"หวยซอง เลขเด็ด เขียนโดยสาธารณชน เป็นการเสนอแนะเพื่อเสี่ยงโชคซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกกฎหมายเท่านั้น ไม่มีการขายหวยทุกชนิด และ ไม่มีใครทราบว่าหวยจะออกตัวไหน โปรดใช้วิจารณญาณ"

เรื่อง: เกี่ยวกับสุขภาพ
 
 48044

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
26 สิงหาคม 2010, 22:00:09น.
แนวทางใหม่ในการรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อน
http://www.apichoke.net/index.php/topic,1068.0.html

 :)

ออกกำลังเสริมหน้าอก
http://www.apichoke.net/index.php/topic,1069.0.html

 :)
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>


สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #1 27 สิงหาคม 2010, 12:24:54น.
โรคที่พบในผู้สูงอายุ

โรคที่พบในผู้สูงอายุนั้น ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดมา ตั้งแต่ในวัยหนุ่มสาว แต่ไม่ได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เกิดอาการรุนแรงมากขึ้น เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ บางโรคเกิดเนื่องจาก ความเปลี่ยนแปลงของ การบริโภคอาหาร ภายหลังจากเกษียนอายุราชการ โรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ โภชนาการในอดีตหรือปัจจุบัน ได้แก่

โรคอ้วน

อ้วนนับเป็นโรคอย่างหนึ่ง ที่เกิดจากการสะสมของพลังงาน ที่ได้จากอาหารที่รับประทาน เกินความต้องการของร่างกาย และมีการเก็บสะสมไว้ ในรูปของไขมันในระยะนานเข้า ก็จะปรากฏให้เห็น ด้วยการมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น จากเดิมทีละน้อยๆ อายุที่เพิ่มขึ้น มีโอกาสมีน้ำหนักตัวเพิ่มอยู่แล้ว เพราะการใช้แรงงานน้อยลง การรับประทานอาหารยังคงเดิม ดังนั้น ถ้าไม่ควบคุมการรับประทานอาหาร โอกาสอ้วนย่อมมีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว โรคอ้วน เป็นปัจจัยเสี่ยงนำไปสู่การเป็นโรคอื่นๆ อีกหลายโรค เช่นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด โรคเกี่ยวกับข้อ ฯลฯ คนทั่วๆ ไปจะมีการเปลี่ยนแปลง น้ำหนักตัว และสังเกตเห็นว่า เริ่มอ้วนเมื่ออายุประมาณ 35-40 ปี ถ้าให้ความสนใจต่อสุขภาพ ระวังน้ำหนักตัวไม่ให้เกินมาตรฐาน ตั้งแต่ก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุ ปัญหาของโรคต่างๆ ที่จะเกิด ย่อมน้อยลงได้ หรือเมื่อมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานแล้ว ต้องพยายามควบคุมอาหาร จัดอาหารที่ให้คุณค่าอาหารสูง แต่พลังงานต่ำ เพื่อช่วยลดน้ำหนักลง ก็เป็นการช่วยลด ปัญหาสุขภาพได้อีกทางหนึ่ง


โรคโลหิตจาง

บางครั้งเราเรียกว่า โรคซีด โรคโลหิตจางเกิดได้ เนื่องจากการรับประทานอาหาร ที่ขาดธาตุเหล็กมาในระยะเวลานาน หรืออาจเกิดจากการสูญเสียเลือด ในปริมาณที่ไม่มากนัก จนไม่สามารถตรวจพบ แต่เกิดเรื้อรังมาเป็นเวลานาน เช่น เลือดออกในลำไส้ หรือกระเพาะอาหาร เป็นต้น โรคนี้ทำให้ผู้สูงอายุซีด ร่างกายอ่อนเพลีย ความต้านทานโรคน้อยลง ทำให้เจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น การจัดอาหารที่มีเหล็กสูง เช่น เนื้อสัตว์ต่างๆ ให้รับประทานเป็นประจำ เพื่อให้ได้รับเหล็กที่เพียงพอ


โรคหัวใจและหลอดเลือด

สถิติของการเกิดโรคนี้มากที่สุด ในช่วงอายุ 45 ปี ความรุนแรงจะมากขึ้น ถ้าไม่ได้รับการรักษา และดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในการรับประทานอาหารให้ถูกต้อง เพราะสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรค คือ การรับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูง เกินความต้องการของร่างกาย และการเลือกรับประทานที่ไม่เหมาะสม เช่น อาหารที่มีไขมันสูง โคเลสเตอรอลสูง รวมถึงการสูบบุหรี่ และการขาดการออกกำลังกาย การป้องกันโรคนี้ ควรเริ่มเมื่อก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น หมูสามชั้น หนังเป็ด หนังไก่ เครื่องในสัตว์ กะทิ เป็นต้น งดการสูบบุหรี่ และมีการออกกำลังกายเป็นประจำ


โรคเบาหวาน

ผู้ใหญ่ที่เป็นโรคนี้ เป็นผู้ที่มีน้ำหนักตัว มากกว่ามาตรฐาน ในช่วงอายุเกิน 50 ปี ผู้สูงอายุที่ชอบรับประทานน้ำตาลมากๆ พบว่า ระดับน้ำตาลในเลือดจะสูงขึ้น มากกว่าคนหนุ่ม-สาว และลดระดับคืนสู่ปกติได้ช้า โรคเบาหวานพบในผู้สูงอายุ ที่มีการเกิดโรคนี้ในครอบครัว การรับประทานอาหารมากและอ้วน การเป็นโรคนี้จะนำไปสู่ การเป็นโรคหลอดเลือดแข็ง และอุดตันได้ง่าย และเป็นสาเหตุการตายของผู้สูงอายุ เป็นโรคเบาหวานด้วย ดังนั้น การควบคุมน้ำหนักตัว ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่ให้อ้วน เป็นทางหนึ่งที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคได้


