"หวยซอง เลขเด็ด เขียนโดยสาธารณชน เป็นการเสนอแนะเพื่อเสี่ยงโชคซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกกฎหมายเท่านั้น ไม่มีการขายหวยทุกชนิด และ ไม่มีใครทราบว่าหวยจะออกตัวไหน โปรดใช้วิจารณญาณ"

เรื่อง: ความรู้เรื่องความฝันตามตำราโบราณ
 
 7076

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 170025
05 กรกฎาคม 2015, 11:29:11น.
ความรู้เรื่องความฝันตามตำราโบราณ




ต้นเหตุของความฝัน

คัมภีร์โบราณได้อธิบายว่า มีมูลเหตุอะไรบ้างที่ทำให้เกิดเป้นความฝันขึ้นมา มูลเหตุของความฝันนั้นเกิดขึ้นได้ดังนี้
ความฝันเกิด เพราะธาตุไม่ปกติ(ธาตุพิการ) ความฝันแบบนี้เป็นเพราะกายไม่ปกติ ใจไม่ปกติ กายใจของผู้ฝันจึงมีอันเกิดขึ้นมา ซึ่งโดยมากเป็นความฝันร้าย เป็นฝันไม่ค่อยดีเท่าไร จะทำให้เป็นทุกข์ เกิดความกังวล
ความฝันเกิด เพราะมีอารมณ์จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ความฝันอย่างนี้เป็นเพราะอารมณ์จิตใจของผู้ฝันได้ผูกพัน กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่อย่างมากตลอดเวลา เมื่อหลับไปก็เกิดความฝันในสิ่งนั้น ในเรื่องนั้น ที่ผู้ฝันฝักใฝ่อยู่ หรือได้พบเห็นแล้วจดจำโดยไม่มีวันลืม
ความฝันเกิด ขึ้นเพราะเทวดาบันดาล ความฝันเช่นนี้เป็นเพราะเทวดาผู้ปกปักรักษาคุ้มครองธรรมะ ได้ดลบันดาลให้ผู้ฝันเกิดความฝันไป เพื่อสำแดงแจ้งเหตุการณ์ล่วงหน้า โดยเฉพาะเรื่องมงคล แต่ถ้าเป็นฝันร้ายเรื่องร้ายก็เป็นเหมือนการตักเตือนผู้ฝันให้ระวังภัยและป้องกัน
ความฝันเกิดขึ้น เพราะอำนาจจิตของผู้ฝันเอง ซึ่งจะเป็นกุศลจิต หรืออกุศลจิตก็ตาม เพื่อบอกเหตุดี หรือเหตุร้ายล่วงหน้าที่จะเกิดขึ้นในกาลข้างหน้า





วันของความฝัน
ฝันวันอาทิตย์ ท่านฝันคืนวันอาทิตย์ ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับคนอื่นๆ
ฝันวันจันทร์ ท่านฝันคืนวัน จันทร์ ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับญาติหรือเพื่อนฝูงของท่าน
ฝันวันอังคาร ท่านฝันคืนวันอังคาร ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับพ่อแม่พี่น้องของท่าน
ฝันวันพุธ ท่านฝันคืนวันพุธ ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับ บุตรและภรรยาหรือสามีของท่าน
ฝันวันพฤหัสบดี ท่านฝันคืนวันพฤหัสบดี ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับ ครู อาจารย์ หรือผู้ที่ให้ความเคารพ
ฝันวันศุกร์ ท่านฝันคืนวันศุกร์ ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับสัตว์เลี้ยงของท่าน
ฝันวันเสาร์ ท่านฝันคืนวันเสาร์ ผลของความฝันนั้นจะเกิดกับตัวท่านเอง


สูตรวันของความฝันนี้ทดสอบแล้ว กับผู้ทำนายฝันเอง และทดสอบกับผู้อื่นแล้วมามากมาย กว่า 30 ปี พบว่า ส่วนใหญ่ หากผู้ฝัน ฝันเอง จะเกี่ยวข้องกับตัวผู้ฝัน 50 เปอร์เซนต์ และเกี่ยวข้องกับคนอื่นๆตามตำรา หากฝันวันเสาร์เกี่ยวข้องกับผู้ฝัน 100 เปอร์เซนต์



เวลาที่ท่านฝัน
ฝันเวลาหัวคํ่า หรือเวลาสองยาม เป็นฝันที่ไม่อาจเป็นจริงไปได้ เพราะว่าท้องใส้ไม่ปกติ ทำให้ความฝันวุ่น จิตใจวุ่น แต่ถ้าหลับสนิทบางทีก็จริง
ฝันเวลายามสี่ เป็นความฝันที่เป็นจริง ตามที่ท่านฝันดีหรือฝันร้าย (ถ้าท่านฝันร้ายก็ขอให้แก้ฝันกับแม่พระคงคา คือสระผม อาบนํ้า ล้างหน้าทันทีที่ท่านตื่นนอน ฝันร้ายก็จะกลายเป็นดี และถ้าเป้นฝันดีก็จะมีโชคลาภเป็นอันมาก)
ฝันเวลากลางวัน ไม่จำเป็นต้องเชื่อฝันกลางวัน(ความฝันที่นิยมถือเป็นความจริงได้ ต้องฝันเวลากลางคืนไม่มีแสงอาทิตย์) อนึ่งลาภ ลาภ เป็นของมีค่าหรือเงินทองที่ได้มาโดยไม่คาดฝัน หรืดค้าขายได้กำไรมากมายอย่างไม่นึกฝัน โชค หมายถึงคราวหรือจังหวะ ซึ่งมีทั้งดีและไม่ดี ขึ้นอยู่กับดวงชะตาของผู้นั้นเป็นเกณฑ์ แต่ถ้าได้ระมัดระวังตัวดี แล้วก็จะดีได้



เท่าที่ผู้ทำนายฝันเองได้สังเกตุ ความฝันมาตั้งแต่เด็ก ผ่านมากว่า 30 ปีแล้วกับการทำนายฝัน พบว่า ความฝันในช่วงเวลา ตี 3.30 ถึงตี 5.30 น. เป็นความฝันที่เป็นความจริง เพราะความฝันในช่วงเวลานี้ เทพ เทวดา เจ้าที่ เจ้าทาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือญาติ พี่น้อง วิญญาณต่างๆ ที่ถูกควบคุมมาเพื่อบอกกล่าว มักจะมาเข้าฝันในเวลานี้ เหตุนี้เป็นประสบการณ์จริงของผู้ทำนายฝันเองที่เห็นมาตลอดการทำนายฝัน





แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 กรกฎาคม 2015, 11:37:07น. โดย namtanwaan


ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 170025
ตอบกลับ #1 05 กรกฎาคม 2015, 11:33:19น.


