หวยซอง เลขเด็ด อภิโชควิเคราะห์เลขรวย หวยรัฐบาล : Apichoke.net

ปกิณณกะ => ธรรมะ => ข้อความที่เริ่มโดย: panyada ที่ 12 กันยายน 2009, 23:07:56น.

หัวข้อ: พระที่ถูกมองข้าม
เริ่มหัวข้อโดย: panyada ที่ 12 กันยายน 2009, 23:07:56น.
พระที่ถูกมองข้าม

มีชนบทแห่งหนึ่งในประเทศจีน ตั้งอยู่เชิงเขา เป็นภูมิประเทศที่สงบ อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร มีธารน้ำใสใหลผ่านหมู่บ้าน ต้นไม้ทุกต้นใบสดเขียวขจี ในทุ่งนาก็สะพรั่งด้วยต้นข้าวที่ชูรวงเป็นสีทอง ตัดกับท้องฟ้าสีคราม มองไปทางไหนก็ชื่นฉ่ำเจริญตา ชาวชนบทส่วนใหญ่มีอาชีพทำไร่ทำนา ผู้อยู่เรือนก็ปั่นฝ้าย ทอผ้า ต่างมีความสุข มีฐานะมั่งคั่ง เหนือขึ้นไปบนยอดเขา มีกุฏิพระภิกษุอยู่จำศีลภาวนา

เชิงเขามีกระท่อมน้อยหลังหนึ่ง เป็นที่อยู่ของสองแม่ลูก แม่นั้นแม้อายุจะย่างเข้าสู่วัยชรา แต่นางยังแข็งแรงพอที่จะรับจ้างเขาทำงานหาเลี้ยงลูกได้ บุตรของนางเป็นเด็กหนุ่ม ไม่เอาการเอางาน ดื้อด้าน ไม่เชื่อถ้อยฟังคำมารดา ไม่สนใจในความเหนื่อยยาก ของแม่ที่ตรากตรำทำงานหนัก เอาแต่เที่ยวเตร่ เล่นสนุก ถึงกระนั้นนางก็รักเขาเอาอกเอาใจมิให้อนาทร

วันหนึ่ง เขาแลเห็นเพื่อนกราบพระพุทธรูป ก็นึกในใจว่า การที่เพื่อนของเขามีฐานะดี คงเป็นเพราะหมั่นกราบไหว้พระ เย็นวันนั้นเขาจึงขึ้นไปบนเขา เข้าไปนมัสการขอพระพุทธรูปจากพระภิกษุที่พำนักอยู่บนยอดเขา เพื่อเอาไปไว้บูชาที่เรือน หวังจะได้มั่งคั่งเหมือนคนทั้งหลาย

พระภิกษุได้ฟังก็กล่าวว่า “ฟังก่อน เหม็ง เจ้าจะแก้จนด้วยการกราบไหว้พระนั้นไม่สำเร็จดอก ป่วยการเปล่า ในเมื่อที่เรือนของเจ้าก็มีพระอยู่แล้ว จงเคารพบูชาท่านเถิด เจ้าจะจำเริญ”

เหม็งได้ฟังก็ฉงน อุทานว่า “ที่บ้านของกระผมไม่เคยมีพระสักองค์ กระผมยากจนนักหนา จึงอยากได้ไปไว้บูชากับเขาบ้าง”

พระภิกษุยังคงยืนกรานว่า “กลับไปเถิดเหม็ง พระเฝ้ารออยู่ที่บ้านแล้ว กลับถึงบ้านคืนนี้ เมื่อเจ้าเคาะประตู ท่านจะออกมาเปิดรับเจ้าอย่างรีบร้อน ผลีผลามเสียจนใส่รองเท้ากลับข้าง เสื้อที่สวมก็กลับด้านนอกอยู่ข้างใน”