โรคเกี่ยวกับกระดูกและข้อ

ผู้สูงอายุ มีการเสียสมดุลของฮอร์โมน ทำให้การเผาผลาญอาหารในร่างกายผิดปกติ การดูดซึมสารอาหาร และแร่ธาตุโดยเฉพาะ แคลเซียมเปลี่ยนแปลง นำไปสู่การเกิดโรคกระดูกพรุน ซึ่งเป็นปัญหาหนึ่งที่พบมากในผู้สูงอายุ ที่ทำให้กระดูกเปราะและหักได้ง่าย เกิดมากในผู้หญิงอายุเกิน 50 ปี และผู้ชายอายุเกิน 60 ปี การอักเสบต่างๆ ของข้อ เกิดจากการมีน้ำหนักตัวมากเกินไป ทำให้เป็นอุปสรรคในการเคลื่อนไหว และการช่วยตัวเอง ของผู้สูงอายุ การจัดอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นม เนื้อสัตว์ต่างๆ ถั่วเมล็ดแห้งและผลไม้ ให้ผู้สูงอายุรับประทานเป็นประจำ เพื่อช่วยบำรุงความแข็งแรงให้แก่กระดูก


จากตัวอย่างของโรค ที่พบในผู้สูงอายุที่กล่าวมา คงทำให้เห็นความสำคัญของโภชนาการ ที่มีผลกระทบต่อผู้สูงอายุ การให้การดูแลในเรื่องอาหารการกิน เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับสารอาหาร ในปริมาณที่มากพอต่อความต้องการของร่างกาย นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรง ยังช่วยชะลอการเกิดโรค หรือบรรเทาความรุนแรงของโรคได้
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #2 27 สิงหาคม 2010, 12:40:52น.
 อัมพาตในผู้สูงอายุ

ถาม :    คำจำกัดความของคำว่า " โรคอัมพาต"  
ตอบ :    คำว่าอัมพาต ในภาษาชาวบ้าน ก็หมายถึง โรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งทำให้ผู้ป่วยมีอาการผิดปกติ ในระบบประสาทอย่างฉับพลัน โดยความหมายทั่วไป ก็จะหมายถึง แขนขาซีกใดซีกหนึ่งอ่อนแรงไปหรือเดินไม่ได้
 
ถาม :    อัมพาต และอัมพฤกษ์ เป็นโรคชนิดเดี่ยวกันหรือไม่ 
ตอบ :    อัมพาตมักจะเป็นมาก และอัมพฤกษ์จะเป็นน้อยกว่า ในภาษาแพทย์ โรคหลอดเลือดสมองจะมีหลายแบบ ซึ่งพูดง่ายๆ ก็คือ หลอดเลือดสมองอาจตีบ หรืออุดตัน หรืออาจจะแตก ซึ่งแต่ละชนิด จะทำให้เกิดอาการทางระบบประสาทได้ ซึ่งบางทีอาการอาจคล้ายๆ กัน
 
ถาม :    อัมพาต มีกี่ลักษณะ 
ตอบ :    ก็จะเกิดขึ้นจากหลอดเลือดสมองที่ตีบ อุดตัน และแตก
 
ถาม :    ลักษณะอาการที่ผิดปกติของผู้ป่วยเป็นอมพาตที่มีหลอดเลือดในสมองตีบ จะมีลักษณะอาการผิดปกติอย่างไร 
ตอบ :    ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีลักษณะแขนขาอ่อนแรงซีกใดซีกหนึ่ง และจะทำให้เดินไม่ได้ รู้สึกชา บางรายจะเดินเซ บางรายจะมีอาการปวดหัว อาเจียน หรือพูดจาสับสน โดยสรุป ก็คือ ลักษณะที่จะบ่งชี้ว่าจะเป็นอัมพาต ก็คือ อาการจะเกิดขึ้นแบบทันทีทันใด ไม่ใช่ค่อยเป็นค่อยไป ใช้เวลานานเป็นชั่วโมง ไม่ใช่เป็นวันเป็นเดือน
 
ถาม :    นอกจากนี้จะมีโรคอื่นๆ นำมาก่อนหรือไม่ 
ตอบ :    ก็มีโรคหลายโรค ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงของอัมพาต ยกตัวอย่างเช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หรือการสูบบุหรี่ อ้วนเกินไป การใช้ชีวิตที่ไม่ได้ออกกำลังกายเลย นั่งทำงานหรือนั่งโต๊ะอย่างเดียว

ถาม :    ในปัจจุบันมีผู้ป่วยมากน้อยเพียงใด และจะเกิดขึ้นเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุเท่านั้นหรือไม่ 
ตอบ :    จริงๆ โรคนี้เป็นได้ตั้งแต่วัยกลางคน ถ้ามองดูในคนอายุน้อย ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง เช่น เกิดจากโรคหัวใจบางชนิด ที่มีเส้นเลือดหลุดไปอุดหลอดเลือดสมอง ก็เลยทำให้เกิดอัมพาต แต่พบส่วนน้อย ส่วนใหญ่ถ้ามองในแง่ของปัจจัยเสี่ยง ที่ได้พูดไปข้างต้น จะเป็นโรคของคนวัยกลางคน และมักจะเป็นในผู้ชายได้เร็วกว่าในผู้หญิง ในผู้หญิงจะพบในผู้ที่มีอายุมากกว่าผู้ชาย
 
ถาม :    ความแตกต่างของโรคที่เป็นเร็ว เป็นช้าของผู้หญิงหรือผู้ชายเกิดขึ้นจากอะไร  
ตอบ :    เข้าใจว่าจะเกิดจากอิทธิพลของ ฮอร์โมนที่เกี่ยวกับเพศ เช่น ฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตนเจน ที่มีผลต่อเรื่องไขมันในเลือด หรือโรคหลอดเลือดต่างๆ 

