คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่าที่กำลังตามหาความสุข... คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่าที่บางครั้งก็ทำความสุขหล่นหายเคยไหมที่บางวันก็ไม่อยากไปทำงานตอนเช้า หรือบางทีก็ปวดหัว หงุดหงิด ไม่ได้อย่างใจ อยากกลับบ้านนอนแต่แล้วบางคืนก็นอนไม่หลับ ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้ก็เป็นไปได้ว่าคุณกำลังตามหาความสุขอยู่เหมือนกับคนในเมืองใหญ่ทั่วไป ที่ชีวิตเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดรีบร้อนด้วยหน้าที่และภาระอันหนักอึ้งในแต่ละวัน ตามหาความสุข คนหลายคนพยายามไขว่คว้าหาความสุข แต่ยิ่งตามหาเท่าไหร่ก็ยิ่งหาไม่เจอ ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านแนะนำว่าจริงๆ แล้ว ความสุขที่เราตามหานั้นไม่ได้อยู่ไหนไกลเลย ถ้าเพียงแต่เราจะใช้ชีวิตให้ช้าลงบ้าง แล้วมีสติอยู่กับปัจจุบัน หัดพึงพอใจในสิ่งที่มีอยู่ ลดขนาดความต้องการในชีวิตลงบ้าง มองโลกในแง่ดี และอย่าละเลยที่จะเห็นคุณค่าของตัวเอง และคนใกล้ตัวเพียงเท่านี้น่าจะพบความสุขได้ไม่ยาก
โรคหัวใจ...อยู่แค่ปลายจมูก
คนในสังคมปัจจุบัน มักไม่ค่อยสนใจและระมัดระวังเรื่องโรคหัวใจเท่าใดนัก คนส่วนมากมักจะเกิดอาการผิดปกติทางหัวใจแบบปัจจุบันทันด่วนชนิดไม่เคยคาดคิดมาก่อน  กล่าวกันตามปรัชญาแพทย์ทางเลือกแล้ว  ธาตุภูมิของคนเราเริ่มต้นตั่งแต่อยู่ในครรภ์หลังจากเริ่มตั้งครรภ์ได้ 16 วัน โครงสร้างของหัวใจจะเริ่มงอกออกมาเป็นปุ่มเล็กๆ ที่จะพัฒนาเป็นหัวใจในวันที่ 24 ปุ่มเล็กๆ นี้จะเริ่มเต้นครั้งแรกอย่างแผ่วเบาในท้องมารดา  หลังคลอดหัวใจทารกจะเต้นวันละ 100,000 ครั้ง และชั่วตลอดทั้งชีวิตจะเต้นประมาณกว่าพันล้านครั้งต่อคน  ทางด้านปรัชญาแพทย์ทางเลือก เรียกว่า “พลังฟ้า-ดิน” ไหลมาประจบพบกัน ณ ที่หัวใจแล้วผสมสัมพันธ์ในแง่ หยิน-หยาง กลายเป็นจังหวะการเต้นของหัวใจที่สะท้อนออกทางเส้นชีพจร หัวใจสะท้อนการยืดหดของการทำงานโดยพลังฟ้า-ดินในรูปหยิน-หยาง หัวใจคือจุดศูนย์กลางของเลือด ลมปราณและสารจำเป็นต่อชีวิต หัวใจคือจังหวะแห่งชีวิตที่รับสัญญาณข้อมูล จากทุกส่วนของอวัยวะอื่นๆ ที่สะท้อนออกมาในรูปของอารมณ์ จิตใจ อาการดีใจและเสียใจ คือขั้วหยิน-หยางของระบบจิตใจที่ปรากฏออกมาสู่สายตาภายนอก หัวใจรับพลังจากฟ้า คือ พลังจากจักรวาล ดวงอาทิตย์ ดาวเคราห์ และบรรยากาศรอบโลกทั้งหมด ส่วนพลังดินนั้นหัวใจได้รับจากอิทธิพลของลำไส้เล็ก  อวัยวะที่ทำงานสัมพันธ์กับหัวใจในแง่ของแพทย์ทางเลือกลำไส้เล็ก คือขั้นหยินของหัวใจที่เป็นคู่สัมพันธ์ทางตำแหน่งบน/ล่าง ทางกายภาพคือ หัวใจเป็นอวัยวะตัน ลำไส้เล็กก็คืออวัยวะกลวงคู่สัมพันธ์ทางหน้าที่เกี่ยวกับเลือดคือหัวใจเป็นศูนย์รวมการไหลเวียนของเลือด ลำไส้เล็กเป็นศูนย์รวมของวัตถุดิบสร้างเลือดที่มาจากดิน คือสารอาหารที่ผ่านการดูดซึมโดยเส้นรากฝอยในลำไส้เล็ก ทางด้านอารมณ์หรือคลื่นจิตละเอียดแล้ว หัวใจสะท้อนอารมณ์ระดับจิตใจออกสู่ภายนอกแต่ลำไส้กลับเปรียบเสมือนสมองส่วนล่างที่ซ่อนความคิด ความรู้สึกสะสม ความถี่แฝงลึกอยู่ภายใน คือเป็นจุดศูนย์กลางทางกำลังกาย กำลังภายใน ดังนั้น เมื่อใดที่คนเรามีปัญหาผิดปกติทางหัวใจ แพทย์ทางเลือกเขาจะบอกให้ตรวจสอบดูลำไส้เล็กด้วยและให้บำบัดลำไส้เล็กควบคู่กันไปกับหัวใจด้วย