เหม็งได้ฟังดังนั้นก็สนเท่ห์ยิ่งนัก นมัสการลาพระภิกษุ รีบกลับ ฝ่าลมหนาวและละอองน้ำค้างมาตลอดทาง กว่าจะถึงบ้านก็เปียกโชกไปทั้งตัว ทันทีที่เขาเคาะประตูกระท่อม ผู้ที่เปิดประตูรับเขา ก็คือมารดาของเขานั่นเอง เหม็งสังเกตเห็นนางสวมรองเท้ากลับข้าง เสื้อที่ใส่ก็กลับ พอเห็นลูกชายนางก็เอ่ยขึ้นว่า “เหม็ง...ลูกหายไปไหนมา แม่เป็นห่วงกลัวลูกจะไปเป็นอันตราย แม่ตั้งตาคอยตั้งแต่หัวค่ำจนดึก อ้าว...นั่นลูกเปียกปอนไปหมดทั้งตัว ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสีย แล้วไปผิงไฟที่หน้าเตา เจ้าหิวไหม แม่จะไปเอาข้าวมาให้กิน”

กระแสเสียงที่หลั่งออกมานั้นนุ่มนวลนัก เปี่ยมด้วยความรักความห่วงใย ความเมตตาปรานีที่บริสุทธิ์ใจ เขาหวนระลึกถึงคำของพระภิกษุบนยอดเขา ก็ประจักษ์แจ่มแจ้งในบัดนั้นเองว่า มีพระอยู่ใกล้ตัวมาแต่อ้อนแต่ออก แต่เขาเองละเลยไม่เคยคิดเอาใจใส่ แม่เท่านั้นที่จะเสียสละให้ลูกได้ ทั้งชีวิตและเลือดเนื้อ มุ่งหวังแต่จะให้ลูกมีความสุขความเจริญ แม่เป็นผู้มีแต่ให้ไม่หวังสิ่งตอบแทน ตัวกูนี่สิ มีแต่จะรับเอาท่าเดียว

นับตั้งแต่นั้นมา เขาก็บำเพ็ญตนอยู่ในโอวาท เทิดทูน เคารพบูชามารดาของเขาเหนือสิ่งใดๆ ในโลก

(จากหนังสือ “ยอดกตัญญู รวบรวม-เรียบเรียงโดย ร. บุญนาค)
 
 
 
หัวข้อ: Re: พระที่ถูกมองข้าม
เริ่มหัวข้อโดย: 272293 ที่ 06 ธันวาคม 2010, 19:22:06น.
 Y$@ ขอบคุณครับ กับบทความดีๆๆ Y$@
หัวข้อ: Re: พระที่ถูกมองข้าม
เริ่มหัวข้อโดย: •❤·。.jღll.。·*゚✎・。 ที่ 20 สิงหาคม 2011, 15:47:29น.
|lI +  l@$ 3  T|g

         ความผูกพันของ "แม่" ที่มีต่อลูก ไม่มีวันจืดจาง แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด อย่างเช่นเรื่องราวคุณแม่ชาวจีนคนหนึ่ง ที่ปัจจุบันแม้ว่าคุณแม่ท่านนั้นจะมีอายุเกือบ 100 ปีแล้ว แต่ในยามที่ "ลูก" ไม่สบาย เธอก็ยังจะขอเฝ้าดูแลลูกคนนี้จวบจนชีวิตจะหาไม่

          โดยเว็บไซต์ไชน่า เดลี่ รายงานเรื่องราวอันน่าเศร้าของ นางสวี่ จางซื่อ คุณทวดวัย 97 ปี ที่เมืองป๋อโจว มณฑลอันฮุย ซึ่งต้องเฝ้าดูแลลูกชายคนเล็ก "สวี่ ฉวนอี้" วัย 39 ปี ซึ่งล้มป่วยด้วยอาการทางจิต จนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มานานเกือบ 20 ปีแล้ว ทุกวัน "สวี่ ฉวนอี้" ทำได้แค่เพียงนอนอยู่บนเตียง และคอยรับสิ่งที่ผู้เป็นแม่หยิบยื่นให้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร หรือการพยาบาลต่าง ๆ นั่นเพราะนับตั้งแต่ล้มป่วย "สวี่ ฉวนอี้" ก็ไม่สามารถพูดได้อีกต่อไป