ความฝันเกิดขึ้นได้อย่างไร
ศาสตร์การทำนายฝันคือการนำเอาความฝันมาตีความ ทำนายฝันแม่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการ ทำนายฝันเลขเด็ด ทำนายความฝัน ดูดวงทำนายฝัน ดูทำนายฝัน มีทำนายฝัน ทำนายฝันเลขเด็ด ทำนายฝันงู ทำนายฝันวันไม่รู้ และ ทำนายฝันฟันหัก ไม่ว่าความฝันของท่านคืออะไรที่นี้มีคำตอบให้ เพราะนี้คือศูนย์รวมแห่งศาสตร์การทำนายฝัน ผู้ทำนายฝัน ขอใส่ประสบการณ์ทำนายฝันจริงของผู้ทำนายฝันที่จะเพิ่มพูนความรู้ทำนายฝันที่แตกแขนงการทำนายฝันออกมาให้เห็น ความรู้ทำนายฝันนี้ เป็นประสบการณ์จริงของผู้ทำนายฝัน ว.วรันณ์ธร เจ้าของเว็บ Goosiam.com นั้น พบว่าความฝัน ไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่มีบางอย่างทำให้เกิดความฝันขึ้น ความฝันของแต่ละคนนั้น เกิดได้หลากหลายประการ โดยความฝันนั้นจะมีผู้ควบคุมความฝันอยู่ เช่น ความฝันเกิดจากสภาพร่างกายเจ็บป่วยทางกาย เจ็บป่วยทางใจ ความฝันเกิดจากการจดจำจากสิ่งทีผ่านมาในแต่ละวัน ความฝันเกิดจากเจ้ากรรมนายเวร ความฝันเกิดจากการบอกเหตุจากเทพ เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ความฝันเกิดจากองค์เทพประจำตัวของแต่ละบุคคลนั้นๆ บางคนจะเห็นอนาคตล่วงหน้าในความฝัน และต่อมาก็เจอจริงตามที่ฝัน ความฝันจากการถูกควบคุมมาโดยเทวดา ยมทูตที่มีหน้าที่ควบคุมวิญญาณจะนำพามาให้เข้าฝันบุคคลนั้นให้บอกเหตุ บอกลา บอกสิ่งต่างๆ ที่วิญญาณนั้นต้องการให้ทราบ วิญญาณต่างๆนั้นจะมีผู้ควบคุมมาไม่ได้มาได้เอง วิญญาณจากจากเจ้ากรรมนายเวร หากเข้ามาเล่นงานในความฝัน ผู้ควบคุมความฝันก็ไม่ห้าม เพราะเป็นการชดใช้เวรกรรมต่อกัน ตามกฎแห่งกรรมที่ถูกกำหนดไว้ ความฝันหลายอย่างที่คนไม่รู้ มีเยอะมากมายที่ผมดูแล้วยังไม่ได้รับการถ่ายทอดสิ่งใหม่ๆในเรื่องความฝัน ดูแล้วการอ้างอิงจากตำราเป็นส่วนใหญ่ คนที่รู้จักความฝันไม่ได้เผยแพร่สิ่งใหม่ๆให้เกิดขึ้น หรือไม่มีช่องทางให้เผยแพร่ คนมีความรู้ในการทำนายฝัน ตายไปความรู้ทำนายฝันก็สาปสูญหายไป

คนที่ฝันร้ายบ่อยๆ นอนไม่หลับ โดนรบกวนบ่อยเวลานอน ควรบูชาพระประจำวันเกิด เขียนชื่อ สกุล ของตนเอง ฝังไว้ใต้ฐานพระ และนำไปถวายวัดที่ปฎิบัติ ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น ฝากพระประจำวันเกิดที่ท่านถวายนำไปไว้ที่โบสถ์ สิ่งต่างๆที่รบกวนจะหายไป หรือดีขึ้น เพราะท่านจะมีทั้งพระประจำวันเกิด และพระเกตุ คุ้มครองท่าน





ความรู้เรื่องความฝันตามตำราโบราณ
หากความฝันเกิด เพราะธาตุไม่ปกติ  (ธาตุพิการ) ความฝันแบบนี้เป็นเพราะกายไม่ปกติ ใจไม่ปกติ กายใจของผู้ฝันจึงมีอันเกิดขึ้นมา ซึ่งโดยมากเป็นความฝันร้าย เป็นฝันไม่ค่อยดีเท่าไร จะทำให้เป็นทุกข์ เกิดความกังวล ความฝันแบบนี้ไม่ค่อยน่าเชื่อถือ จึงไม่ต้องใช้หลักทำนายฝัน หากใช้ทำนายฝันก็จะไม่ค่อยได้ผลนัก
หากความฝันเกิด เพราะมีอารมณ์จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ความฝันอย่างนี้เป็นเพราะอารมณ์จิตใจของผู้ฝันได้ผูกพัน กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่อย่างมากตลอดเวลา เมื่อหลับไปก็เกิดความฝันในสิ่งนั้น ในเรื่องนั้น ที่ผู้ฝันฝักใฝ่อยู่ หรือได้พบเห็นแล้วจดจำโดยไม่มีวันลืม ความฝันแบบนี้ไม่ค่อยน่าเชื่อถือ จึงไม่ต้องใช้หลักทำนายฝัน หากใช้ทำนายฝันก็ไม่ค่อยได้ผลนัก
หากความฝันเกิด ขึ้นเพราะเทวดาบันดาล ความฝันเช่นนี้เป็นเพราะเทวดาผู้ปกปักรักษาคุ้มครองธรรมะ ได้ดลบันดาลให้ผู้ฝันเกิดความฝันไป เพื่อสำแดงแจ้งเหตุการณ์ล่วงหน้า โดยเฉพาะเรื่องมงคล แต่ถ้าเป็นฝันร้ายเรื่องร้ายก็เป็นเหมือนการตักเตือนผู้ฝันให้ระวังภัยและป้องกัน ความฝันแบบนี้น่าเชื่อถือ ควรใช้หลักการทำนายฝัน มีความแม่นยำมากในการทำนายฝัน
หากความฝันเกิดขึ้น เพราะอำนาจจิตของผู้ฝันเอง ซึ่งจะเป็นกุศลจิต หรืออกุศลจิตก็ตาม เพื่อบอกเหตุดี หรือเหตุร้ายล่วงหน้าที่จะเกิดขึ้นในกาลข้างหน้า ฝันลักษณะแบบนี้มักมาจากจิตใต้สำนัก ความฝันนี้น่าเชื่อถือในระดับปานกลาง สามารถใช้หลักทำนายฝันได้ ความแม่นยำอยู่ในระดับปานกลาง







ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 170025
ตอบกลับ #2 05 กรกฎาคม 2015, 11:43:55น.

ฝันตอนไหนบอกอะไรคุณได้บ้าง?



จาก Internet สนับสนุนเนื้อหา ความฝัน หลายครั้งที่เราฝันในช่วงที่กำลังหลับแบบไม่รู้ตัว เมื่อตื่นมาเราก็อาจจะจำได้บ้าง หรือบางทีเรื่องราวเหล่านั้นก็เลือนรางเต็มที
ความฝัน หลายครั้งที่เราฝันในช่วงที่กำลังหลับแบบไม่รู้ตัว เมื่อตื่นมาเราก็อาจจะจำได้บ้าง หรือบางทีเรื่องราวเหล่านั้นก็เลือนรางเต็มที ยิ่งไปกว่านั้นพอตื่นมาแล้วก็มีเหตุการณ์ที่คล้ายๆ กับเรื่องราวที่คุณเพิ่งฝันไป

เหมือนคำที่พูดว่า “ฝันที่เป็นจริง” แล้วอย่างนี้เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ฝันเวลาไหนจะแม่น ฝันตอนไหนจะเป็นจริง? เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ







ฝันตอนไหนบอกอะไรคุณได้บ้าง?

เมื่อความฝันสัมพันธ์กับเวลา

ฝันตอนดึก นับตั้งแต่เวลา 22.00 น. - 02.00 น. ความฝันนี้จะมีความจริงปรากฏขึ้น ในเวลาประมาณ 1-3 เดือนข้างหน้าอย่างแน่นอน

ฝันตอนรุ่งสว่าง นับตั้งแต่เวลา 02.00 น. ไปจนถึงสว่าง ฝันนี้จะพบความจริงโดยเร็ว ไม่เกิน3 วัน หรือไม่เกิน 15 วัน

ฝันตอนหัวค่ำ นับเวลาตั้งแต่ 18.00 น. – 22.00 น. ความฝันนี้จะปรากฏความจริง ต้องกินเวลานานหน่อย อาจใช้เวลาครึ่งปี หรือหนึ่งปีขึ้นไป

ฝันตอนกลางวัน ความฝันแบบนี้ไม่เป็นที่ยอมรับในนิมิตที่เกิดขึ้นมักไม่เป็นความจริง อย่างที่มีการล้อเลียนคนที่ปรารถนาจะมีโชคหรืออยากได้ในสิ่งที่เกินความสามารถของตนว่า ฝันกลางวันไปแล้ว



ขอบคุณข้อมูลจาก : Horolive



 j|a j|a

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 170025
ตอบกลับ #3 05 กรกฎาคม 2015, 11:53:40น.


