"หวยซอง เลขเด็ด เขียนโดยสาธารณชน เป็นการเสนอแนะเพื่อเสี่ยงโชคซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกกฎหมายเท่านั้น ไม่มีการขายหวยทุกชนิด และ ไม่มีใครทราบว่าหวยจะออกตัวไหน โปรดใช้วิจารณญาณ"

เรื่อง: ลักษณะของคนที่น่ารัก
 
 6395

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

bua ออฟไลน์
  • พลังน้ำใจ: 633
18 สิงหาคม 2009, 21:48:42น.
ลักษณะของคนที่น่ารัก   *)_ *)_ *)_ *)_ *)_ *)_


ตามหลักในพระพุทธศาสนานั้น...คนที่น่ารัก ซึ่งเป็นที่รักพอใจของคนทั้งหลาย เมื่อกล่าวโดยทั่วไปแล้วมีลักษณะ 9 ประการ คือ ...

1. ไม่เป็นคนอวดดี
2.ไม่พูดมากจนเขาเบื่อ
3. เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน
4. รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว
5. พูดจาอ่อนหวาน
6. เป็นเสียสละ ไม่เอาเปรียบผู้อื่น
7. เป็นคนกตัญญูกตเวที
8. เป็นคนไม่มีนิสัยริษยาเสียดสีผู้อื่น
9. เป็นคนมีนิสัยสุขุม รอบคอบ ไม่ยกตนข่มท่าน

1. ไม่เป็นคนอวดดี
..........ใครก็ตาม ถ้าชอบเป็นคนอวดดี เช่น อวดรวย อวดเก่ง อวดยศศักดิ์ตำแหน่งของตน ชอบคุยอวดคนโน้นคนนี้ ถึงความดีเด่นของตนอย่างโน้นอย่างนี้ หรืออวดสมบัติของตน จนทำให้คนอื่นเบื่อฟังและรู้สึกหมั่นไส้

..........คนเช่นนี้ แม้ตนเองจะมีคุณสมบัติหรือความดีเด่นจริงก็เป็นที่ชิงชังและเบื่อระอาของคนทั้งหลาย เพราะเขาไม่ชอบคนอวดดี ยิ่งถ้าตนไม่มีคุณสมบัติอันใดก็ยิ่งเป็นที่ชิงชังของคนทั้งหลายยิ่งขึ้น

...........แต่คนที่มีนิสัยดีน่ารักนั้น เขาจะไม่โอ้อวด แม้จะมีดีอวด แต่เป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตน และบางคนถึงกับปกปิดคุรความดีของตน ถ้าใครจะทราบก็ค่อยรู้เอาเอง คนเช่นนี้ย่อมเป็นที่รักใคร่ เอ็นดู หรือเป็นทีเคารพนับถือของคนทั้งหลาย และย่อมมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองในชีวิตได้มาก เพระได้รับความช่วยเหลือเกื้อ*ลจากบุคคลทั่วไป

2. เป็นคนไม่พูดมากจนเขาเบื่อ

..........ใครก็ตามถ้าไม่รู้จักประมาณตนในการพูด พูดพล่ามพูดไร้สาระ หรือพูดมากจนเกินไป จนคนทั้งหลายเพื่อฟังและรู้สึกรำคาญไม่อยากฟัง อยากออกไปเสียให้ห่างเมื่อคนนั้นพูด คนเช่นนี้แม้จะมีความรู้ความสามารถดีก็หาเป็นที่รัก และเป็นที่เคารพของคนทั้งหลายไม่ ถ้ายิ่งเป็นคนต่ำต้อยอยู่แล้ว ก็ยิ่งเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งหลายยิ่งขึ้น ฉะนั้น คนที่ฉลาดและน่ารักจึงพูดแต่พอประมาณ ไม่พูดมากจนเขาเบื่อ แต่พูดมีสาระน่าฟัง เช่นพูดแนะนำ หรือ พูดสร้างสรรค์ เป็นต้น และเมื่อพูดสิ่งใดก็คิดใคร่ครวญ่กอนแล้วจึงพูดคนเช่นนี้ย่อมเป็นที่รักใคร่เคารพนับถือของคนทั้งหลาย และย่อมได้รับความเอ็นดู ความเกื้อ*ลจากคนทั่วไป

...........ฉะนั้น คนที่มีลักษณะนิสัยที่น่ารัก จึงไม่พูดมากจนเขาเบื่อ แต่เป็นผู้พูดพอประมาณ


3. เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน

........บางคนขาดความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนแข็งกระด้าง ขาดสัมมาคารวะ ชอบดูหมิ่นดูถูกคนอื่น เป็นคนไม่ยอมก้มหัวให้แก่ใคร คนประเภทนี้หาความเจริญได้ยากย่อมเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งหลาย เหมือนต้นไม้ที่ยืนตาย หรือเหมือนรวงข้าวที่ลีบไม่มีเมล็ด ไร้ค่ายืนชูรวงโด่งอยู่ ไม่โน้มลง

..........แต่คนที่น่ารักนั้น ย่อมมีความ่ออนน้อมถ่อมตนเป็นนิสัย มีสัมมคารวะ ไม่แข็งกระด้าง เคารพนบนอบต่อผู้ใหญ่ที่เจริญกว่าตน ทั้งโดยวัยวุฒิ คุณวุฒิ และชาติวุฒิ

..........คนเช่นนี้ย่อมมีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตได้มากสมดังพุทธพจน์ ที่ตรัสไว้ว่า "ธรรมะ 4 ประการ คือ มีอายุยืน 1 มีผิวพรรณผ่องใส 1 มีความสุขกาย สุขใจ 1 มีกำลังกายกำลังใจ 1 ย่อมเจริญแก่บุคคลผูมีปกติกราบไว้ อ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่เป็นนิจ"