ถาม :    ความก้าวหน้าของวิธีการรักษาในปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง 
ตอบ :    การรักษาของโรคเส้นเลือดสมองตีบ การรักษาในปัจจุบันก็คือ มีหลัก ต้องรับมารักษาให้เร็วที่สุด ดังนั้น เมื่อไหร่เริ่มมีอาการชวนให้สงสัยว่า จะเป็นอัมพฤกษ์, อัมพาต จะต้องรับมาโรงพยาบาล ถ้ามาได้เร็วได้เวลาเป็นชั่วโมงยิ่งดี ก็อาจจะมียาบางอย่างจะช่วยได้ ยกตัวอย่าง คือ ยาที่ละลายลิ่มเลือด การให้ยาแอสโพริน เพื่อป้องกันไม่ให้หลอดเลือดตีบมากขึ้น แล้วทำให้เกิดอาการมากขึ้น อันนี้มีการศึกษาชัดเจนว่า ยิ่งให้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี แต่ถ้าเป็นหลอดเลือดอุดตัน บางครั้งก็จะต้องให้ยาละลายลิ่มเลือด เพื่อป้องกันไม่ให้มันเป็นซ้ำอีก แต่ถ้าหลอดเลือดแตก ก็จะเป็นการรักษาแบบประคับประคอง ดูอาการกันไป และต้องระวังไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมา
 
ถาม :    นอกจากนี้จะมีการรักษาวิธีอื่นๆ ร่วมด้วยอีกหรือไม่ กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง 
ตอบ :    คือหลังจากที่อาการของผู้ป่วยคงที่ไม่เป็นมากขึ้น เราก็เริ่มพิจารณาถึงการรักษา เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน เช่น การพลิกตัว การป้องกันโรค ปอดบวม โรคติดเชื้ออื่นๆ หรือการดูแลเรื่องดุลน้ำ ดุลเกลือแร่ในร่างกาย และหลังจากนั้น ก็จะพิจารณาเรื่อง การทำกายภาพบำบัด เพื่อการฟื้นฟูในคนไข้สภาพกลับมาดีขึ้น
 
ถาม :    ขั้นตอนในการรักษาต้องใช้เวลามากน้อยแค่ไหน  
ตอบ :    แล้วแต่สถานการณ์ ก็คือ ถ้าเป็นบ่อยก็จะดีขึ้นเร็ว อาจจะไม่จำเป็นต้องทำกายภาพบำบัดยาวนานมากนัก แต่ถ้าบางรายที่เป็นมาก ก็อาจจะจำเป็นต้องทำสักระยะหนึ่ง บางทีอาจจะเป็นเดือน ถ้าพูดถึงการรักษาระยาว ถ้าเมื่อไหร่ที่เป็นอัมพาตแล้ว เรามักจะรักษาไปตลอดชีวิต เพราะว่ามันมี ความเสี่ยงที่จะกลับมาเป็นอีกได้ ถ้าเคยเป็นมาหนหนึ่งแล้ว ก็อาจจะเป็นอีกได้ เพราะฉะนั้น ถ้าเคยเป็นมาครั้งหนึ่งแล้ว ก็จะต้องรักษาต่อเนื่องไปตลอดชีวิต
 
ถาม :    ก็หมายความว่า เราไม่สามารถจะไปรักษาอัมพาตให้หายขาดได้ใช่หรือไม่ 
ตอบ :    ถ้าเส้นเลือดที่มันตีบไปแล้ว เราจะต้องรักษาเพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่พูดไปข้างต้น ว่าป้องกันไม่ให้มันตีบมากขึ้น หรือว่าเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตซ้ำอีก
 
ถาม :    โรคแทรกซ้อนอะไรบ้างที่มักพบว่าจะเกิดร่วมกับการเป็นอัมพาต  
ตอบ :    ในขณะที่เป็นอัมพฤกษ์ , อัมพาต โรคแทรกซ้อนที่เจอบ่อยๆ ก็คือ โรคติดเชื้อ คนไข้ที่นอนนานๆ ก็อาจจะมีโอกาสเป็นปอดบวม ปอดอักเสบ หรือติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ในขณะเดียวกันการที่นอนนานๆ ไม่ได้พลิกตัวอย่างถูกต้อง ก็จะมีโอกาสเกิดแผลกดทับ และมีการติดเชื้อตามมา
 
ถาม :    วิธีการดูแลผู้ป่วยที่เป็นอัมพาต ผู้ใกล้ชิดจะมีวิธีการดูแลอย่างไรบ้าง  
ตอบ :    ถ้าคนไข้ช่วยตัวเองได้น้อย ไม่สามารถจะลุกขึ้นมานั่งได้เอง เราก็คงจะต้องช่วยเหลือพอสมควร การช่วยเหลือก็ทำได้ตั้งแต่ การพลิกตัวทุกๆ 2 ชั่วโมง ฝึกทำกายภาพบำบัดสำหรับญาติ ก็คือ ญาติจะต้องมาเรียนรู้ วิธีการทำกายภาพบำบัด จากนักกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาล เพื่อนำกลับไปทำต่อที่บ้านได้ และจะต้องพยายามให้คนไข้ช่วยตนเอง ให้มากเท่าที่จะทำได้ สมมุติว่า พอจะกินข้าวเองได้ ใช้มือข้างที่ยังดีอยู่ช่วยตัวเองได้ ก็พยายามให้ทำ เพื่อให้คนไข้มีความมั่นใจตัวเองมากขึ้นด้วยว่า ผู้ป่วยยังมีความสามารถอยู่ ไม่ใช่หมดความสามารถแล้ว และเราก็เจอบ่อยว่าคนไข้ที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต จะมีโรคซึมเศร้าตามมาได้มาก เพราะฉะนั้นถ้าไม่ได้ช่วยตนเองได้ ญาติไม่ได้ดูแลใกล้ชิด ก็จะยังมีปัญหานี้ตามมา แทนที่จะฟื้นตัวได้ทั้งๆ ที่แข็งแรงขึ้นแล้ว แต่ทางใจไม่แข็งแรง ก็จะแย่ลง
 