8 วิธีหลับฝันดี

เรื่องโดย ศรัณยู นกแก้ว

การนอนนับได้ว่าเป็นพื้นฐานสำคัญของการเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดใสและเต็มเปี่ยมด้วยพลังแห่งสติ แต่ทราบหรือไม่ว่า ประชากรในยุค 2010 กลับต้องเผชิญปัญหานอนไม่หลับอันเนื่องมาจากความเครียด ความผกผันทางการเมือง สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ สภาพสังคมที่ย้ำแย่ และเศรษฐกิจที่ตกต่ำ

ยกตัวอย่างแค่สหรัฐอเมริกาประเทศเดียวมีประชากรถึง 35 ล้านคนที่ต้องประสบปัญหาการนอน โดย 1 ใน 4 ของผู้ที่นอนไม่หลับมีอาการหนัก ถึงขั้นตอนพึ่งพาแพทย์และการกินยาเพื่อให้นอนหลับฝันดี

และก่อนที่การนอนไม่หลับจะบั่นทอนคุณภาพชีวิตและคุณภาพการทำงานมากไปกว่านี้ ขอชวนผู้อ่านมาสร้างฝันดีที่ไม่ต้องพึ่งยา ไม่ต้องพบแพทย์ ทว่าสามารถเริ่มต้นง่าย ๆ เดี๋ยวนี้ด้วยตัวของคุณเอง

1.  ปรับเปลี่ยนนาฬิกาชีวิต วิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหานอนไม่หลับ หรือหลับๆ ตื่นๆ ได้แก่ การปรับเปลี่ยน นาฬิกาชีวิต ( Biological clock ) เสียใหม่ เพราะแม้ว่านาฬิกาทั่วไปจะบอกเวลาดึกดื่นแค่ไหน แต่ถ้านาฬิกาในร่างกายรับรู้ว่านี่ยังไม่ใช่เวลานอน เราก็จะไม่รู้สึกง่วง ต่อให้ข่มตานอนอย่างไรก็ไม่หลับ ทางแก้ที่ได้ผลชะงัดคือต้องพยายามบังคับตัวเองให้เข้านอนและตื่นนอนเป็นเวลาทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อปรับนาฬิกาชีวิตให้คงที่ ซึ่งนาฬิกาชีวิตที่ว่านี้ เป็นตัวสำคัญในการควบคุมการหลั่งฮอร์โมนเพื่อควบคุมการทำงานของส่วนต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งหมายรวมถึงการง่วงนอนและการนอนหลับด้วย

ดังนั้น ถ้านาฬิกาชีวิตเราเดินตรงทุกวัน ก็เท่ากับว่าร่างกายเราจะรู้สึกง่วงนอนและตื่นนอนได้อย่างเป็นปกติทุกวัน

แสงแดดปรับนาฬิกาชีวิต

อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยปรับนาฬิกาชีวิตได้อย่างรวดเร็ว คือ ทันทีที่ตื่นนอนให้เปิดม่านหรือเปิดหน้าต่างเพื่อให้ร่างกายได้รับแสงแดด ทั้งนี้เพราะนาฬิกาชีวิตร่างกายไม่ได้ใช้ลานหรือถ่าน ทว่าใช้แสงแดดและความมืด เป็นตัวกำหนดการหมุนของเข็มเวลา การตื่นเช้ารับแสงแดดอ่อนๆ นั้น ก็เพื่อให้สมองจดจำเวลาตื่น รวมทั้งเวลานอนได้อย่างแม่นยำนั่นเอง

2.  หยุดเอาความเครียดมาโยนใส่เตียงนอน ความเครียดเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ โดยเฉพาะความเครียดที่สะสมจากที่ทำงานโดยเราไม่ทันรู้ตัว นี่ยังไม่นับรวมความวิตกกังวลจากสิ่งที่จะต้องทำในวันรุ่งขึ้น ซึ่งทำให้จิตใต้สำนึกเกิดอาการพะวงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ช่วยได้คือ เลิกนิสัยหอบงานมาทำบนเตียงนอนหรือบนโต๊ะทำงานที่ตั้งอยู่ข้างเตียง รวมทั้งเลิกการนอนดูรายการทีวีสุดโปรดที่จะทำให้เกิดความเครียด และเลิกการคุยโทรศัพท์บนเตียงนอน

ถ้าเป็นไปได้ แนะนำว่าให้ย้ายโต๊ะทำงานออกไปไว้อีกห้อง เพื่อจะได้ไม่เกิดพฤติกรรมทำงานเสร็จแล้วนอนทันทีโดยที่ความเครียดยังไม่จางหาย และที่ได้ผลไม่แพ้กันคือ ก่อนนอนให้จดสิ่งที่ค้างคาใจ หรือความวิตกกังวลลงในสมุดโน๊ต เช่น รายการที่ต้องทำวันรุ่งขึ้นปัญหาที่พบในวันนี้ เพื่อที่จะได้นำความเครียด ความวิตกกังวลโยนทิ้งไปจากสมองให้หมดก่อนเข้านอน

สาเหตุของการนอนไม่หลับ

3.  โรค คนที่กำลังป่วยมักจะนอนหลับๆ ตื่นๆ โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารและโรคร้ายแรง

•  อายุ 50 เปอร์เซ็นต์ของคนอายุ 65 ปีขึ้นไปมักประสบปัญหาการนอนไม่หลับ

•  ความเครียด แม้คนที่เครียดจะกินยาให้นอนหลับ แต่สมองกลับยังคิดตลอดเวลา เมื่อตื่นขึ้นมาจึงรู้สึกไม่สดชื่น บางคนอาจรู้สึกเหมือนยังไม่ได้นอนด้วยซ้ำไป

•  อาชีพ คนที่ต้องทำงานกะกลางคืน จะมีปัญหาสุขภาพอันเนื่องจากการนอนไม่หลับมากกว่าคนที่ทำงานช่วงกลางวัน ทั้งนี้แม้นาฬิกาชีวิตจะสั่งให้ง่วง แต่ร่างกายยังคงต้องฝืนทำงาน คนกลุ่มนี้จึงเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร และโรคเกี่ยวกับอารมณ์ที่ค่อนข้างแปรปรวน

•  อาหารสร้างฝันร้าย การกินอาหารไม่ว่าจะมากไปหรือน้อยไป ย่อมส่งผลต่อการนอนทั้งสิ้น การกินอาหารมื้อเย็นหนักเกินไปหรือกินก่อนนอนไม่ถึง 2 ชั่วโมง จะทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักเพื่อย่อยอาหารตลอดทั้งคืน ผลคือ เราจะหลับไม่สนิทฝันร้าย หรือตื่นเช้ามาด้วยความเหนื่อยล้า ส่วนการกินน้อยจนเกิดอาการหิวจะส่งผลให้ไม่สามารถข่มตาหลับลงได้

การนอนควรดื่ม Bedtime milk เพราะเป็นนมไขมันต่ำ ทำให้ระบบย่อยอาหารไม่ต้องทำงานหนัก และยังมีเมลาโทนินสูง ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้ จะช่วยในการนอนหลับได้เป็นอย่างดี

คนที่มักจะตื่นกลางดึกบ่อยๆ ให้กินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น โอ๊ตมีล ซีเรียลธัญพืช หรือแซนด์วิชไก่ชิ้นเล็กๆ เพื่อให้คาร์โบไฮเดรตที่ได้รับเข้าไปช่วยเพิ่มการผลิตเซโรโทนิน ( Serotonin ) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับ ทำให้หลับดียิ่งขึ้น