.........ฉะนั้น ผู้หวังให้ผลดีทั้ง 4 นี้เกิดขึ้นแก่ตนก็ต้องสร้างเหตุคือนิสัยที่น่ารัก ด้วยการเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นนิจ

4. รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว

..........ใครก็ตาม รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวในปัญหาต่าง ๆ ในข้อตกลงหรือในการปรึกษาหารือต่าง ๆ ไม่ดึงดันเอาแต่ความเห็นหรืออำนาจตามอำเภอใจของตนฝ่ายเดียวย่อมรู้จักประนีประนอมในปัญหาต่าง ๆ ที่ขัดแย้งกัน เมื่อฝ่ายหนึ่งรุนแรงยืนยันขันแข็งในท่าที หรือจุดประสงค์ของตนก็ผ่อนปรนลงบ้าง ไม่ยืนกระด่ายขาเดียว ไม่ว่าปัญหาครอบครัว การทำงานหรือในข้อขัดแย้งต่าง ๆ ทั้งนี้ก็เพื่อความสามัคคี ถนอมน้ำใจกัน และความสงบสุขในครอบครัว ในหน่วยงานหรือในสังคมถ้าเมื่อฝ่ายหนึ่งหย่อนยานเกินไป อันอาจจะก่อให้เกิดผลเสียหายได้ ก็มีท่าทีเข้มงวดเข้าไว้ให้ถูกระเบียบและกฎเกณฑ์ ก็จะทำให้เกิดความพอดีขึ้น

..........คนเช่นนี้ สามารถดำเนินชีวิตไปอย่างสงบสุขราบรื่น ไม่ค่อยมีความขัดแย้งกับใคร จึงทำให้เป็นคนมีนิสัยน่ารัก เพราะรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว

.........การรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวนี้ ทำให้เกิดความพอดี ไม่เป็นเหตุให้เกิดความทะเลาะเบาะแว้งและความขขัดแย้งกับใคร ๆ เพราะไม่ตึงและไม่หย่อนจนเกินไป เหมือนคนที่เล่นว่าว...ถ้าเล่นว่าวเป็นว่าวก็จะไม่ตกและกินลมได้ดีคือเมื่อลมแรงเกินไป...ก็ปล่อยสายป่านให้ยาวออกไปเพระถ้าดึงไว้สายป่านก็จะขาดทำให้ว่าวตก หรือเมื่อลมอ่อนเกินไปก็พยายามดึงสายป่านเอาไว้ ว่าวก็จะกินลมได้ดีและไม่ตก การดำเนินชีวิตก็เหมือนกัน ถ้าจะให้ราบรื่นก็ต้องรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวในปัญหาขัดแย้งต่าง ๆ ถ้าไม่รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวแล้ว ก็จะขัดแย้งกับคนอื่นอยู่เสมอ ไม่ว่าในปัญหาครอบครัวหรือปัญหาใด ๆ ฉะนั้น การรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวจึงเป็นลักษณะนิสัยที่น่ารักประการหนึ่ง....

5. พูดจาอ่อนหวาน

............การพูดจาอ่อนหวานเป็นเสน่ห์ประการหนึ่งที่ยึดเหนี่ยวน้ำใจของผู้อื่นไว้ได้ เพราะทำให้ผู้ฟังชื่นใจ สบายใจ ทำให้เป็นกันเอง ทำให้ผูกมิตไมตรีไว้ได้จึงเป็นที่รักใคร่ของคนทั้งหลาย ผู้ที่พูดจาไม่น่าฟังพูดขาดสัมมคารวะ พูดไม่รู้ที่ต่ำที่สูงหรือพูดส่อเสียดย่อมเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งหลาย

..........การพูดจาอ่อนหวานนี้ จัดเป็นวาจาสุภาษิต ประการหนึ่ง และวาจาสุภาษิตมีองค์ประกอบ 5 ประการ คือ
1. เป็นคำจริง
2. เป็นคำอ่อนหวาน
3. เป็นคำพูดมีประโยชน์
4. พูดถูกกาลเทศะ
5. พูดประกอบด้วยเมตตา

.........คำพูดใด แม้จะเป็นคำจริง และเป็นคำอ่อนหวาน แต่ถ้าไม่มีประโยชนื พระพุทธเจ้าก็ตรัสสอนไม่ให้พูดเพราะไม่ได้ประโยชน์

...........หรือคำพูดใด แม้จะเป็นคำจริง คำอ่อนหวานและมีประโยชน์ แต่ถ้าพูดไม่ถูกกาลเทศะ พระองค์ก็ตรัสสอนไม่ให้พูดเช่นกัน เพราะไม่เป็นวาจาสุภาษิต

..........แต่ถ้าคำนั้นประกอบด้วยลักษณะ 5 ประการคือ เป็นคำจริง เป็นคำอ่อนหวาน เป็นคำมีประโยชน์พูดถูกกาลเทศะ และพูดด้วยเมตตาจิตแล้ว พระองค์ก็ตรัสสอนให้พูดคำเช่นนี้ เพราะก่อนให้เกิดคุณค่าให้แก่ตนเองและผู้อื่นเป็นมาก ทำให้เป็นที่รักของคนทั้งหลาย และจัดเป้นมงคลแก่ชีวิต....