         ปัญหาขั้นพื้นฐานของหัวใจคือหยิน-หยาง กล่าวคือ เมื่อใดเรารับประทานอาหารประเภทไขมันจากสัตว์ มีไขมันตกค้าง ย่อยยาก ทำให้เส้นเลือดแข็งตัวหรือมีไขมันมากเกินในระบบเลือดจนเกิดการจับตัวหุ้มโอบรอบบริเวณเนื้อเยื่อของหัวใจ ทำให้ขั้วหัวใจและเส้นเลือดขาดความยืดหยุ่นทำให้หัวใจต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า  ในการที่จะขับเคลื่อนเลือดไปทั่วร่างกาย นี่คือสาเหตุจากปัจจัยหยางจากอาหาร ส่วนปัจจัยหยิน จากอาหารก็คือ การขยายตัว พองตัว อันเกิดจากปัจจัยหยินจากแอลกอฮอร์ สุรา น้ำตาล น้ำผลไม้ กาแฟ และเครื่องดื่ม กระตุ้นประสาท ยาชูกำลังต่างๆ รวมทั้งสาร สี เคมีภัณฑ์ทุกชนิดที่ทำให้ขนาดหัวใจบวมพองโตมากขึ้น นำไปสู่การเกิดอาการหัวใจวาย/ช๊อคโดยง่าย เราต้องรู้จักหมั่นสังเกตสัญญาณเตือนอาการที่ปลายจมูกของตนเอง ซึ่งสะท้อนและสัมพันธ์กับสภาวะหัวใจภายในโดยไม่ต้องอาศัยการตรวจจากเครื่องมือทางการแพทย์แผนปัจจุบันก้อได้
   วิธีการส่องกระจกดูที่ใบหน้า หากใบหน้าบวมและมีอาการสีแดง(ไอ้สีแดงไม่ใช่รอยลิปสติกที่ติดมาจากเมื่อคืนนี้นะ อันนี้ต้องตัวใครตัวมัน ช่วยไม่ได้ 555)ออกบนใบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณปลายจมูกแสดงว่า มีอาการผิดปกติของโรคหัวใจแฝงอยู่ หน้าบวมแสดงว่า หัวใจภายในบวมขยายตัว หยินแผ่กระจายพองโตออกใบหน้าสีแดงแสดงว่า”ความดันโลหิตสูง เพราะเส้นเลือดขยายตัว รวมไปถึงเส้นเลือดฝอยทั่วบริเวณใบหน้าขยายตัวด้วย ทำให้เกิดสีแดงปรากฏ หากสีแดงหรือชมพู อมม่วงปราฏกชัดบนปลายจมูกแสดงว่า”ความดันโลหิตสูงและได้พัฒนาจนกล้ามเนื้อหัวใจหย่อน อ่อนแอและสูญเสียความหยืดหยุ่นจนก่อให้เกิดปัจจัยตรงข้ามคือ ความดันต่ำสลับเพราะหัวใจทำงานหนักอ่อนล้า จนพัฒนาเป็นอาการขั้นรุนแรงมากขึ้น อาการเหล่านี้อาจเกิดกับเด็กอายุยังน้อยที่สืบเนื่องมาจากการรับประทานที่มีน้ำตาลสูง จนเกิดอาการไฮเปอร์ พูดเร็ว สมาธิสั้น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ จนบางครั้งเกิดอาการช๊อค เพราะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งตรงกันข้ามกับอาการของผู้ใหญ่บางคนที่มักจะมีอาการพูดช้า พูดคล้ายติดอ่าง คำพูดฟังไม่มีน้ำหนัก ไม่มั่นใจ สาเหตุเพราะหัวใจอ่อนล้า น้ำเสียงการพูดสะสะท้อนถึงสภาวะจิตใจว่าอ่อนแอหรือแข็งแรงเพียงใด การนั่งไม่นิ่ง อยู่เฉยไม่ได้สะท้อนให้ถึงการทำงานที่เร่งรีบจากอิทธิพลหยินของน้ำตาลในเลือดส่งให้จังหวะการเต้นผิดปกติ
   ตามสถิติคนเป็นโรคหัวใจวายมีอาการช๊อคหมดสติมักเกิดในช่วงเวลากลางวันระห่าง 10 โมงถึงบ่าย 2 โมง นี่คือ เวลาเด่นและพลังเร่งแรงสุดของหัวใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงฤดูร้อน อากาศร้อนจัด อุณหภูมิสูง คนเรามักมีอาการแน่นหน้าอก หงุดหงิดง่าย  นี่คือสัญญาณเตือนของความผิดปกติระบบเลือดและหัวใจ
   ให้พึงระลึกเสมอว่า เมื่อใดที่พระจันทร์ข้างขึ้น และพระจันทร์เต็มดวง ธาตุน้ำในร่างกายก็จะมีปริมาณสูงขึ้นด้วย ทำให้เพิ่มภาระความดันมากต่อหัวใจ ทำให้โอกาสเกิดอาการโรคหัวใจวายมีสูงกว่าปกติตามพลังดวงจันทร์
   จุดสำคัญของการพิจารณาโรคหัวใจให้ยึดถืออาการแสดงออกทางปลายจมูกเป็นหลัก เพราะเป็นที่ยึดถือกันมานับพันปี จมูกเป็นหน้าต่างของหัวใจ เช่นปลายจมูกมัน แสดงว่า รับรับประทานอาหารประเภทไขมันจัด ย่อยยาก ร่างกายมีส่วนเกินไขมันในเลือดสูง จากสีแดงกลายเป็นสีม่วงแสดงว่า อาการเริ่มพัฒนาจากเบากลายเป็นหนักและขั้นรุนแรงเรื้อรังด้วย อย่างที่บอก...ใกล้ธรรมชาติเข้าไว้ดีที่สุด