4.  ออกกำลังกายพอประมาณ การออกกำลังกายทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าและเกิดความง่วงนอน แต่การออกกำลังกายอย่างหักโหมเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนนอนหลับ ให้ผลตรงกันข้าม เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวจนหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง ดังนั้นวิธีที่ถูกต้องในการออกกำลังกายคือ วันละ 30-40 นาทีในช่วงเช้าหรือบ่าย ถ้าจะให้ดีควรออกกำลังกายให้ได้สัปดาห์ละ 3-4 วัน ซึ่งนอกจากทำให้นอนหลับฝันดีแล้ว การออกกำลังกาย ยังเป็นอีกหนทางในการกำจัดความเครียดที่สะสมมาตลอดวันอีกด้วย

5.  จัดสิ่งแวดล้อมในห้องนอนเสียใหม่ สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันในเรื่องการนอนคือ การจัดห้องนอนเพื่อ การนอนอย่างแท้จริง ไม่ควรนำโต๊ะทำงาน คอมพิวเตอร์ หรือโทรทัศน์เข้ามาไว้ในห้อง เพราะสิ่งเหล่านี้อาจส่งผลให้ใจยังคิดพะวงอยู่กับสิ่งเร้าต่างๆ จนนอนไม่หลับ ส่วนผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนควรหมั่นซักและตากแดด เพื่อป้องกันเชื้อโรคโดยเฉพาะคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ แสงก็ควรหรี่ลง และถ้าจะให้ดีควรมีตะเกียงน้ำมันอโรมาไว้จุดเพื่อสร้างบรรยากาศความผ่อนคลายร่วมด้วย

6.  สร้างชั่วโมงแห่งความผ่อนคลาย เทคนิคการนอนที่ใช้ได้ผลอีกอย่างหนึ่งก็คือ การสร้างบรรยากาศแห่งความผ่อนคลายในชั่วโมงสุดท้ายของวัน ทั้งนี้ก็เพื่อให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายค่อยๆ ผ่อนคลายสู่จังหวะที่ช้าลงๆ ไม่ใช่ทำงานเสร็จปุ๊บก็ล้มตัวลงนอนในทันที การสร้างบรรยากาศความผ่อนคลายอาจเริ่มจากการแช่น้ำอุ่นที่ใส่น้ำมันอโรมาลงไปสักนิด จิบชาคาโมมายล์หรือชาสมุนไพรให้ผ่อนคลายอารมณ์ เปิดเพลงเบาๆ คลอไป อ่านหนังสือธรมะเบาๆ เท่านี้ความเครียดตึงที่สะสมมาทั้งวันก็จะมลายหายไป

7.  ท่านอนทำพิษ ไม่น่าเชื่อเลยว่าท่านอนก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลายคนนอนไม่หลับ หรือไม่ก็ตื่นขึ้นมาพร้อมอาการปวดเมื่อยตามคอ หลัง ไหล่ ดังนั้นสิ่งที่ควรทำอีกอย่างก่อนนอนคือ สำรวจว่าตนเองนอนท่าไหน พร้อมทั้งหาหมอนหนุนให้เหมาะกับท่านอนดังนี้

•  นอนตะแคง คนชอบนอนตะแคงควรเลือกหมอนที่มารองรับช่องว่างระหว่างไหล่และศีรษะ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ศีรษะเอียงตกลงมาอยู่ที่ไหล่ข้างที่นอนทับจนเกิดอาการเหมือนตกหมอน และหมอนที่เลือกใช้ควรเป็นหมอนใบใหญ่ที่ค่อนข้างแข็ง หรือไม่ก็เลือกใช้หมอน Contour pillow ที่ตรงกลางต่ำ แต่ด้านข้างสูงเพื่อรองรับช่องว่างระหว่างต้นคอ

•  นอนหงาย คนชอบนอนหงายควรเลือกหมอนที่มารองรับช่วงไหล่ แต่ต้องไม่สูงเกินไป เช่น หมอนขนเป็ดที่นิ่มและแบนราบ หรือหมอนจากเมล็ดบัควีท ( buckwheat ) ที่เมล็ดบัควีทด้านใน สามารถเลื่อนไหลรับกับส่วนเว้าส่วนโค้งของศีรษะและไหล่ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญควรหาหมอนใบเล็ก มาหนุนบริเวณเข่าด้วยจึงจะสบายที่สุด

•  นอนคว่ำ เป็นท่านอนที่ควรหลีกเลี่ยงที่สุด เพราะจะทำให้ท้องถูกกดทับ ลมหายใจติดขัด แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรเลือกหมอนที่แบน และมีหมอนใบเล็กๆ หนุนอีกทีตรงช่วงท้อง หรือไม่ก็เลือกใช้ประเภท Body pillow จะช่วยให้นอนสบายขึ้น

8.  เจริญสติก่อนนอน เมื่อเตรียมสิ่งแวดล้อมภายนอกพร้อมสำหรับการนอนหลับฝันดีแล้วคราวนี้ก็มาถึงขั้นตอนการเตรียมสิ่งแวดล้อมภายใน คือ ทำใจให้ไร้ซึ่งความวิตกกังวลและความเครียดใดๆ อย่างแท้จริง วิธีหนึ่งที่ช่วยได้คือ การสวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรมก่อนนอน หรือไม่ก็หลับตานอนสมาธิตามลมหายใจเข้า-ออกสักครึ่งชั่วโมง (ถึงตรงนี้หากเผลอหลับไปเลยก็ยิ่งดี)

เพียงเท่านี้จิตใจก็จะปลอดโปร่ง พร้อมที่จะนอนหลับฝันดี แต่ตื่นเช้าขึ้นมาอย่างมีสติ พร้อมที่จะทำงานอย่างมีคุณภาพเต็มร้อย






ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 170025
ตอบกลับ #4 05 กรกฎาคม 2015, 11:57:05น.


นอนถูกวิธี ก็ฝันดีไปทั้งคืน





เคยเป็นบ้างรึเปล่า จะหลับนอนแต่ละทีก็แสนจะยากเย็น แถมเมื่อนอนไปแล้วก็ยังมาฝันร้ายอีก ทำเอาทั้งคืนเหมือนไม่ได้นอน ตื่นเช้ามาก็จะทำให้หน้าตาดูโทรมไปทั้งวัน นั่นอาจะเป็นเพราะว่าเรานอนไม่ถูกวิธี

ถ้าเราอยากนอนหลับฝันดี เราต้องนอนให้ถูกวิธี แต่ไม่ใช่แค่เพียงการนอนเท่านั้น เราจะต้องเตรียมตัวกันตั้งแต่ก่อนเข้านอนเลยล่ะ เรามาดูกันว่าต้องทำอย่างไรกันบ้าง

1. หลังจากทานมื้อเย็นเรียบร้อยแล้ว ควรเดินย่อยอาหาร และหากิจกรรมเบาๆ ทำเพื่อยืดเส้นยืดสายประมาณ 15 นาที เพื่อเป็นการผ่อนคลายซึ่งจะช่วยให้นอนหลับฝันดี

2. อาบน้ำอุ่นให้สบายตัวในอุณหภูมิที่พอเหมาะ ซึ่งจะสามารถช่วยผ่อนคลายความเครียดและความเหนื่อยล้า และถ้าหากสระผมควรที่จะเป่าผมให้แห้งก่อนเข้านอนเพราะไม่อย่างนั้นผมที่เปียกของเราจะทำให้หมอนอับชื้นจนเกิดเชื้อราได้

3. ควรเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้ต้องตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำกลางดึก

4. จัดเตรียมสิ่งที่ต้องใช้ในวันพรุ่งนี้ หรืออาจจะจดบันทึกสิ่งต่างๆ ที่ต้องทำไว้เพื่อเตือนความจำ จะได้ไม่ต้องมีเรื่องกวนใจตอนเข้านอน

5. เมื่อเข้าห้องนอนควรจัดแสงไฟภายในห้องนอนให้สลัว อย่าให้สว่างจนเกินไปเพราะแสงที่จะทำให้นอนหลับยาก นอกจากนั้นควรจัดห้องนอนให้ปลอดโปร่ง และเงียบสงบ เพื่อสร้างบรรยากาศในการนอน

6. อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับในห้องนอนควรอยู่ที่ 25 องศาเซลเซียส เพราะจะทำให้ร่างกายเย็นสบายนอนหลับได้ดี

7. ดื่มนมอุ่นๆ ก่อนเข้านอน เพราะในนมมีกรดอะมิโนที่เรียกว่า ทรัยป์โตฟาน ช่วยให้นอนหลับสบาย และยังมีแคลเซียมสูง ช่วยผ่อนคลายประสาท ทำให้จิตใจสบาย

8. ทิศในการนอน ทิศที่ดีที่สุดคือทิศเหนือ ควนหันศรีษะไปทางทิศเหนือและให้เท้าไปทางทิศใต้ ตามทิศทางของคลื่นแม่เหล็กโลก

เมื่อเราทำได้อย่างนี้แล้ว ก็จะทำให้เรานอนหลับฝันดีได้ตลอดคืน และตื่นมาสดใสในตอนเช้า ทำให้อารมณ์ดีแจ่มใสไปทั้งวันเลย






หวยซอง เลขเด็ด อภิโชควิเคราะห์เลขรวย หวยรัฐบาล : Apichoke.net

Re: ความรู้เรื่องความฝันตามตำราโบราณ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2015, 11:57:05น. »

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 170025
ตอบกลับ #5 05 กรกฎาคม 2015, 18:44:42น.

แก้เคล็ดฝันร้าย



หากคุณฝันร้ายหรือฝันไม่เป็นมงคล ให้ท่องหรือภาวนาคาถานี้ แล้วเรื่องร้ายๆ จะกลับกลายเป็นดีหรือเรื่องร้ายๆ จะบรรเทาเบาบางลง

ให้ตั้งนะโม 3 จบก่อน
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโธ
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
ธัมมานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
สังฆานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ


ความฝันที่เกี่ยวข้องกับตนเอง หรือกับฐานะและสมบัติของตนเอง ในตำราทำนายฝัน มักทำนายไว้ตรงข้ามเสมอ เช่นฝันว่าเป็นเศรษฐี ทายว่าจะยากจนลง หรือฝันว่าได้เงิน มักจะเสียเงิน ฝันว่าถูกตัดศีรษะหรือถูกแทงไส้ไหล กลับถือว่าเป็นฝันดีจะได้ลาภหรือหมดเคราะห์

โดยเหตุนี้ การที่จะถือว่า ฝันชนิดใดเป็นฝันร้ายหรือฝันชนิดใดเป็นฝันดี จึงไม่อาจจะกำหนดแน่นอนในทันทีที่ตื่นจากฝันได้ แต่ส่วนมากการ "ฝันร้าย" ในฝัน เช่น ฝันร้องไห้ หรือฝันถูกตัดหัว ซึ่งในคำทำนายว่า จะมีลาภดังที่กล่าวมานี้ ผู้ที่ฝันมักจะเป็นทุกข์กังวล เกรงว่าการฝันของตนจะฝันเป็นร้าย เพราะจิตใจตื่นตระหนกตั้งแต่อยู่ในความฝันแล้ว แต่แท้จริงจากคำทำนายกลับปรากฎว่าเป็นนิมิตบอกเหตุการณ์ล่วงหน้าว่าจะได้รับโชค ซึ่งแปลว่า "ฝันดี" นั่นเอง

ไทยเรามีวิธีแก้ฝันอยู่อย่างหนึ่งซึ่งแตกต่างกับคนต่างชาติ หรือฝรั่ง คือใช้วิธีเอาความฝันของตนไปเล่าให้ใครคนใดคนหนึ่งฟัง จะเป็น "ฝันดี" หรือ "ฝันร้าย" ก็ตาม คนที่รับฟังจากเรานั่นแหละจะเป็นคน "แก้ฝัน" ให้เราเอง คือพอเราเล่าจบ เขาก็จะต้องให้พรว่า "ฝันดีจะมีลาภ" ผู้ที่ฝันหรือไปให้เขาแก้ฝันจะต้องยกมือไหว้แล้วตอบว่า "สมพรปากเถิด" วิธีนี้คนเก่าๆ หรือคนไทยในชนบทยังนิยมใช้เป็น "เคล็ด" แก้ฝันของตนเองอยู่จนถึงทุกวันนี้ส่วนมาก เพราะถือว่าเมื่อให้อีกคนเป็นผู้แก้ฝันแล้ว ถ้าเป็นฝันร้ายก็จะกลายเป็นดี ถ้าฝันดีจะดียิ่งขึ้น

แต่วิธีการหรือ " เคล็ด" ในการแก้ฝันที่ถือตามตำนานหรือความเข้าใจของตนเอง เท่าที่ได้รับคำบอกเล่าว่าเป็น "ฝันร้าย"นั้น ไทยเราก็มีวิธีแก้อยู่อย่างวิจิตรพิสดารเหมือนกันและถือเป็น "ประเพณี" กันมานมนานแล้วทีเดียว ซึ่งถ้าหากคุณๆ ผู้สนใจจะลองนำไปใช้ดูบ้าง ก็คงไม่ก่อให้เกิดความเสียหายอะไรนักเพราะอย่างน้อยก็เป็นการ " ปลอบจิตใจ" ของตนเอง หรือ "ผู้ฝัน" ได้อย่างหนึ่งเหมือนกัน และวิธีการแก้ฝันนี้ เมื่อพิเคราะห์ดูแล้วก็มีเหตุอันควรนับเนื่องเข้าในข่ายของการ "หักกลบลบล้าง" อยู่ได้บ้างเหมือนกัน ดังที่จะได้กล่าว

เช่นฝันเห็น "ไฟ" หรือ "ไฟไหม้" ซึ่งตามคำทำนายก็ว่าจะได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจนัก ตำราเคล็ด ในการแก้ฝันของโบราณ ก็แนะนำให้ไปแก้กับ "แม่น้ำ" หรือ "คงคา" หรือใช้ "น้ำ" เป็น "เคล็ด" ในการดับ "ไฟ" เสีย ก็จะทำให้เรื่องราว หรือเหตุการณ์ร้าย ที่จะเกิดล่วงหน้า มีอันบรรเทาลงไป
และคนโบราณก็คือว่า "เคล็ด" วิธีนี้ดีที่สุด ในการแก้ฝันชนิดนี้ แต่ถ้าจะให้ดีขึ้นไปกว่านั้น คนโบราณ หรือเจ้าตำรับคำทำนายฝัน เขาแนะว่า เมื่อสะดุ้งตกใจตื่นจากฝันร้าย ไม่เฉพาะแต่จะฝันเรื่องไฟอย่างเดียว แม้ฝันอื่นๆ ก็ตาม ที่ทำให้ตกอกตกใจนั้น ให้รีบลุกขึ้นนั่งกราบหมอน รำลึกถึงคุณพระรัตนตรัยเสียสามครั้ง แล้วสวดมนต์ภาวนาเท่าที่สามรถจะสวดได้ ทำนองขอคุณพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ให้ช่วยปกปักรักษาและขจัดเหตุร้ายต่างๆ ที่จะเกิดแก่ตัวเราให้หมดสิ้นไป ซึ่งนับว่าเป็นวิธีการที่ดีที่สุดและถูกต้องที่สุดถ้าเราสามารถจะปฏิบัติตามได้ และการสวดมนต์นี้ ก็ควรจะสวดทุกคืนก่อนนอนด้วยยิ่งดี

อย่างไรก็ตาม มีเคล็ดหรือวิธีแก้ฝันหลักใหญ่ๆ อยู่บางประการของตำรับโบราณ ที่จะนำมากล่าวเป็นส่วนประกอบได้บ้างในที่นี้ นอกเหนือจากการสวดมนต์ภาวนา ขอคุณพระศรีรัตนตรัยเป็นที่คุ้มครองแล้ว…คือ