6. เป็นเสียสละ ไม่เอาเปรียบผู้อื่น

..........ใครก็ตามถ้ามีน้ำใจเป็นนักเสียสละ ไม่ตระหนี่ถี่เหนียว รู้จักแบ่งปัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ย่อมเป็นที่รัก และที่เคารพนับถือของคนทั้งหลายโดยทั่วไป เพราะการให้ย่อมผูกไมตรีไว้ได้ และผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของคนทั้งหลาย

..........การเป็นคนเสียสละหรือนักเสียสละในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงการเสียสละเงินทอง หรือวัตถุสิ่งของเท่านั้นหากแต่หมายถึงการเสียสละกำลังกาย เสียสละกำลังสติปัญหาช่วยเหลือกิจของของผู้อื่นหรือสาธารณกุศลโดยส่วนร่วม หรือแม้แต่ชีวิตก็สละได้ เมื่อมาคำนึงถึงความยุติธรรมและความถูกต้อง...แต่ไม่ใช่เป็นการฆ่าตัวเอง ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า...

นรชนพึงสละทรัพย์ เพื่อรักษาอวัยวะ
พึงสละอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิต เมื่อ
ระลึกถึงธรรม พึงสละทุกอย่าง คือ
ทั้งทรัพย์ อวัยวะ และชีวิต

...........นอกจากเสียสละแล้ว คนที่น่ารักต้องไม่เอารัดเอาเปรียบคนอื่นด้วย คือไม่เห็นแก่ได้ หรือความสะดวกสบายส่วนตนแต่ฝ่ายเดียว ให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย แต่คนที่มีลักษณะขี้เหนียว ไม่เห็นใจเพื่อนมนุษย์หรือแม้แต่สัตวืเดรัจฉาน เป็นคนเห็นแก่ตัว และเอารัดเอาเปรียบก็ย่อมเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งหลาย

...........ฉะนั้น การเป็นคนเสียสละ และไม่เอารัดเอาเปรียบคนอื่น จึงเป็นลักษณะนิสัยที่น่ารักประการหนึ่ง

7. เป็นคนกตัญญูกตเวที

............ใครก็ตาม ถ้าเป็นคนมีความกตัญญูกตเวทีต่อท่านผู้มีพระคุณแก่ตนมาก่อน คนนั้นจัดเป็นคนดีเป็นคนที่น่ารักและน่าเคารพนับถือ ยกย่อง จากคนทั้งหลาย เพราะเป็นการแสดงถึงพื้นฐานจิตใจของคนดีดังคำพระบาลีที่ว่า

ภูมิ เว สาธุรูปานํ กตญญกตเวทิตา
ความกตัญญูกตเวทีเป็นพื้นใจของคนดี

...............กตัญญูกตเวทีนี้ แยกเป็น 2 ศัพท์ คือ กตัญญูศัพท์หนึ่ง และกตเวที ศัพท์หนึ่ง
กตัญญู หมายถึง ผู้รู้อุปการคุณที่คนอื่นได้เคยทำแก่ตนมา เช่น เคยเลี้ยงดูและเคยช่วยเหลือตนมา เป็นต้น แม้ยังไม่ได้ตอบแทน แต่ถ้ารู้ถึงบุญคุณที่คนอื่น

............ส่วนกตเวทีนั้น หมายถึงคนที่ได้ตอบแทนอุปการคุณที่เขาได้เคยทำแก่ตนมาแล้ว เช่นได้ตอบแทนอุปการะเลี้ยงดูพ่อแม่ของตนหรือต่อคนที่ได้เคยช่วย เหลือมา..


 *)_ %^* %^* %^* &*(_ &*(_

ของพระธรรมวิสุทธิกวี
วัดโสมนัสวิหาร กรุงเทพฯ


[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]


bua ออฟไลน์
  • พลังน้ำใจ: 633
ตอบกลับ #1 18 สิงหาคม 2009, 22:24:20น.
ทายนิสัยเวลาเสียใจ .... *^% *^% *^% *^% *^% *^% *^% *^% :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'(



เวลาคนเราเสียใจมักมีอาการต่างกันไป  และการแสดงออกนั้นเป็นการบ่งบอกตัวตนที่แท้จริง    อยากรู้จักคนที่เราไกล้ชิดให้ลึกซึ้งกว่าเดิม  ลองวิธีนี้ดู

1.  เก็บตัวตามลำพัง

แสดงว่าเป็นคนสะเทือนใจง่าย  ช่างคิด  ชอบใช้อารมณ์มากว่าเหตุผล  ชอบปิดกันตัวเองเมื่ออยู่ในสถานการณ์คับขัน  มักมีโลกส่วนตัว  ซึ่งยากจะเข้าถึง  รักศิลปะ  มีความอดทนสูง

2.  อาละวาดและปาข้าวของ  ทำร้ายคนอื่น

ในวัยเด็กเป็นคนขาดความอบอุ่น   โตขึ้นจะเรียกร้องความสนใจ  ต้องการความรักและความห่วงใยจากผู้อื่น  ลึก ๆ แล้ว เป็นคนอ่อนแอมาก

3.  ชอบทำร้ายตัวเอง

เป็นคนขี้กลัว   มักทำตัวเรียบร้อยเมื่อยู่ต่อหน้าคนอื่น  แต่ลึก ๆ เป็นคนขี้กังวล  และชอบเก็บตัว   ต้องการความรักและความเห็นใจจากคนอื่นเช่นกัน

4.  ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เป็นคนที่มีความหยิ่งในตัว  รักศักดิศรี  ไม่ชอบตกเป็นเป้าสายตาใคร   เชื่อมั่นตัวเองเมือตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก   และพยายามแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยตัวเอง

5.  ไปเที่ยวหรือพบปะกับเพื่อนฝูง

แสดงว่าเป็นคนรู้จักตัวเองดี  รู้เป้าหมายตัวเองดีว่าต้องการอะไร   มักจะผลักดันตัวเองไปสู่เป้าหมายให้สำเร็จ   ควบคุมตัวเองได้อยางดีเยียม

6.  ร้องให้ไม่ยอมหยุด

เป็นคนที่จริงจังในชีวิจต   เมือเชื่อถืออะไรซักอย่างก็จะเชื่อมั่นอย่างนั้นตลอดไป  เป็นคนซื่อสัตย์  เกลียดการโกหกหลอกลวง  มักจะตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด

7.  ทำงานหนัก

ชอบลิขิตชีวิตตัวเอง  เมื่อรักใครก็จะทุ่มใจให้สุด ๆ แต่ถ้าหมดรักใครก็ตัดใจได้อย่างเด็ดขาดเช่นกัน   ถ้ามีความสุขมาก ๆ ก็จะแบ่งปันให้คนอื่น  เป็นที่รักและจริงใจของเพื่อนและครอบครัว

แล้วคุณเป็นคนแบบไหนล่ะ  ....?   ^() ^() ^() ^() ^() ^() ^() ^() ^() ^() ^()

 


[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

สมาชิกพิเศษ *****
  • พลังน้ำใจ: 1
ตอบกลับ #2 19 สิงหาคม 2009, 21:34:22น.
ขอบคุณคะคุณป้าบัว

bua ออฟไลน์
  • พลังน้ำใจ: 633
ตอบกลับ #3 21 สิงหาคม 2009, 10:32:12น.
ลักษณะของคนที่น่ารัก

ปาฐกถาธรรมทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (ถ่ายทอดทุกสถานี)

ออกอากาศ วันอาทิตย์ที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๓๖

โดย

พระราชวิสุทธิกวี (พิจิตร ฐิตวณฺโณ ป.ธ.๙, ศน.บ.,M.A.)วัดโสมนัสวิหาร



โพสท์ในลานธรรมเสวนา กระทู้ที่ 005726 – โดยคุณ : mayrin [ 10 ก.ค. 2545 ]

เนื้อความ :

ท่านสาธุชนผู้สนใจในการฟังธรรม ทั้งหลาย

ปาฐกถาธรรมในวันนี้ จะได้พูดถึงลักษณะของคนที่น่ารัก ตามหลักพระพุทธศาสนา แล้วสร้างนิสัยของตนให้เป็นคนที่น่ารัก เพื่อเป็นที่รักเป็นที่เคารพนับถือของคนทั้งหลาย โดยพยายามงดเว้นหรือหลีกเลี่ยงความประพฤติที่น่าเกลียดน่าชัง อันไม่เป็นที่รักของคนทั้งหลายออกเสีย อันเป็นเหตุนำความสงบสุขร่มเย็นและความเจริญก้าวหน้ามาสู่ชีวิตของตนและสังคมโดยส่วนรวม

คนบางคนในโลกนี้เป็นที่เคารพรักใคร่ของคนทั้งหลาย แม้เพียงพบเห็นครั้งแรกจึงมีความเจริญก้าวหน้าในชีวิตได้มาก เพราะเขามีคุณธรรมอันเป็นลักษณะของคนที่น่ารักอยู่ในตัว คนประเภทนี้มีอยู่ไม่น้อยในสังคมปัจจุบัน แต่บางคนเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งหลาย แม้เมื่อพบเห็นรู้จักกันครั้งแรก ไม่อาจมีความเจริญก้าวหน้าในชีวิตได้ เพราะมีลักษณะนิสัยไม่ดี ขาดคุณธรรม คนประเภทนี้ก็มีอยู่มากเช่นกันในสังคม ดังนั้น ความประพฤติหรืออุปนิสัยใจคอ จึงเป็นตัวบ่งถึงความเจริญก้าวหน้า และความเสื่อมของคนเรา

ตามหลักในพระพุทธศาสนานั้น คนที่น่ารักซึ่งเป็นที่รักเป็นที่พอใจของคนทั้งหลายนั้น เมื่อกล่าวโดยทั่วไปแล้ว มีลักษณะ ๙ ประการคือ

๑. ไม่เป็นคนอวดดี

๒. ไม่พูดมากจนเขาเบื่อ

๓. เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน

๔. รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว

๕. พูดจาอ่อนหวาน

๖. เป็นคนเสียสละ ไม่เอาเปรียบผู้อื่น

๗. เป็นคนกตัญญูตกเวที

๘. เป็นคนไม่มีนิสัยริษยาเสียดสีผู้อื่น

๙. เป็นคนมีนิสัยสุขุมรอบคอบ ไม่ยกตนข่มท่าน

ลักษณะของคนที่น่ารักประการแรกคือ

๑. ไม่เป็นคนอวดดี

คือใครก็ตามถ้าชอบเป็นคนอวดดี เช่น อวดรวย อวดเก่ง อวดศักดิ์ตำแหน่งของตน ชอบคุยอวดคนโน้นคนนี้ถึงความดีเด่นของตนอย่างโน้น อย่างนี้ หรืออวดสมบัติของตน จนทำให้คนอื่นเบื่อฟังและรู้สึกหมั่นไส้ คนเช่นนี้แม้ตนเองเองจะมีคุณสมบัติหรือความดีเด่นจริง ก็เป็นที่ชิงชังและเบื่อระอาของคนทั้งหลาย เพราะเขาไม่ชอบคนอวดดี ยิ่งถ้าตนไม่มีคุณสมบัติอันใด ก็ยิ่งเป็นที่ชิงชังของคนทั้งหลายยิ่งขึ้น แต่คนที่มีนิสัยน่ารักนั้น เขาจะไม่โอ้อวด แม้จะมีดีอวดแต่เป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตน และบางคนถึงกับปกปิดคุณความดีของตน ถ้าใครจะทราบก็ค่อยรู้เอาเอง คนเช่นนี้ย่อมเป็นที่รักใคร่เอ็นดู หรือเป็นที่เคารพนับถือของคนทั้งหลาย และย่อมมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองในชีวิตได้มาก เพราะจะได้รับความช่วยเหลือเกื้อกูลจากบุคคลทั่วไป ฉะนั้น ความไม่อวดดี จึงเป็นลักษณะนิสัยที่น่ารักประการหนึ่ง