ถาม :    ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องจะสามารถปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ได้เหมือนเดิมหรือไม่  
ตอบ :    เรื่องของอัมพาต อัมพฤกษ์ นั้นมีหลายระดับ คนที่เป็นน้อย ก็สามารถที่จะกลับมาเดินเป็นได้เหมือนเดิม ส่วนคนที่เป็นมาก อาจจะใช้มือข้างหนึ่งไม่ถนัด อย่างน้อยเป้าหมายของเราฝึกให้เขา ใช้มืออีกข้างหนึ่งมาทดแทนได้ สมมุติว่าเป็นมือขวา อาจจะใช้มือซ้ายตักข้าวเข้าปาก ล้างหน้า แปรงฟันหรือทำกิจกรรมใดๆ ของตัวเองได้ นั่นคือ เป้าหมายที่ต้องการ เราไม่สามารถทำให้แขนขาที่อ่อนแรงไปแล้ว กลับมาดีได้เหมือนเดิม 100% แต่อย่างน้อย เราก็จะพยายามให้ผู้ป่วยช่วยตนเอง ก็คือใช้สิ่งที่มีอยู่มาชดเชย
 
ถาม :    อันตรายของโรคอัมพาตมีมากน้อยเพียงใด 
ตอบ :    ถ้าโรคอัมพาต หรือโรคหลอดเลือดสมองนั้น เกิดจากหลอดเลือดสมองแตก โอกาสที่ผู้ป่วยจะเสียชีวิตในช่วง 1 เดือนแรกจะมีสูง อาจจะถึง 40% ซึ่งเยอะมาก แต่ถ้าเป็นประเภทของ หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน โอกาสที่จะเสียชีวิตก็จะน้อยลง แต่ความพิการก็จะมากขึ้น
 
ถาม :    จะป้องกันการเกิดอัมพาตได้อย่างไร 
ตอบ :    สำหรับเรื่องของอัมพฤกษ์ อัมพาต การป้องกันคือเป็นหัวใจของเรื่อง เพราะว่าถ้าเป็นแล้ว ก็จะเกิดความพิการหรือเสียชีวิต เพราะฉะนั้น การป้องกัน สามารถทำได้ง่ายๆ ก็คือ ต้องเริ่มต้นตั้งแต่วัยที่ยังไม่สูงอายุ การดูแลป้องกันตัวเองไม่ให้เป็น ก็คือ ต้องค้นหาปัจจัยเสี่ยงว่า ตนเองมีปัจจัยเสี่ยงที่จะเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือไม่ ปัจจัยเสี่ยงที่ว่าจะค้นได้อย่างไร บางครั้งไม่มีอาการ ก็ต้องไปตรวจสุขภาพประจำปี เช่น วัดความดัน เจาะเลือด เช็คดูเบาหวาน ไขมันในเลือด ถ้าใครที่สูบบุหรี่ต้องงดบุหรี่ ถ้าเจอว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดก็ต้องรีบรักษา ควบคุมให้ดี ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ ถ้าใครรู้ตัวว่าอ้วนจะต้องลดความอ้วน ใครที่ไม่ออกกำลังกาย ก็ต้องออกกำลังกาย ก็จะช่วยได้มาก 

ถาม :    ข้อแนะนำในตอนท้าย
ตอบ :    ขอให้ทุกท่านสนใจตัวเอง ตั้งแต่วัยที่ยังไม่ถึงวัยผู้สูงอายุ และมองหาว่าอะไรเป็นปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ของโรคอัมพฤกษ์, อัมพาต ดังที่กล่าวไปข้างต้น ดังนั้นการตรวจสุขภาพประจำปีก็มีความสำคัญ แม้กระทั่งการไปพบแพทย์ด้วยอาการเจ็บป่วยอื่นๆ เช่น ไข้หวัด ถ้าจะให้หมอวัดความดันให้ก็จะเป็นการดี ถ้าบังเอิญพบว่าเป็นความดันโลหิตสูง ก็รีบรักษาก็จะช่วยป้องกันการเกิดอัมพฤกษ์, อัมพาตได้  

ผศ. นพ. รุ่งนิรันดร์ ประดิษฐสุวรรณ
   
แหล่งข้อมูล : www.si.mahidol.ac.th - คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #3 27 สิงหาคม 2010, 14:16:31น.
สวัสดีครับ เพื่อนสมาชิกสามารถนำข้อมูลมาลงร่วมกันได้นะครับ
ให้ sonic ได้มีส่วนร่วมในการอ่านข้อมูลของเพื่อนสมาชิกบ้าง
จะได้เสริมความรู้และนำไปใช้ประโยชน์ในวันข้างหน้าได้
ขอบคุณมากครับ

 T|g T|g T|g h*[ h*[ h*[
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #4 27 สิงหาคม 2010, 14:40:16น.

<a href="http://www.youtube.com/v/dAlcUP_OnHc?fs=1&amp;=1&amp;autoplay" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/dAlcUP_OnHc?fs=1&amp;=1&amp;autoplay</a>
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

หวยซอง เลขเด็ด อภิโชควิเคราะห์เลขรวย หวยรัฐบาล : Apichoke.net

Re: เกี่ยวกับสุขภาพ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 27 สิงหาคม 2010, 14:40:16น. »

  • พลังน้ำใจ: 6372
ตอบกลับ #5 27 สิงหาคม 2010, 18:02:56น.
 :)  ความรู้เพียบเลย  เก่งจังท่านผู้ดูแลบอร์ด   ]E[ s#y s#y


ชีวิตนี้ไม่มีอะไร.แค่มีเธอทุกวัน...ฉันก็พอใจ..