 
ถ้าฝันว่า ผมร่วงเป็นหย่อมๆ ทำนายว่าจะมีเคราะห์ ต้องไปแก้กับหญิงมีครรภ์ หรือ คนมีท้อง (คือเล่าให้หญิงนั้นฟัง แล้วหญิงนั้นกล่าวเป็นทำนองว่า "ฝันดี" จะมีลาภ ดังที่กล่าว)
ถ้าฝันว่า ถูกสุนัขกัด ทำนายว่า จะเดือดร้อนเพราะศัตรูต้องไปแก้กับภิกษุในวัด
ถ้าฝันว่า เห็นไฟไหม้ ทำนายว่าจะเดือดเนื้อร้อนใจต้องไปแก้กับน้ำ หรือเอาน้ำในแม่น้ำลำคลองล้างหน้าตนเอง ในตอนตื่นนอนแต่เช้ามืด แล้วกล่าวขอพรจากพระแม่คงคา ให้ช่วยคุ้มครองปกป้องอันตราย
ถ้าฝันว่าเต้นรำ หรือร้องรำ จะเสียของรักต้องไปแก้ฝันที่ใต้ถุนเรือน บอกกล่าวกับผีเหย้าผีเรือน
ถ้าฝันว่า ได้หมู หรือขี่หมู จะเดือดร้อน ต้องไปแก้ฝันกลางแม่น้ำหรือลำคลอง
ถ้าฝันว่า ใส่แว่นตา จะผิดหวังในการงานต่างๆ ต้องไปแก้ฝันกับคนชั้นครูบาอาจารย์ หรือผู้มีความรู้สูง
ถ้าฝันว่า ตกส้วมอุจจาระ มีแต่ขี้อย่างเดียว ทายว่าจะเสียชื่อเสียง ต้องไปแก้ฝันบนกลางสะพาน
ถ้าฝันว่า ได้เงินทอง ทายว่า จะเดือดร้อนเรื่องการเงิน ต้องไปโปรยข้าวลงกลางดิน เรียกไก่หรือหมูหมามากินเสียก่อน แล้วจึงแก้ฝัน
ถ้าฝันว่า ตกเหว,ตกบ่อ ทำนายว่าฝันร้าย ต้องนอนคว่ำหน้าเอาคางเกยธรณีประตูแล้วแก้ฝัน
ถ้าฝันว่า ขี่ม้า หรือวัวควาย แล้วตกจากหลังม้าหรือวัวควาย ทายว่าจะเดือดร้อน ต้องไปแก้ฝันตรงกลางสามแยก หรือสี่แยก โดยหันหน้าไปทางทิศตะวันออกแล้วแก้ฝัน
ถ้าฝันว่า ว่ายน้ำข้ามฝั่งไม่สำเร็จ ทายว่าจะลำบากหรือผิดหวัง ต้องไปแก้ฝันกับพระพุทธรูปหรือพระบูชา
ถ้าฝันว่า นั่งเรือไปแล้วเรือล่ม จะได้รับเคราะห์หนักต้องไปแก้ฝันใต้ต้นไม้ใหญ่ๆ
ถ้าฝันว่า มีเด็กอื่นมาดูดนมเรา ทายว่าจะได้รับการเจ็บป่วย ต้องไปแก้ฝันกับคนสูงอายุ หรือญาติผู้ใหญ่ในบ้าน
ถ้าฝันว่า เดินเข้าไปในถ้ำมืด จะทะเลาะวิวาทหรือเสียคนรัก ต้องไปแก้ฝันกับพระอาทิตย์ หรือกลางแดด
ถ้าฝันว่า กระโดดจากทีสูงลงมาที่ต่ำ ทายว่า จะเสียผลงานต้องไปแก้ฝันกับเสาเรือนในบ้าน หรือเสาวิหารโบสถ์
ถ้าฝันว่า ได้ดมกลิ่นหอมของดอกไม้ จะมีอันตรายต้องแก้ฝันบนที่นอน
ถ้าฝันว่า ถูกโซ่รัดคอหรือคล้องคอ จะได้รับเคราะห์ต้องไปแก้ฝันกับแม่ธรณีประตู
ถ้าฝันว่า ลุยโคลน หรือ ย่ำโคลน ทายว่าจะไม่สบายต้องไปแก้ฝันกับต้นไม้ใหญ่ๆ

ที่ยกกล่าวมานี้ เป็นเพียงเคล็ดหรือวิธีการแก้ฝัน ตามคำบอกเล่า ของคนแก่คนเฒ่าสูงอายุในสมัยก่อนๆ ตกทอดกันมา จะถือเป็นเรื่องจริงจังหรือไม่ก็ตาม ก็ขอให้อยู่ในการพิจารณาของท่าน แต่วิธีที่ดีที่สุด คือการแก้ฝันด้วยการสวดมนต์ภาวนา ระลึกถึง คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือสวดตามบทสวดมนต์แก้ฝัน ดังที่กล่าวมาแล้ว

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 170025
ตอบกลับ #6 05 กรกฎาคม 2015, 18:46:43น.


ความฝันกับตัวเลข




ความฝัน ของคนเราที่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต เช่นมนุษย์หรือสัตว์ หรือกับสิ่งของต่างๆ ตามตำราทำนายฝันส่วน มาก ที่ให้ความหมายของสิ่งเหล่านั้นเป็นตัวเลข มักจะมีส่วนใกล้เคียงกันอยู่มาก ซึ่งอาจเกิดจากการสังเกต หรือ พิจารณาเอาจากลักษณะรูปร่าง หรือจุดเด่น หรือลำดับของตัวอักษรของสิ่งต่างๆ เหล่านี้มาเป็นหลักเกณฑ์ โดย ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์มานานหลายชั่วอายุคนแล้วก็ได้ จึงสามารถให้ความเชื่อถือต่อการทดลองเปรียบเทียบ ในลักษณะที่เรียกว่า ใกล้เคียงหรือมีส่วนตรงกับเป้าหมายได้เป็นส่วนมาก

เหตุนี้ ผู้เป็นเจ้าของตำรับเดิม จึงได้พยายามถอดเอาสิ่งที่ฝันถึงเหล่านี้ออกมาเป็น "เลข" โดยถือเอาว่าเป็น "อิทธิพล" อย่างหนึ่งของตัวเลข ที่บันดาลให้เป็นไปในมโนภาพแห่งความฝันของคนเรา ซึ่งแม้จะยึดถือเป็น หลักเกณฑ์ตายตัวหรือ "แม่นยำ" ที่เดียวนักไม่ได้ แต่ก็เชื่อว่าจะมีส่วนใกล้เคียงกันอยู่บ้าง

จึงขอให้ผู้อ่านที่สนใจลองใช้ความสังเกต หรือลองหัดพิจารณาดูเองบ้าง หากจะผิดพลาดไปจากคำทำนาย ก็ขอให้ถือว่าเป็นส่วนประกอบในการหาความสนุกหย่อนใจ หรือเป็นเครื่องบันเทิงใจอย่างใดอย่างหนึ่งก็แล้วกัน (รวบรวมจากหลายตำราเพื่อให้พิจารณากัน บางตำราอาจขัดแย้งกัน ตีความต่างกัน ขอให้ท่านพิจารณา)

หลักคำทำนายและการใช้วิธีสังเกตจากตำรับโบราณเดิมมีดังนี้

ถ้าฝันเห็น กษัตริย์,พระราชินี,ประมุข,คนแก่หง่อมสูงอายุ,บิดามารดา,พระพุทธรูปบูชา, พระประธานในโบสถ์, พระแก้วมรกต,ฯลฯ มักจะเป็นเลข 9 (เฉพาะองค์พระราชินีนั้น ถ้าในฝันมีองค์พระราชายืนประทับเคียงข้าง ให้ถือเป็น 8 และองค์กษัตริย์เป็น 9 ฉะนั้น เลขนี้จะต้องเป็นเลข 2 ตัว คือ 98 หรืออาจจะเป็น 29 ก็ได้)