๒. เป็นคนไม่พูดมากจนเขาเบื่อ

คือใครก็ตาม ถ้าไม่รู้จักประมาณตนในการพูด พูดพล่าม พูดไร้สาระ หรือพูดมาก จนเกินไป จนคนทั้งหลายเบื่อฟัง และรู้สึกรำคาญไม่อยากฟัง อยากออกไปเสียให้ห่าง เมื่อคนเช่นนี้พูด คนเช่นนี้แม้จะมีความรู้ความสามารถดี ก็หาเป็นที่รักและที่เคารพนับถือของคนทั้งหลายไม่ ถ้ายิ่งเป็นคนต่ำต้อยอยู่แล้ว ก็ยิ่งเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งหลายยิ่งขึ้น แม้ในการแสดงธรรม การปาฐกถา การบรรยาย การสอน ถ้าพูดมากจนเกินประมาณหรือจนเกินเวลาไปมากแล้ว ก็ย่อมไม่เป็นที่น่าพอใจของผู้ฟังทั้งสิ้น ฉะนั้น คนที่ฉลาดและน่ารักจึงพูดแต่พอประมาณ ไม่พูดมากจนเขาเบื่อ แต่พูดมีสาระน่าฟังเช่นพูดแนะนำหรือสร้างสรรค์เป็นต้น และเมื่อพูดสิ่งใดก็คิดใคร่ครวญก่อนแล้วจึงพูด คนเช่นนี้ย่อมเป็นที่รักใคร่เคารพนับถือของคนทั้งหลาย และย่อมได้รับความเอ็นดู ความเกื้อกูลจากคนทั่วไป ฉะนั้น คนที่มีลักษณะนิสัยที่น่ารัก จึงไม่พูดมากจนเขาเบื่อ แต่เป็นผู้พูดพอประมาณ

๓. เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน

คือ คนบางคนขาดความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนแข็งกระด้าง ขาดสัมมาคารวะ ชอบดูหมิ่นดูถูกคนอื่น เป็นคนไม่ยอมก้มหัวให้แก่ใคร คนประเภทนี้หาความเจริญได้ยาก ย่อมเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งหลาย เหมือนต้นไม้ที่ยืนต้นตาย หรือเหมือนรวงข้าวที่ลีบไม่มีเมล็ด ไร้ค่ายืนชูรวงโด่อยู่ ไม่โน้มลงเช่นรวงข้าวที่มีเมล็ด แต่คนที่น่ารักนั้น ย่อมมีความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นนิสัย มีสัมมาคารวะ ไม่แข็งกระด้าง เคารพนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ที่เจริญกว่าตนทั้งโดยวัยวุฒิ คุณวุฒิ และชาติวุฒิ คนเช่นนี้ย่อมมีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตได้มาก สมดังพุทธพจน์ ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า

อภิวาทนสีลิสฺส

นิจฺจํ วุฑฺฒาปจายิโน

จตฺตาโร ธมฺมา วฑฺฒนฺติ

อายุ วณฺโณ สุขํ พลํ.

แปลว่า ธรรม ๔ ประการ คือ มีอายุยืน ๑ มีผิวพรรณผ่องใส ๑ มีความสุขกายสุขใจ ๑ มีกำลังกายกำลังใจ ๑ ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้มีปกติกราบไหว้อ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่เป็นนิจ

ฉะนั้น ผู้หวังให้ผลดีทั้ง ๔ ประการนี้ เกิดขึ้นแก่ตน ก็ต้องสร้างเหตุ คือนิสัยที่น่ารักด้วยการเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นนิจ

๔. รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว

คือ ใครก็ตามถ้ารู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวในปัญหาต่างๆ ในข้อตกลงหรือปรึกษาหารือต่างๆ ไม่ดึงดันเอาแต่ความเห็นหรืออำนาจตามอำเภอใจของตนฝ่ายเดียว ย่อมรู้จักประนีประนอมในปัญหาต่างๆ ที่ขัดแย้งกัน เมื่อฝ่ายหนึ่งรุนแรงหรือยืนยันแข็งขันในท่าทีหรือจุดประสงค์ของตน ก็ผ่อนปรนลงบ้าง ไม่ยืนกระต่ายขาเดียว ไม่ว่าในปัญหาครอบครัว การทำงานหรือในข้อขัดแย้งต่างๆ ทั้งนี้ ก็เพื่อความสามัคคี ถนอมน้ำใจกันและเพื่อความสงบสุขในครอบครัว ในหน่วยงานหรือในสังคม ถ้าเมื่อฝ่ายหนึ่งหย่อนยานเกินไป อันอาจจะก่อให้เกิดผลเสียหายได้ ก็มีท่าทีเข้มงวดเข้าไว้ ให้ถูกระเบียบและกฎเกณฑ์ ก็จะทำให้เกิดความพอดีขึ้น คนเช่นนี้สามารถดำเนินชีวิตไปอย่างสงบสุขราบรื่น ไม่ค่อยมีความขัดแย้งกับใคร จึงทำให้เป็นคนมีนิสัยน่ารัก เพราะรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว

การรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวนี้ ทำให้เกิดความพอดี ไม่เป็นเหตุให้เกิดความทะเลาะเบาะแว้ง และความขัดแย้งกับใครๆ เพราะไม่ตึงไม่หย่อนจนเกินไป เหมือนคนที่เล่นว่าว ถ้าเล่นว่าวเป็น ว่าวก็จะไม่ตกและเกินลมได้ดี คือ เมื่อลมแรงเกินไปก็ปล่อยสายป่านให้ยาวออกไป เพราะถ้าดึงไว้สายป่านก็จะขาดทำให้ว่าวตก หรือเมื่อลมอ่อนเกินไปก็พยายามดึงสายป่านเอาไว้ ว่าวก็จะกินลมได้ดีและไม่ตก การดำเนินชีวิตเหมือนกัน ถ้าจะให้ราบรื่นก็ต้องรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวในปัญหาขัดแย้งต่างๆ ถ้าไม่รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวแล้ว ก็จะขัดแย้งกับคนอื่นอยู่เสมอ ไม่ว่าในปัญหาครอบครัวหรือปัญหาใดๆ ไม่เป็นที่พอใจของคนทั้งหลาย ฉะนั้น การรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวจึงเป็นลักษณะนิสัยที่น่ารักของคนประการหนึ่ง

๕. พูดจาอ่อนหวาน

การพูดจาอ่อนหวานเป็นเสน่ห์ประการหนึ่ง ที่ยึดเหนี่ยวน้ำใจของผู้อื่นไว้ได้ เพราะทำให้ผู้ฟังชื่นใจสบายใจ ทำให้เป็นกันเอง ทำให้ผูกมิตรผูกไมตรีไว้ได้ จึงเป็นที่รักใคร่ของคนทั้งหลาย ผู้ที่พูดจาไม่น่าฟัง พูดขาดสัมมาคารวะ พูดไม่รู้ที่ต่ำที่สูง หรือพูดส่อเสียดให้ผู้อื่นแตกกัน ย่อมเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งหลาย

การพูดจาอ่อนหวานนี้ จัดเป็นวาจาสุภาษิตประการหนึ่ง และวาจาสุภาษิตนั้น ต้องมีองค์ประกอบ ๕ ประการ คือ

๑. เป็นคำจริง

๒. เป็นคำอ่อนหวาน

๓. เป็นคำมีประโยชน์

๔. พูดถูกกาลเทศะ

๕. พูดประกอบด้วยเมตตา

คำพูดใดแม้จะเป็นคำจริง และเป็นคำอ่อนหวาน แต่ถ้าไม่มีประโยชน์แล้ว พระพุทธเจ้าก็ตรัสสอนไม่ให้พูด เพราะไม่ได้ประโยชน์ หรือคำพูดใดแม้จะเป็นคำจริง คำอ่อนหวาน และมีประโยชน์ แต่ถ้าพูดไม่ถูกกาลเทศะ พระองค์ก็ไม่ตรัสสอนให้พูดเช่นกัน เพราะไม่เป็นวาจาสุภาษิต แต่ถ้าคำนั้นประกอบด้วยลักษณะ ๕ ประการ คือ เป็นจริง เป็นคำอ่อนหวาน เป็นคำมีประโยชน์ พูดถูกกาลเทศะ และพูดด้วยเมตตาจิต แล้วพระองค์ก็ตรัสสอนให้พูดคำเช่นนี้ เพราะก่อให้เกิดคุณค่าให้แก่ตนเองและผู้อื่นเป็นอันมาก ทำให้เป็นที่รักของคนทั้งหลาย และจัดเป็นมงคลแก่ชีวิต ฉะนั้น การพูดวาจาอ่อนหวาน จึงเป็นลักษณะนิสัยที่น่ารักของคน ประการหนึ่ง

๖. เป็นคนเสียสละ ไม่เอาเปรียบผู้อื่น

คือ ใครก็ตามถ้ามีน้ำใจเป็นนักเสียสละ ไม่ตระหนี่ถี่เหนียว รู้จักแบ่งปัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เอารัดเอาปรียบผู้อื่น ย่อมเป็นที่รักเป็นที่เคารพนับถือของคนทั้งหลายโดยทั่วไป เพราะการให้ย่อมผูกไมตรีไว้ได้ และผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของคนทั้งหลาย

การเป็นคนเสียสละหรือนักเสียสละในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงการเสียสละเงินทองหรือวัตถุสิ่งของเท่านั้น หากแต่หมายถึงการเสียสละกำลังกาย เสียสละกำลังสติปัญญาช่วยเหลือกิจการของผู้อื่น หรือสาธารณกุศล โดยส่วนรวม หรือแม้แต่ชีวิตก็สละได้ เมื่อมาคำนึงนึกถึงความยุติธรรมและความถูกต้อง แต่ไม่ใช่เป็นการฆ่าตัวเอง ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า

จเช ธนํ องฺควรสฺส เหตุ

องฺคํ จเช ชีวิตํ รกฺขมาโน

องฺคํ ธนํ ชีวิตญฺจาปิ สพฺพํ

จเช นโร ธมฺมมนุสฺสรนฺโต

ความว่า นรชนพึงสละทรัพย์ เพื่อรักษาอวัยวะ พึงสละอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิต เมื่อระลึกถึงธรรม พึงสละทุกอย่าง คือ ทั้งทรัพย์ อวัยวะ และชีวิต