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #6 27 สิงหาคม 2010, 18:13:41น.
:)  ความรู้เพียบเลย  เก่งจังท่านผู้ดูแลบอร์ด   ]E[ s#y s#y

:-[ :-[ ทำเอาเขินเลยนะครับ PR.ตาคม
ขอบคุณมากครับ

<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

  • พลังน้ำใจ: 15627
ตอบกลับ #7 28 สิงหาคม 2010, 08:56:54น.
:)  ความรู้เพียบเลย  เก่งจังท่านผู้ดูแลบอร์ด   ]E[ s#y s#y

ถูกต้องค่ะ  คุณตาคม  ท่านผู้ดูแลบอร์ดของดอทเน็ทเก่งจริง ๆ ค่ะ


ทำดีต้องได้ดีซินะ 

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #8 28 สิงหาคม 2010, 11:11:21น.
สวัสดีวันหยุดครับ
สดใสรับวันใหม่
ขอให้ทุกท่านที่เข้ามาอ่าน เจอสิ่งดีๆ ตลอดวัน
และที่สำคัญ เป็นกำลังใจให้เสมอครับ


<a href="http://img441.imageshack.us/img441/6434/rud20248202.swf" target="_blank" class="new_win">http://img441.imageshack.us/img441/6434/rud20248202.swf</a>
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

  • พลังน้ำใจ: 3062
ตอบกลับ #9 28 สิงหาคม 2010, 11:49:04น.
 J@: J@: J@:

h*[ 625 * สวัสดีครับ คุณ fikky
จิ๊บ จิ๊บ เสียงนกร้องครับ แหะๆ ขอบคุณมากที่เข้ามาเยี่ยมและเม้นให้
รักษาสุขภาพด้วยนะครับ


[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 กันยายน 2010, 12:16:24น. โดย sonic x

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #10 02 กันยายน 2010, 06:00:19น.
สวัสดีครับ ทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม

<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

  • พลังน้ำใจ: 15627
ตอบกลับ #11 02 กันยายน 2010, 08:23:19น.



h*[ 807 * สบายดีครับ ขอบคุณครับ
รักษาสุขภาพด้วยนะครับ

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 กันยายน 2010, 12:15:06น. โดย sonic x
ทำดีต้องได้ดีซินะ 

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #12 02 กันยายน 2010, 20:19:30น.
::) บรรเทาอาการปวดหัวด้วยตัวคุณ

อาการปวดหัวเป็นเรื่องปกติคู่วิถีชีวิตคนเมืองอย่างเราๆ บนโต๊ะทำงานนอกจากจะเห็นเครื่องเขียนจำเป็นแล้ว แผงยาแก้ปวดหัว ก็ดูจะคุ้นตาอยู่บ่อยๆ ทำไมถึงปวดหัวหรือครับ ?

สาเหตุนั้นมีเยอะมาก แล้วแต่องค์ประกอบของแต่ละคน เช่น มีโรคประจำตัวบางอย่าง ความดันโลหิตสูง เป็นไมเกรน คนกลุ่มนี้เขาจะรู้ตัว เมื่อมันเริ่มปวดตึบๆ ขึ้นมา ส่วนใหญ่ถ้ากินยาดักไว้ก่อนอาการก็จะทุเลาไม่ถึงขั้นรุนแรง

แต่สำหรับคนที่ปวดหัวทั่วไป อาจมีได้หลายสาเหตุ เช่น อากาศร้อนเกินไป นอนไม่พอ เครียด หิวข้าว คนที่ชอบเคี้ยวหมากฝรั่งนานๆ แพ้กลิ่นน้ำหมอฉุนๆ คนสูบบุหรี่จัดส่วนใหญ่ก็จะปวดหัวบ่อยๆ นอนผิดท่าก็ทำให้ปวดหัวได้เหมือนกัน อย่างนอนคว่ำหน้าก็อาจทำให้กล้ามเนื้อที่คอหดตัวและเป็นสาเหตุให้ปวดหัวได้ ท่านอนหงายจะดีกว่าสำหรับคนที่ปวดหัวบ่อยๆ และปวดหัวไม่ทราบสาเหตุอีกมากที่ทำให้คนเราปวดหัว ก่อนที่จะพึ่งโอสถก็ลองแก้ที่ต้นเหตุปัญหา และพึ่งตนเองดูก่อนกันดีกว่าไหม...

นอนหลับสักงีบอาจช่วยให้อาการปวดหัวดีขึ้น แต่ก็เหมือนดาบสองคม บางคนปวดหัวแล้วนอนสักตื่นจะอาการดีขึ้น แต่บางคนนอนมากไปจะยิ่งปวดหัวหนักขึ้น ต้องลองดูนะครับ

ไม่ว่าจะยืนหรือนั่ง ต้องให้หลังและคอตั้งตรงไว้เสมอ พยายามหลีกเลี่ยงการเอียงศีรษะไปด้านใดด้านหนึ่งอยู่เสมอๆ
ประคบร้อนหรือเย็น ที่บริเวณหน้าผากและต้นคอก็ช่วยได้ ส่วนจะเลือกร้อนหรือเย็นอันนี้ต้องตามความเหมาะสมของแต่ละคน ขอแนะนำว่าความร้อนห้ามใช้กับคนปวดหัวไมเกรน หรือคนที่ปวดหัว หายใจเข้าลึกๆ แล้วผ่อนออกช้าๆ เหมือนเวลาคลายเครียด หรือดับความโกรธ นวดและกดเพื่อบรรเทาอาการปวดหัว บริเวณต้นคอ ไหล่ และหลัง
ประคบดวงตาด้วยผ้าชุบน้ำเย็น เพราะอาจเกิดจากตาเพลียที่ต้องสู้กับแสงจ้าเป็นเวลาต่อเนื่องนานๆ เช่น อยู่ท่ามกลางแดด  สู้แสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันจนตาล้า การใส่แว่นกันแดด หรือติดแผ่นกรองแสงหน้าจอก็ช่วยได้มาก