          ภาระหนักอึ้งจึงตกอยู่กับยอดคุณแม่วัยเฉียดร้อยคนนี้ ที่ทุกวันคุณแม่จะต้องตื่นขึ้นมาดูแลลูกชาย ทั้งป้อนข้าวป้อนน้ำ เปลี่ยนเสื้อ อาบน้ำ เช็ดตัว แปรงฟัน ล้างกระโถน ตัดผม โกนหนวด รวมทั้งต้องซักเสื้อผ้าวันละหลายรอบ เพื่อให้ลูกชายได้ใส่เสื้อที่สะอาด แม้กระทั่งตอนกลางคืน คุณแม่ก็ต้องรอให้ลูกชายได้นอนหลับเสียก่อน ตัวเธอเองจึงจะข่มตาหลับลงได้

ภาพที่คุณแม่วัยชราต้องคอยดูแลลูกชายซึ่งช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เช่นนี้ สร้างความสงสารให้กับเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมาก จึงมีคนหยิบยื่นเงินทองช่วยเหลือคุณแม่คนนี้ ซึ่งตัวเธอเองก็จะขอบคุณผู้ใจบุญทั้งหลาย และอวยพรกลับเพื่อให้พระเจ้าคุ้มครองพวกเขา จนคนยกย่องให้เธอเป็น "คุณแม่ที่มีจิตใจงดงามที่สุด"

          อย่างไรก็ตาม คุณทวดวัย 97 ปีคนนี้ ยังมีลูกสาวอีก 5 คน และลูกชายอีก 1 คน ซึ่งไม่ได้อาศัยอยู่ด้วยกัน เนื่องจากลูก ๆ ต้องไปทำงานที่เมืองอื่น และย้ายไปอยู่กับครอบครัวของตัวเอง แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ลูกสาวคนหนึ่งของคุณทวดคนหนึ่งกลับมาเยี่ยมบ้าน และเห็นแม่เป็นลมอยู่ ขณะที่น้องชายทำได้แต่เพียงนอนอยู่บนเตียงและมองมาด้วยสายตาที่ว่างเปล่า เธอจึงรีบพาคุณแม่ไปให้หมอตรวจดูอาการทันที และคุณหมอก็อยากให้คุณแม่นอนดูอาการ เพราะเห็นว่าอายุมากแล้ว แต่คุณแม่กลับไม่ยอมนอนดูอาการ เพราะเป็นห่วงลูกชายคนเล็ก

          ทั้งนี้ คุณแม่บอกด้วยว่า เธอไม่เหนื่อยที่ต้องดูแลลูกชายที่ล้มป่วย เพราะหากไม่ดูแลลูกแล้ว ก็คงไม่มีใครสนใจดูแลเขา และเมื่อถามคุณแม่วัยชราว่า ความหวังสูงสุดในชีวิตคืออะไร คำตอบของเธอนั้น ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เธอกลับอยากเห็นลูกช่วยเหลือตัวเองได้ และหวังจะมีอายุยืนยาวเพื่อจะดูแลลูกชายไปจนวาระสุดท้าย  


 l@$(http://i.kapook.com/glitter/2011/th/08/T110811_03C.gif) (http://glitter.kapook.com/category.php?category_id=16&sid=b446cd87692d6891f54722c34d43ff3d) l@$
หัวข้อ: Re: พระที่ถูกมองข้าม
เริ่มหัวข้อโดย: pong_2011 ที่ 20 สิงหาคม 2011, 16:35:12น.
พ่อ แม่ คนเลี้ยงลูกเป็นสิบคนจนโตได้ แต่ลูกหลายๆคนเลี้ยงพ่อแม่คนเดียวไม่ได้ อนิจจาไม่น่าให้เกิดเลยจริงๆ ]E[ ]E[ ]E[
หัวข้อ: Re: พระที่ถูกมองข้าม
เริ่มหัวข้อโดย: sonic x ที่ 22 สิงหาคม 2011, 23:04:45น.
panyada
Public Relation
Sr. Member

พลังน้ำใจ: 7  


 T@$ T@$ T@$
หัวข้อ: Re: พระที่ถูกมองข้าม
เริ่มหัวข้อโดย: น้องแอนนี่ ที่ 09 ตุลาคม 2012, 15:19:46น.
+1 ให้ค่ะ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆน่ะค่ะ