ถ้าฝันเห็น ไก่,หนู ฯลฯ มักเป็นเลข 1 (ถือเอาว่า ก. ไก่ เป็นพยัญชนะตัวแรก และหนูเป็นปีแรกของปีเกิด หรือปี 12 นักษัตร คือชวดแปลว่าหนู)

ถ้าฝันเห็น เสาเรือนโดดเดี่ยว,ไม้ไผ่, ดินสอ, ก้านธูป, หรือสิ่งที่เรียวยาว เช่น เส้นเชือกขึงตรง, เส้นหมี่ หรือ เสาธง (ไม่มีธง) ก้านไม้ขีด, ไม้บรรทัด,ไม้เรียว, บุหรี่, มักจะเป็นเลข 1

ถ้าฝันเห็นคนตาย,ศพ หรือโลงศพ มักจะเป็นเลข 4 ( ในทางอิทธิพลของตัวเลขนี้ว่าเลข 0 แทน 4 หรือ 4 แทน 0 ได้ ฉะนั้นจึงเป็น 4 หรือ 0 ได้)

แต่ถ้าฝันเห็นคนที่ตายไปแล้วเป็นคนแปลกหน้าและเป็น "ผี" ในฝัน มักเป็นเลข 6 (ซึ่งแปลความหมายว่า "ผีหลอก" คือ "ผีโกหก" คำว่าหลอกหรือโกหกจึงเท่ากับ 6)

ถ้าฝันเห็น หีบ ห่อ, กระเป๋าเดินทาง, โต๊ะ,เก้าอี้, เตียงนอน,วิทยุ หรือ สมุดหนังสือ หรือวัตถุสิ่งของที่มีรูปสี่เหลี่ยม มักจะเป็นเลข 4

ถ้าฝันเห็นกระแสน้ำ หรือ น้ำ มักเป็นเลข 2 (ถือเอาลำดับจากธาตุทั้ง 4 คือ 1. ดิน 2. น้ำ 3. ลม 4. ไฟ เพราะฉะนั้น ถ้าฝันเห็นดิน ก็มักตรงกับเลข 1 หรือฝันเห็น ไฟ ก็มักตรงกับเลข 4)

ถ้าฝันเห็นแว่นตา, ถันนมผู้หญิงทั้งสองข้าง ปาก คน, เป็ด, คนกอดอก, ห่วง 2 ห่วงคล้องกัน ฯลฯ มักเป็นเลข 8 (คือถือเอาตามลักษณะ และอักษร เช่น แว่นตามีวงกลม 2 วงต่อเนื่องกัน หรือนมสองข้าง ส่วนคำว่าปากและเป็ด ถือเอาตัว อักษร ป. เป็นความหมายของคำว่าแปด)

ถ้าฝันเห็น นก มักเป็นเลข 6 ทั้งนี้ไม่ถือตามตัวอักษร น. เป็น 1 แต่ถือเอาการออกเสียง "นก" ใกล้เคียงกับ หก หรือ ถือว่านก คือ "วิหค" ก็ได้

ถ้าฝันเห็นเรือ มักเป็นเลข 5 (ตามความสังเกตว่า ร. เรือ มีลักษณะคล้ายตัวเลขอารบิคเลข 5 ก็ได้) ถ้าฝันเห็นผู้หญิงในวัยสาวถึงวัยกลางคน มักเป็นเลข 5 แต่ถ้าฝันเห็นหญิงคนท้องมักเป็นเลข 6 หญิงแก่ชรา หรือมารดา มักเป็นเลข 9

ถ้าฝันเห็น พลับพลา, บ้านเรือน , อาคาร, หรือหลังคาบ้าน มักเป็นเลข 7

ถ้าฝันเห็น วงแหวน,กำไลมือ, หลุมหรือบ่อหรือวัตถุที่มีลักษณะเป็นวงกลม หรือกลอง มักเป็นเลข 0 (บางตำราว่าแหวนมักจะตรงกับเลข 6 ซึ่งอาจถือเอาคำว่า ว. แหวน มีลักษณะคล้ายเลข 6 ของไทยก็ได้)

ถ้าฝันเห็น สามง่าม,คราด,ส้อม,ช้อน,คทา, รถสามล้อ, จั่วหลังคา มักเป็นเลข 3

ถ้าฝันเห็น จิ้งจก, ตุ๊กแก, จรวด, เจว็ดศาล, จอบ มักเป็น เลข 7 (ถือเอาตามตัวอักษร จ. อยู่ในคำว่าเจ็ด ส่วนตุ๊กแก นั้นถือเอาไม้ตรี มีลักษณะเป็นเลข 7 ของไทย)

ถ้าฝันเห็น วัวควาย ,สุนัข, เรือ หรือสัตว์ 4 เท้า ส่วนมากมักเป็นเลข 4 แต่ให้สังเกตว่า ถ้าเป็นสัตว์ที่อยู่ใน 12 นักษัตรของปีเกิด คือปีชวด-ปีกุน ให้ถือ ชวด (หนู) 1, ฉลู(วัว)2, ขาล(เสือ)3, เถาะ(กระต่าย) 4, มะโรง (งูใหญ่) 5, มะเส็ง(งูเล็ก) 6, มะเมีย(ม้า)7, มะแม(แพะ) 8, และวอก(ลิง) 9, ส่วนระกา (ไก่) เป็น 1 หรือ 10, จอ(สุนัข) เป็น 11 หรือ 4, กุน(หมู) เป็น 12 หรือ 4

ถ้าฝันเห็น แก้วน้ำ, แก้ว,เพชรพลอยมีค่ามักเป็น เลข 9

ถ้าฝันเห็น เบ็ดตกปลา, (ตัวเบ็ด) ไม้เท้าถือ(มีหัวโค้งงอ เหมือนรูปตัว j ) คันร่ม หรือสะพานโค้งมักเป็นเลข 6

ถ้าฝันเห็นกางเกง, เสื้อ. ตะเกียบทั้งคู่, รางรถไฟ และรองเท้า(ทั้งคู่) มักจะเป็นเลข 2 (ถือเอาว่าสิ่งเหล่านี้มีเลขเป็นคู่คือ 2 เช่น กางเกงมี 2 ขา หรือรองเท้าต้องมีคู่หรือ 2 ข้าง)

ถ้าฝันเห็นงูใหญ่ หรือพญานาค (ตามที่เข้าใจในฝัน) มักจะเป็นเลข 5 ถือเอาลำดับในปีเกิด 12 นักษัตร ถ้าฝันเห็นงูเล็กๆ หรืองูธรรมดาทั่วไป มักเป็นเลข 6 (ถือปี 12 นักษัตรเช่นเดียวกัน)

ถ้าฝันเห็นมือหรือเท้า มักเป็นเลข 5 (ถือเอาว่ามี 5 นิ้ว) แต่ถ้าฝันเห็นแขน หรือขา มักเป็น 2 (ถือเอาว่ามนุษย์เรามี 2 แขน 2 ขา) แต่ถ้าฝันเห็นมือ ในลักษณะกำแน่นหรือกำหมัด หรือกำปั้น มักเป็นเลข 6 หรือ 9 และถ้าฝันเห็น "มือจับ" เช่นจับปลา จับสิ่งของ ถือเอาลักษณะของการ"จับ" เป็นเลข 7 เช่นจับปลา ก็ จะต้องเป็น 87 หรือ 78 เพราะปลา เข้าในลักษณะของเลข 8

ถ้าฝันเห็นว่าวจุฬา มักเป็นเลข 5 เพราะมีปลายทั้ง 5 คล้ายดาว แต่ถ้าเป็นว่าวปักเป้า ว่าวอีรุ้ม มักเป็นเลข 4 เพราะ เป็น 4 มุม