 
ดื่มกาแฟดำสักแก้ว อาจช่วยได้ แต่อย่าดื่มมากไปเพราะอาจทำให้ใจสั่นและนอนไม่หลับ

รับประทานอาหารให้ครบทุกมื้อ เพราะการอดอาหารอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง เส้นเลือดในสมองหดตัว เมื่อทานอาหารมื้อต่อไปจะทำให้เส้นเลือดขยายเกิดอาการปวดหัวได้

งดอาหารบางชนิด ได้แก่ อาหารที่มีรสเค็มที่ใส่เกลือมากๆ อาหารที่ใส่ผงชูรส ช็อกโกแล็ต เนยแข็ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์  อยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้ดี และมลพิษน้อยที่สุด
 
ลองดูนะครับว่าคุณจะเลือกใช้วิธีไหนเพื่อบรรเทาอาการปวดหัว บำบัดด้วยวิธีธรรมชาติเลี่ยงตัวต้นเหตุเป็นปฐมก่อนเป็นดี แต่ถ้าไม่ดีขึ้นและมีอาการมากขึ้นเรื่อยๆ หรือเป็นบ่อยขึ้น แบบนี้จำเป็นต้องไปพบคุณหมอสักหน่อยให้ช่วยวินิจฉัยล่ะครับ

ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Health Today
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #13 02 กันยายน 2010, 20:29:02น.
::) เด็กอ้วน-ภูมิแพ้ ระวัง!!
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับทำให้สมาธิสั้น หัวใจไม่โต และอาจเสียชีวิตกะทันหัน

 
         ภาวะนี้พบได้ในเด็กทุกอายุ แต่พบมากในเด็กช่วงอายุ 2-6 ปี ถ้าไม่รักษาจะทำให้เด็กหยุดหายใจเป็นช่วงๆ เกิดการขาดออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์คั่งในเลือด ซึ่งอาจทำให้สติปัญญาถดถอย สมาธิสั้น การเรียนตกต่ำ เลี้ยงไม่โต หัวใจโต หรือ เสียชีวิตอย่างกะทันหันได้

สาเหตุ
         ส่วนใหญ่มักเกิดจาก ต่อมทอนซิลที่อยู่ข้างโคนลิ้นและต่อมอดีนอยด์ที่บริเวณหลังจมูกมีขนาดโตขึ้นและขวางทางเดินหายใจส่วนบน ขณะหลับกล้ามเนื้อในช่องคอส่วนต้นจะคลายตัว ทำให้ทางเดินหายใจตีบแคบ โรคอื่นๆ ที่ภาวะนี้พบได้บ่อย เช่น เด็กที่เป็นโรคภูมิแพ้ เด็กอ้วน โรคอ้วนจะมีไขมันสะสมบริเวณช่องคอเพิ่มขึ้น นอกนั้นยังพบในเด็กที่มีลักษณะโครงหน้า คาง ลิ้นและคอผิดปกติ ทำให้ลักษณะทางเดินหายใจส่วนบนแคบกว่าปกติ
 
อาการ
         เด็กมักจะนอนกรนร่วมกับมีอาการหายใจลำบากขณะนอนหลับ หน้าอกบุ๋ม อ้าปากหายใจ ปากซีดเขียว เสียงกรนหายใจสะดุดขาดหายเป็นช่วงๆ นอนดิ้นพลิกตัวบ่อย หรือนอนในท่าแปลกๆ พ่อแม่บางรายกลัวลูกจะหยุดหายใจ ถึงกับต้องนั่งเฝ้าคอยขยับตัวลูกหรือเขย่าปลุกลูกให้ตื่น ในตอนกลางวันเด็กอาจซุกซน ไม่อยู่นิ่ง มีสมาธิสั้นหรือผล็อยหลับบ่อยๆ
 
 การวินิจฉัย
         โดยการซักประวัติ ตรวจร่างกาย เอกซเรย์ทางเดินหายใจ และอาจต้องส่งตรวจพิเศษขณะนอนหลับ เช่น การตรวจระดับออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ขณะหลับ (overnight oxymetry and capnogarphy) หรือตรวจการนอนหลับแบบมาตรฐาน (polysomnography) ทั้งสองวิธีเป็นการตรวจด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ขณะที่เด็กหลับและไม่ทำให้เด็กเจ็บปวด การตรวจจำเป็นต้องให้เด็กค้างคืนในห้องพิเศษเดี่ยวโรงพยาบาล
 
การเตรียมตัวก่อนมาตรวจพิเศษ
         ควรนัดวันตรวจกับแพทย์ หยุดยาพ่นจมูกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ งดยาภูมิแพ้ ยาลดน้ำมูก ยาแก้คัดจมูก 3 วันก่อนการตรวจ
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #14 03 กันยายน 2010, 05:56:37น.
สวัสดีตอนเช้าครับ ทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม

 h*[


<a href="http://img19.imageshack.us/img19/2372/1437e116499d55f46a05c5.swf" target="_blank" class="new_win">http://img19.imageshack.us/img19/2372/1437e116499d55f46a05c5.swf</a>
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

  • พลังน้ำใจ: 1036
ตอบกลับ #15 04 กันยายน 2010, 06:13:18น.
ขอบคุณมากค่ะ +1  k#| 4480


h*[ 21 * สวัสดีครับ คุณ rainy
ด้วยความยินดีครับ เที่ยงแล้วไปหาอะไรทานกันดีกว่ามั้ย
ขอบคุณครับ  รักษาสุขภาพด้วยนะครับ
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 กันยายน 2010, 12:14:35น. โดย sonic x

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #16 04 กันยายน 2010, 09:40:22น.
สวัสดีเช้าวันเสาร์ครับ
 h*[

<a href="http://img3.imageshack.us/img3/8888/rud202020827.swf" target="_blank" class="new_win">http://img3.imageshack.us/img3/8888/rud202020827.swf</a>
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

