายน 2010, 09:25:19น.

ทำดีต้องได้ดีซินะ 

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #58 04 มกราคม 2011, 09:46:51น.




<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #59 07 กรกฎาคม 2011, 01:06:26น.
โห...พอทักทายปีใหม่...ก็หายไปไม่ห้องอาหารร่วม 6 เดือน
ฝุ่นเพียบเลย ขอทำความสะอาดห้องก่อนนะครับ
แล้วค่อยมาพูดคุยกันเรื่องในส่วนของอาหารกันต่อ

]E[ ]E[ ]E[ ]E[ ]E[
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

 

เว็บไซต์ในเครือข่ายอภิโชค : apichokeonlin.com | apichoke.net | apichoke.biz | apichoke.me | apichoke.org | apichoke.info
"ศาสตร์ของการคำนวณหวย สถิติหวยความน่าจะเป็น บนเว็บนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน-นักคำนวณ และบุคคลทั่วไปตลอดจนเลขจากไสยศาสตร์ต่างๆ การที่ใครจะถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือถูกหวย รวยด้วยหวย ก็เป็นเพียงแต่ การเสี่ยงโชค เสี่ยงดวง เท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ และไม่ควรงมงาย หากต้องการเสี่ยงโชค ซื้อหวย เล่นหวย ก็ขอให้ เสี่ยงโชคแต่พอเพียงตามกำลังของตนเอง อย่าซื้อเกินกำลังอาจทำให้เดือนร้อนได้"
คำเตือน : อย่าหลงเชื่อหากมีผู้อ้างตนเป็นอาจารย์ดังสามารถให้หวยถูก100%หรือให้ถูกทุกงวดแน่นอน หรืออวดอ้างว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่กองสลาก แล้วเรียกเก็บเงินจากท่าน
ข้อมูลในเว็บนี้ใช้ประกอบเสี่ยงโชคสำหรับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น ไม่สนับสนุนหวยที่ผิดกฏหมาย