ถ้าฝันเห็นบันได มักเป็นเลขคี่ คือ 3, 5,7,9 เพราะบันไดส่วนมาก จะต้องสร้างขั้นบันไดให้เป็นเลขคี่ ฉะนั้นถ้าฝัน สังเกตระยะความสูงหรือขั้นบันไดได้ ก็อาจจะมีความหมายเป็นเลขคี่เลขใดเลขหนึ่งได้ใกล้ชิด)

ถ้าฝันเห็น ภูเขาสูงใหญ่ มักเป็นเลข 9

ถ้าฝันเห็นจอมปลวกหรือตัวปลวก มักเป็นเลข 8

ถ้าฝันเห็นอุจจาระ หรือ "ขี้" มักเป็นเลขคี่ (แต่ต้องสังเกตว่า จำนวนของก้อนขี้นั้นมากหรือน้อย แล้วตีความหมายให้ใกล้เคียงเช่น จำนวน 2 ก้อน ก็อยู่ในราวเลข 1, หรือ 3 แต่ถ้ามากก็ตีความหมายเป็น 5 หรือ 7 ได้ อย่างให้ถึง 9)

ถ้าฝันเห็น หมวก, มงกุฎ,ชฎา,ธงปักปลายยอด มักเป็นเลข 9 (คือ ถือว่าเป็นของอยู่สูง)

ถ้าฝันเห็น กุ้ง มักเป็น 9 ถ้าฝันเห็นรวมกับปลาก็ต้องตีความหมายว่า 98

ถ้าฝันเห็น เต่า, ตะพาบ มักเป็น เลข 4 บางตำราว่าเลข 3 คือถือว่าตัวอักษร ต.ใกล้เคียงกับเลข 3 ของไทย

ที่ยกมานี้ เป็นแนวทางตัวอย่างของอิทธิพลตัวเลขแทนสิ่งต่างๆ ในฝัน ตามเหตุผลของเจ้าของตำรับ เดิมแต่โบราณกาลมา ซึ่งท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตามที ก็ลองพิจารณาสังเกตเอาตามที่ท่านฝันดูสัก 2-3 ครั้ง บางทีจะ ช่วยให้ท่านมีประสบการณ์แปลกๆ ใหม่ขึ้นบ้าง

สรุปความฝันที่เป็นสัญลักษณ์ของตัวเลขต่างๆ
โดยสังเขปให้ท่านพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

เลข 1 ได้แก่ฝันเห็น ไก่, หนู, เสาเรือน, ดินสอ, ปากกา,ไม่ไผ่, ก้านธูป,บุหรี่,หนอน,ดิน,เส้นผม,เส้นเชือก,เทียนไข, มดเล็กๆ,ปิ่นปักผม,สายสร้อย,กบ,ดอกบัว ฯลฯ

เลข 2 ได้แก่ฝันเห็น น้ำ, ตะเกียบ, กางเกง,เสื้อ,รองเท้า,รางรถไฟ,ช้อนส้อม,ข้าวสาร,ขวด,วัว,ผีเสื้อ, ถนนหนทาง,ขื่อคา,เลือด,ตุ้มหู,แขน,ขา ฯลฯ

เลข 3 ได้แก่ฝันเห็น สามง่าม, คราดส้อม, (ไม่รวมช้อน),คทา,จั่วหลังคา,ทางสามแยกหรือสามแพร่ง,ธงสามเหลี่ยม, เต่า,ตะพาบน้ำ,รถสามล้อ,สามขา,พัดลม,ลม,เสือ,เกาฑัณท์หรือธนู,สามเณร,เตาไฟ,ซี่ฟัน ฯลฯ

เลข 4 ได้แก่ฝันเห็น คนตาย,โลงศพ,หีบห่อ, กระเป๋าเดินทาง, ลังไม้,สมุด, หนังสือ, กระจก , สัตว์สี่เท้าบางชนิด(สุนัข,เสือ,กระต่าย,วัว,ควาย,ลา,แมว,ฯลฯ) รถยนต์ , เครื่องบิน,ผ้าเช็ดหน้า,มุ้ง, ว่าวปักเป้า,ไพ่ป๊อก,จอภาพยนตร์,หน้าต่าง ฯลฯ

เลข 5 ได้แก่ฝันเห็น งูใหญ่(มะโรง),พญานาค, ผู้หญิง,เรือ,ศีรษะคน,ว่าวจุฬา,รั้วบ้าน,ดวงดาว,เมฆหมอก,ห่าน, ดอกไม้(หอม),มือ,เท้า ฯลฯ

เลข 6 ได้แก่ฝันเห็น ไม้เท้า,เบ็ดตกปลา,คันร่ม,หวี,ผีหลอก,ขวาน,ดาบ,งู,กระบวย,ลูกเต๋า, สะพานโค้ง,ระฆัง,นก,กุญแจ,ต้นไม้,หมวก,ฯลฯ

เลข 7 ได้แก่ฝันเห็น ตุ๊กแก,จิ้งจก,จอบ,จรวด,เจว็ด,ศาล,แจกัน,มีดพร้า,จิ้งหรีด,จักจั่น,เจดีย์,อาคารบ้านเรือน, หลังคา,ม้าฯลฯ

เลข 8 ได้แก่ฝันเห็น แว่นตา,นมผู้หญิง,ห่วง 2 ห่วงคล้องกัน,คนกอดอก,เป็ด,พระสงฆ์,ญาติผู้ใหญ่,ปีบน้ำ,แมงมุม, โบสถ์, แพะ,แมลงป่อง,ปลวก, จอมปลวก,ปราสาท,พระปราง,โซ่ตรวน,ปากคน,ปลิง ฯลฯ

เลข 9 ได้แก่ฝันเห็น กษัตริย์,บิดามารดา,พระพุทธรูป,พระแก้วมรกต,พระปฐมเจดีย์,ภูเขา,ภูเขาทอง,ลิง, ยักษ์,กำแพงใหญ่ๆ,เทวดา,กุ้ง,กบ,ช้าง,ต้นไม้ใหญ่,ฉัตร ฯลฯ

เลข 0 ได้แก่ฝันเห็น ห่วง,แหวน,กำไลข้อมือ,นาฬิกาข้อมือ,ถังน้ำ,พระอาทิตย์,พระจันทร์,คนตาย,หลุม,บ่อ,ล้อรถ, ชามจาน,กระป๋องกลม,กลอง,โถส้วม,ฆ้อง,ผลไม้ลูกกลมๆ,กระดุม,ถาด ฯลฯ

  • พลังน้ำใจ: 0
ตอบกลับ #7 06 มิถุนายน 2018, 14:39:35น.
ให้มาอย่างนี้ต้องจัดสักงวด

 

เว็บไซต์ในเครือข่ายอภิโชค : apichokeonlin.com | apichoke.net | apichoke.biz | apichoke.me | apichoke.org | apichoke.info
"ศาสตร์ของการคำนวณหวย สถิติหวยความน่าจะเป็น บนเว็บนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน-นักคำนวณ และบุคคลทั่วไปตลอดจนเลขจากไสยศาสตร์ต่างๆ การที่ใครจะถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือถูกหวย รวยด้วยหวย ก็เป็นเพียงแต่ การเสี่ยงโชค เสี่ยงดวง เท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ และไม่ควรงมงาย หากต้องการเสี่ยงโชค ซื้อหวย เล่นหวย ก็ขอให้ เสี่ยงโชคแต่พอเพียงตามกำลังของตนเอง อย่าซื้อเกินกำลังอาจทำให้เดือนร้อนได้"
คำเตือน : อย่าหลงเชื่อหากมีผู้อ้างตนเป็นอาจารย์ดังสามารถให้หวยถูก100%หรือให้ถูกทุกงวดแน่นอน หรืออวดอ้างว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่กองสลาก แล้วเรียกเก็บเงินจากท่าน
ข้อมูลในเว็บนี้ใช้ประกอบเสี่ยงโชคสำหรับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น ไม่สนับสนุนหวยที่ผิดกฏหมาย