  • พลังน้ำใจ: 6372
ตอบกลับ #17 04 กันยายน 2010, 22:35:18น.
h*[ h*[

 h*[เหนื่อยกับงานกับชีวิตที่แสนจะวุ่นวายมาทั้งวันแล้ว  
หลับตาเพื่อพักผ่อน เก็บแรงไว้สู้ต่อไป...คืนนี้นอนหลับฝันดีนะคะ   h*[


h*[ 1299 * สวัสดีครับ พีอาร์.'บายดีป่าว
ตื่นหรือยัง เที่ยงแล้วหิวแล้ว ไปทานข้าวกันเถอะ พี่เลี้ยงข้าว น้องเลี้ยงน้ำเปล่า เอามะ
ทานให้หายเหนื่อย ทานให้กับชีวิตที่แสนจะวุ่นวายให้มันดีขึ้น
ทานเสร็จก็หลับตาพักผ่อนสักงีบ จะได้มีแรงต่อสู้กับหัวใจที่อ่อนล้าต่อไป
ขอบคุณครับ  รักษาสุขภาพด้วยนะครับ

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 กันยายน 2010, 12:13:02น. โดย sonic x


ชีวิตนี้ไม่มีอะไร.แค่มีเธอทุกวัน...ฉันก็พอใจ..

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 18068
ตอบกลับ #18 05 กันยายน 2010, 19:20:36น.



สวัสดีค่ะพี่โซนิค h*[ p]|
h*[ ขอบคุณสำหรับวันดีๆที่มีให้กันตลอดมา +1 h*[  p]| T|g

h*[ 2279 * สวัสดีครับผู้ช่วยฯ
ของพี่ขอเป็น ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาที่ดีๆ ที่มีให้กันดีกว่า เนอะๆ แหะๆ
ขอบคุณครับ  รักษาสุขภาพด้วยนะครับ
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 กันยายน 2010, 12:10:05น. โดย sonic x

  • พลังน้ำใจ: 15627
ตอบกลับ #19 07 กันยายน 2010, 11:03:47น.


h*[ 807 * ขอบคุณครับ
ไม่ว่าวันนี้ หรือวันไหน พี่ชายคนนี้ก็มีความรู้สึกที่ดีๆ ให้กับน้องสาวคนนี้เสมอ
รักษาสุขภาพด้วยนะครับ
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 กันยายน 2010, 12:08:24น. โดย sonic x
ทำดีต้องได้ดีซินะ 

  • พลังน้ำใจ: 1321
ตอบกลับ #20 08 กันยายน 2010, 13:19:39น.
k(* ขอบคุณมากค่ะ สำหรับข้อมูลดีๆ และน่าสนใจ  h*[

  • พลังน้ำใจ: 15627
ตอบกลับ #21 08 กันยายน 2010, 16:18:22น.

ทำดีต้องได้ดีซินะ 

  • พลังน้ำใจ: 6372
ตอบกลับ #22 11 กันยายน 2010, 11:32:48น.
p]| p]|


ชีวิตนี้ไม่มีอะไร.แค่มีเธอทุกวัน...ฉันก็พอใจ..

  • พลังน้ำใจ: 15627
ตอบกลับ #23 13 กันยายน 2010, 10:52:36น.

ทำดีต้องได้ดีซินะ 

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #24 15 กันยายน 2010, 10:20:09น.
สวัสดีครับ วันนี้เรามาสังเกตมะเร็ง 14 ชนิดกันดีกว่า

การสังเกตอาการเบื้องต้นของมะเร็งชนิด ต่างๆ

อาการของ การเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย


1. มะเร็งปากมดลูก
อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติของคุณอาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศ สัมพันธ์ หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การตรวจโดยขูด เนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะรู้ได้

2. มะเร็งในมดลูก
อาการ  มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่องท้อง

3. มะเร็งรังไข่
อาการ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์ มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการปวดหลัง

4. มะเร็งในเม็ดเลือด (ลูคีเมีย)
อาการ เหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติมักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุและมักจะเกิดร่วมกับอาการปวดตามข้อต่าง ๆ ทั่วร่างกายบางครั้งจะท้องอืดและเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของ ช่องท้อง

5. มะเร็งปอด
อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆ มีเลือดออก และมีเสมหะปนมากับน้ำลาย น้ำหนักลดอย่างเร็ว  เจ็บหน้าอกและหายใจลำบาก หรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
 
6. มะเร็งตับ
อาการ  ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัดจนเห็นได้ชัด

7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
อาการ มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ

8. มะเร็งสมอง
อาการ   ปวดศีรษะนาน ๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่นอาเจียน หรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า และเห็นแสงเขียว ๆ แดง ๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือ การเป็นลมโดยกะทันหันอวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงาน เช่นมีอาการชา และเป็นอัมพาตชั่วคราว ควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มีอาการเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย

9. มะเร็งในช่องปาก
อาการ  มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือที่ลิ้นเป็นเวลานานมีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษา หรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือก เนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำหรือเป็นเวลานาน
 
10. มะเร็งในลำคอ
อาการ เสียงแหบพร่า มีก้อนบวม ทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบาก หรือมีการขยายตัวของต่อมในลำคอที่โตขึ้นจนสามารถจับและรู้สึกได้

11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร
อาการ   น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว อาเจียนออกมาเป็นเลือด ท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อย บ่อย รู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้องอกในช่องท้องหรือรู้สึกตื้อ แม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คำ

12. มะเร็งทรวงอก
อาการ   มีเลือดหรือของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากหัวนมบวม หรือผิวเนื้อทรวงอกหนา ขึ้นมีก้อน บวมจนจับได้เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้บางครั้งอาจมีตุ่มหรือสิวเกิดขึ้นที่เต้านมเป็นเวลานานควรระวัง เพราะผู้หญิง 9 ใน 10 คนจะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอกโดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อมีอายุมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียกว่า ซีสต์ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการบวมนั้นให้ชัดเจนเสียก่อนว่าคืออะไรกันแน่

