ปกิณณกะ > ห้องคลายเครียด - ตลก ขำขัน

ความรัก

<< < (2/183) > >>

noinoinoi:
หากคุณรักใครสักคนก็บอกเขาไป



"...if you love some somebody, Tell them..."
หากคุณรักใครสักคน ก็บอกเขาไปเสียเถอะ คุณว่าจริงไหม?
เวลาที่คุณมีความรู้สึก"พิเศษ"กับใครคนหนึ่ง
คุณมักจะรู้สึกอิ่มเอมอยู่ในใจเสมอเมื่อได้คุยหรือเพียงเห็นหน้าคนๆนั้น

แต่หลายคนก็ได้แต่เก็บความรู้สึกนี้เอาไว้
ไม่กล้าบอกออกไปด้วยความ"อายหรือกลัว"
บางคนกลัวว่า ถ้าบอกความรู้สึกนั้นไปแล้ว"เขา"อาจจะเปลี่ยนไป
สู้เป็นเพื่อนกันยังดีกว่า เพราะอย่างน้อย"เขา"ก็ยังคงปฏิบัติกับเราเหมือนเดิม
อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณพอใจจะเป็นฝ่ายรักเขาอยู่เงียบๆ ข้างเดียว
หรือต้องการให้เขามองกลับมาหาคุณบ้างหรือเปล่า

แต่มีสิ่งหนึ่งที่อยากให้คุณจำไว้นั่นคือ
"เพลงนั้นจะไม่ใช่เพลงจนกว่าคุณจะร้องเพลงนั้นออกไป"
ระฆังก็จะไม่ใช่ระฆังจนกว่าคุณจะตีมันให้ดังกังวานออกมา
ความรักก็เช่นกัน คุณไม่อาจพูดได้ว่าสิ่งที่อยู่ในใจคุณนั้นคือความรัก
จนกว่าคุณจะได้ให้ความรักของคุณแก่ใครสักคนโดยการบอกรักเขา

ถ้าคุณรักเขาแล้ว ถึงจะไม่กล้าบอก
ก็จงแสดงออกมาเถอะว่า "คุณรัก คุณห่วงใย"
อย่าได้เก็บความรักเหล่านั้นไว้ชื่นชมคนเดียวเลย



โมชิ:

โมชิ:
แวะมาให้กำลังใจจ้าคุณหน่อย
ขอบคุณค่ะ #t@ l@$ h*[

noinoinoi:
รัก 6 ประเภท

วันนี้มีรูปแบบของความรักมาฝากให้คิดกันค่ะว่าความรักของคุณในตอนนี้นั้นเป็นแบบไหนกัน

1. ความรักแบบเสน่หา (Eros)

ความรักเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต แม้จะไม่มากพอที่จะทำลายตนเอง รู้สึกถูกใจอีกฝ่ายตั้งแต่แรกเห็นคล้ายรักแรกพบ ความดึงดูดใจซึ่งกันและกันแสดงออกมาทั้งคำพูดและการแสดงความใกล้ชิด อยากเจอกันทุกวันถ้าเป็นไปได้ วาดฝันเกี่ยวกับอีกฝ่ายไว้งดงามและไม่ได้คาดการณ์ถึงอุปสรรคใด ๆ คู่รักประเภทนี้พยายามพัฒนาสัมพันธภาพกับคู่ของตนอย่างรวดเร็ว โดยการเปิดเผย ซื่อสัตย์ และจริงใจ ใส่ใจคู่รักมากเป็นพิเศษ แต่ไม่แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของหรือกลัวว่าจะมีคู่แข่ง

2. ความรักแบบไม่ผูกมัด (Ludus)

ความรักเป็นเกมชนิดหนึ่งเพื่อความบันเทิงของทั้งสองฝ่าย หลีกเลี่ยงการผูกมัด สามารถผลัดเปลี่ยนคู่ไปได้เรื่อยๆ
พยายามที่จะไม่สร้างความผูกพันทางอารมณ์อย่างลึกซึ้งกับใคร เพื่อรักษาความเป็นอิสระของตน ถึงแม้จะไม่ต้องการทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวด แต่การโกหกและความไม่จริงใจถือว่าเป็นการเล่นตามกติกา ที่มีความรักแบบนี้จะไม่หึงหวงหรือแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ และอาจเห็นชอบให้คู่ของตนมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ ทั้งนี้เพื่อสร้างความสมดุลในความสัมพันธ์ของตน

3. ความรักแบบมิตรภาพ (Storge)

ความรักพัฒนามาจากมิตรภาพ เป็นความรู้สึกรักใคร่อันเนื่องมาจากการคบหากันมาเป็นเวลานาน ไม่ได้มีความรู้สึกตื่นเต้น เร่าร้อน  แต่เน้นการที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกันและมีกิจกรรมร่วมกัน ความรักเป็นสิ่งที่มั่นคงที่ผนวกเข้าไปกับการดำรงชีวิตตามปกติ

4. ความรักแบบลุ่มหลง (Mania)

ผู้ที่มีความรักแบบนี้จะใฝ่หาความรัก แต่เชื่อว่าความรักเป็นความเจ็บปวด ปรารถนาความใกล้ชิดและต้องการความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ต้องการให้คู่รักของตนแสดงความรักมากกว่าปกติ เมื่อใดที่คู่ไม่ได้แสดงความใส่ใจ หรือไม่แสดงความรักตามที่ปรารถนาอาจจะทำร้ายตนเพื่อเอาชนะความรัก คู่รักประเภทนี้เชื่อว่าเมื่อปราศจากความรักจากอีกฝ่าย ชีวิตก็ไม่มีคุณค่าอีกต่อไป

5. ความรักแบบมีเหตุผล (Pragma)

เป็นความรักที่ตั้งอยู่บนรากฐานของความเป็นจริง ผู้ที่มีความรักแบบนี้จะแสวงหาคู่ที่เหมาะสมกับตนมากที่สุด
เชื่อว่าความสัมพันธ์จะราบรื่นก็ต่อเมื่อคู่รักสามารถตอบสนอง ความต้องการพื้นฐานของกันและกัน ได้แสวงหาคนที่มีลักษณะคล้ายตนหรือต่างจากตน แต่ช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดการเลือกคู่จะมีลักษณะคล้ายรักเผื่อเลือก ทั้งนี้ก็เพราะคาดหวังสัมพันธภาพที่ยั่งยืน

6. ความรักแบบเสียสละ (Agape)

เป็นความรักที่ปราศจากความเห็นแก่ตัว ต้องการเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับมีความห่วงใย และคำนึงถึงความสุขของคู่รักเป็นสำคััญ โดยไม่ใส่ใจกับความต้องการของตนเอง "การให้" เป็นปัจจัยสำคัญของความรักแบบนี้ นักจิตวิทยาได้ทำการศึกษาพบว่า ในชีวิตจริงคู่สมรสจะมีรูปแบบความรักที่คล้ายคลึงกัน เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคู่ที่มีความสัมพันธ์ยาวนานกับคู่ที่เลิกราไป พบว่าประเภทแรกจะมีความรักแบบเสน่หาสูงกว่า และมีความรักแบบไม่ผูกมัดต่ำกว่าประเภทหลัง รูปแบบของความรักอาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และลักษณะของบุคคลที่เรามีความสัมพันธ์ด้วย






โมชิ:

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version