นอกจากเสียสละแล้ว คนที่น่ารักต้องไม่เอารัดเอาเปรียบคนอื่นด้วย คือไม่เห็นแก่ได้ หรือ ความสะดวกสบายส่วนตนแต่ฝ่ายเดียว ให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย แต่คนที่มีลักษณะตรงกันข้าม คือ ขี้เหนียว ไม่เห็นใจเพื่อนมนุษย์ หรือแม้แต่สัตว์เดรัจฉาน เป็นคนเห็นแก่ตัว และเอารัดเอาเปรียบคนอื่น ก็ย่อมเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งหลาย ฉะนั้น การเป็นคนเสียสละและไม่เอารัดเอาเปรียบคนอื่น จึงเป็นลักษณะนิสัยที่น่ารักประการหนึ่ง

๗. เป็นคนกตัญญกตเวที

คือใครก็ตามถ้าเป็นคนมีความกตัญญูกตเวที ต่อท่านผู้มีพระคุณแก่ตนมาก่อน คนนั้นจัดเป็นคนดี เป็นคนที่น่ารักและน่าเคราพนับถือยกย่องจากคนทั้งหลาย เพราะเป็นการแสดงถึงพื้นฐานจิตใจของคนดี ดังคำพระบาลีที่ว่า "ภูมิ เว สาธุรูปานํ กตญฺญูกตเวทิตา ความกตัญญูกตเวที เป็นพื้นใจของคนดี"

กตัญญูกตเวทีนี้ แยกเป็น ๒ ศัพท์คือ กตัญญู ศัพท์หนึ่ง และกตเวทีศัพท์หนึ่ง กตัญญู หมายถึง ผู้รู้อุปการคุณที่คนอื่น ได้เคยทำแก่ตนมา เช่นเคยเลี้ยงและเคยช่วยเหลือตนมาเป็นต้น แม้ยังไม่ได้ตอบแทน แต่ถ้ารู้ถึงบุญคุณที่คนอื่นเคยกระทำแก่ตนมา ก็จัดเป็นคนกตัญญูแล้ว ส่วนกตเวทีนั้น หมายถึง คนที่ได้ตอบแทนอุปการคุณที่เขาได้เคยทำแก่ตนมาแล้ว เช่นได้ตอบแทนอุปการะเลี้ยงดูพ่อแม่ของตนหรือต่อคนที่เคยช่วยเหลือตนเป็นต้น คนที่รู้บุญคุณที่ผู้อื่นเคยทำมาแล้วแก่ตน และได้ตอบแทนเช่นนี้ จัดเป็นคนกตัญญูกตเวที ย่อมเป็นที่รักใคร่ของคนทั้งหลายที่พบเห็นและย่อมมีความเจริญก้าวหน้าในชีวิตได้มาก เช่นคนที่เลี้ยงดูพ่อแม่ของตน เป็นต้น ชื่อว่ามีชีวิตเป็นมงคล ดังพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า "มาตาปิตุอุปฏฺฐานํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ ซึ่งแปลว่า การเลี้ยงดูมารดาบิดาเป็นมงคลอย่างสูงสุด"

คือใครก็ตาม ถ้าได้เลี้ยงดูมารดาบิดาของตน จะมีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตได้มาก ไม่ตกอับ ถ้าจะตกอับบ้างก็ด้วยอำนาจกรรมชั่วในปางก่อนติดตามมา แต่ต้องเจริญรุ่งเรืองในที่สุด เพราะได้บุญมากอันเกิดจากเลี้ยงดูมารดาบิดาของตน ข้อนี้ทดสอบดูก็ได้ คือถ้าผู้ใดยังมีพ่อแม่ทั้ง ๒ ยังมีชีวิตอยู่ หรือยังอยู่คนใดคนหนึ่ง โดยเราเอาเสื้อผ้าอาหาร หรือเงินทองไปมอบให้แก่ท่าน หรือได้เลี้ยงดูท่านด้วยความจริงใจ ในอุปการคุณของท่าน ผู้นั้นจะได้ลาภยศหรือความรุ่งเรืองในชีวิตเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บางทีก็ภายในเดือนหนึ่ง หรือ ๒ - ๓ เดือนเท่านั้น ถ้าผู้นั้นมีลูกหลานๆ ก็จะเลี้ยงเขาตอบ

แต่ในทางตรงกันข้าม ผู้ใดเป็นคนอกตัญญูกตเวที ไม่รู้คุณท่านผู้มีพระคุณแก่ตน และไม่คิดตอบแทน เช่นไม่เลี้ยงดูมารดาบิดาของตน และซ้ำร้ายกลับด่าว่าทุบตี และเหยียดหยามมารดาบิดาของตน และปล่อยให้ท่านถึงความลำบาก เมื่อท่านได้ป่วยไข้และเข้าสู่วัยชรา คนเช่นนี้จะไม่มีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตได้เลย จะมีแต่ตกต่ำฝ่ายเดียว ถ้าจะเจริญบ้างก็ด้วยอำนาจกรรมดีในปางก่อนดลบันดาลมา แต่ก็ต้องเสื่อมไปในที่สุด เพราะบาปมากอันเกิดจากการประพฤติผิดต่อมารดาบิดาของตน ถ้าเขามีลูกหลานๆ ก็จะประพฤติผิดต่อเขา เหมือนอย่างที่เขาเคยประพฤติต่อพ่อแม่ของตน ด้วยเหตุนี้คนไทยส่วนใหญ่ไม่ว่าจะยากจนหรือร่ำรวย เราจะไม่ทอดทิ้งพ่อแม่ของเรา ฉะนั้น คนแก่เฒ่าในชาติของเราจึงได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี จากลูกหลานของตนมากกว่าคนแก่โลกตะวันตกซึ่งมักจะถูกทอดทิ้ง ความกตัญญูกตเวทีจึงมีผลมากต่อครอบครัวและสังคมไทยโดยส่วนรวม