13. มะเร็งลำไส้
อาการ  น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วมีอาการปวดท้องอย่างมากและระบบการย่อยผิดปกติ มีเลือดออกปนมากับอุจจาระ ซึ่งมีวิธีสังเกตของผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับริดสีดวงทวารอยู่แล้วคือถ้าใช้กระดาษทิชชูซับแล้วเลือดมีสีแดงสดนั่นคืออาการของริดสีดวงทวารแต่ถ้าเลือดมีสีดำคล้ำนั่น คือ อาการของโรคมะเร็งในลำไส้

14. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
อาการ  มีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้ เกิดอาการติดเชื้อในบาง ส่วนของร่างกายมะเร็งผิวหนัง อาการมีแผลหรือแผลเปื่อยพุพองที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานานตลอดจนไฝ หรือหูดที่โตขึ้นและมีการเปลี่ยนสีหรือรูปร่าง ขนาด นอกจากนี้อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่าเมลาโนมา ( Melanoma ) คือ เนื้องอกที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่น กระจุดด่างหรือไฝถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ดทั่วร่างกายหรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติ
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 18068
ตอบกลับ #25 16 กันยายน 2010, 02:28:49น.

h*[ คืนนี้นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์นะคะ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะคะพี่โซนิค ขอบคุณค่ะT|g T|g

  • พลังน้ำใจ: 15627
ตอบกลับ #26 18 กันยายน 2010, 10:14:01น.

ทำดีต้องได้ดีซินะ 

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #27 21 กันยายน 2010, 06:48:37น.
::) โยเกิตทำเอง เพื่อสุขภาพที่ดี

โยเกิตนอกจากจะเป็นอาหารลดน้ำหนักยอดฮิตของหญิงสาวแล้ว โยเกิตยังเป็นอาหารคุณภาพเยี่ยมที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง มีโปรตีน วิตามินบี 2 และบี 12 ที่ช่วยสร้างเม็ดเลือดและบำรุงระบบประสาท แต่เนื่องจากโยเกิตที่ขายตามท้องตลาดทั่วไปมักผสมน้ำตาล น้ำเชื่อมผลไม้ ซึ่งหากร่างกายไม่สามารถเผาผลาญได้หมดก็จะกลายเป็นแคลอรีให้สาวๆต้องปวดใจ (กับไขมันที่เพิ่มขึ้น) เพราะฉะนั้นมาทำโยเกิตเพื่อสุขภาพด้วยตัวเองแบบง่ายๆดีกว่า

ส่วนผสม :
นมสดหรือนมพร่องมันเนย 2 ลิตร, โยเกิตสำเร็จรูปรสธรรมชาติ 1 ถ้วย


วิธีทำ :

1. เทนมใส่ภาชนะแก้วหรือเซรามิก นำไปตั้งไฟ พออุ่นยกลง

2. นำโยเกิตที่เตรียมไว้ผสมลงไปคนให้ละลายทั่วกัน ตักแบ่งใส่ถ้วยแล้วปิดฝาให้สนิท

3. นำไปวางเรียงในกระติกน้ำแข็งหรือกล่องโฟมใบใหญ่ ปิดฝาให้สนิท ตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องปกติประมาณ 8 ชั่วโมง


แล้วคุณจะได้โยเกิตแช่เย็นเก็บไว้รับประทานได้นาน 7 วันทีเดียว

ที่มา :: นิตยสาร ขวัญเรือน
 T|g T|g T|g
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #28 21 กันยายน 2010, 09:33:43น.

สวัสดีครับ ส่งความรัก
ความคิดถึง และกำลังใจมาให้
สำหรับท่านที่เข้ามาอ่าน เกี่ยวกับสุขภาพ  h*[
ขอให้มีสุขภาพดี แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา
และเมื่อได้รับแล้ว โปรดยิ้มสักนิด ขอบคุณมากครับ
]E[

<a href="http://img224.imageshack.us/img224/209/391qg9.swf" target="_blank" class="new_win">http://img224.imageshack.us/img224/209/391qg9.swf</a>
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

  • พลังน้ำใจ: 15627
ตอบกลับ #29 21 กันยายน 2010, 09:48:58น.
 Y$@ Y$@ Y$@ Y$@ Y$@ Y$@ Y$@ Y$@ Y$@ Y$@ Y$@



ทำดีต้องได้ดีซินะ 

 

เว็บไซต์ในเครือข่ายอภิโชค : apichokeonlin.com | apichoke.net | apichoke.biz | apichoke.me | apichoke.org | apichoke.info
"ศาสตร์ของการคำนวณหวย สถิติหวยความน่าจะเป็น บนเว็บนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน-นักคำนวณ และบุคคลทั่วไปตลอดจนเลขจากไสยศาสตร์ต่างๆ การที่ใครจะถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือถูกหวย รวยด้วยหวย ก็เป็นเพียงแต่ การเสี่ยงโชค เสี่ยงดวง เท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ และไม่ควรงมงาย หากต้องการเสี่ยงโชค ซื้อหวย เล่นหวย ก็ขอให้ เสี่ยงโชคแต่พอเพียงตามกำลังของตนเอง อย่าซื้อเกินกำลังอาจทำให้เดือนร้อนได้"
คำเตือน : อย่าหลงเชื่อหากมีผู้อ้างตนเป็นอาจารย์ดังสามารถให้หวยถูก100%หรือให้ถูกทุกงวดแน่นอน หรืออวดอ้างว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่กองสลาก แล้วเรียกเก็บเงินจากท่าน
ข้อมูลในเว็บนี้ใช้ประกอบเสี่ยงโชคสำหรับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น ไม่สนับสนุนหวยที่ผิดกฏหมาย