ฉะนั้นความกตัญญูกตเวทีจึงเป็นลักษณะของคนที่น่ารัก และเป็นประโยชน์เกื้อกูลต่อสังคมโดยส่วนรวม

๘. เป็นคนไม่มีนิสัยริษยาเสียดสีผู้อื่น

คือใครก็ตามถ้าเป็นคนมีนิสัยริษยาผู้อื่น เห็นใครเขาได้ดีทนอยู่ไม่ได้ รู้สึกเร่าร้อนใจ ไม่สบายใจ ในความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าของผู้อื่น และพยายามกลั่นแกล้งกีดกันต่อผู้ที่ดีเหนือกว่าตน ไม่อยากให้เขาได้ดีเหมือนตน เช่นเห็นเขาสบายกว่าตน เขารวยกว่าตน เขามีทรัพย์สมบัติและเกียรติยศชื่อเสียงเหนือกว่าตน หรือไม่อยากให้เขาดีเสมอตน ก็มีความเร่าร้อนใจ ที่เรียกว่า อิจฉาตาร้อน ต้องการให้ผู้นั้นเสื่อมหรือไม่ได้รับสิ่งที่ดีนั้นเหนือตน หรือเหนือกว่าดีกว่าคนที่ตนรักใคร่นับถือ คนเช่นนี้ย่อมมีใจต่ำ และจิตใจที่ร้อนผ่าว เมื่อเห็นคนอื่นเขาได้ดี เป็นคนขาดความมุทิตา คือการพลอยยินดีเมื่อผู้อื่นเขาได้ดี

แท้จริง ความริษยาเป็นพิษต่อจิตใจของผู้ริษยาเอง คือทำให้ใจเร่าร้อนไม่สงบสุข แม้คนที่ถูกริษยาเขาจะทุกข์หรือไม่ก็ตาม แต่คนที่ริษยาก็มีความเดือดร้อนแล้ว เพราะสร้างไฟริษยาขึ้นเผาใจตนเอง บางคนไม่ใช่มีนิสัยริษยาอย่างเดียว แต่ยังมีนิสัยเสียดสีผู้อื่นอีกด้วย คือกระทำหรือพูดกระทบกระแทกให้คนอื่นเขาเจ็บใจ เพราะทนในความสุขความเจริญของผู้อื่นไม่ได้ คนเช่นนี้นอกจากตนเองจะเดือดร้อนแล้ว ก็ยังทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนด้วย และเป็นที่เกลียดชังของคนที่มีใจเป็นธรรมทั้งหลาย

แต่คนใดที่มีนิสัยไม่ริษยาเสียดสีผู้อื่น พลอยยินดีเมื่อผู้อื่นเขาได้ดี เช่นเห็นเขาสวย เขารวย เขามียศตำแหน่งฐานะดี ก็แสดงความยินดีต่อผู้นั้นด้วยความจริงใจ เหมือนอย่างพ่อแม่เห็นความเจริญรุ่งเรืองของลูกก็รู้สึกปลื้มใจยินดีอย่างเหลือล้น และด้วยความบริสุทธิ์ใจ คนเช่นนี้ย่อมได้รับความสุขใจ และเป็นที่รักใคร่ยกย่องของคนทั้งหลาย เพราะเป็นผู้มีใจสูงประกอบด้วยคุณธรรม ฉะนั้น การเป็นคนไม่มีนิสัยริษยาเสียดสีผู้อื่นจึงเป็นลักษณะของคนที่น่ารักประการหนึ่ง

๙. เป็นคนมีนิสัยสุขุมรอบคอบ ไม่ยกตนข่มท่าน

คือใครก็ตามไม่ว่าจะทำงาน จะลุกจะเดินจะเจรจาปราศรัย ก็ทำด้วยความนิ่มนวลสุขุมรอบคอบ มีนิสัยเรียบร้อยสำรวมละมุนละม่อม ไม่โฉ่งฉ่าง มีกิริยามารยาทน่าเลื่อมใส น่ารักน่าเอ็นดู ถ้าเป็นผู้ใหญ่น่าเคารพนับถือ น่าบูชา และ ทำงานด้วยความเรียบร้อย ไม่ประมาท ไม่ทำให้เกิดความเสียหาย ผลงานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เป็นที่พอใจของผู้พบเห็น ทั้งเป็นคนไม่อวดดื้อถือดี ไม่ยกตนข่มท่าน ให้เกียรติแก่คนทั้งหลาย คนเช่นนี้ย่อมเป็นที่เคารพรักใคร่นับถือ ยกย่องของคนทั่วไป ทั้งได้รับความไว้วางใจให้ทำงานที่ไว้วางใจ ที่มีเกียรติ หรือตำแหน่งสูง เพราะมีลักษณะนิสัยเป็นที่ประทับใจของคนทั่วไป

แต่ในทางตรงกันข้าม หากว่าผู้ใดมีนิสัยขาดความสุขุมรอบคอบ ไร้มรรยาท ทำงานด้วยความประมาทเลินเล่อ ทำให้การงานเสียหาย และมีนิสัยกดขี่ข่มเหงผู้อื่น ยกตนและพวกของตนว่าดีแต่ผู้เดียว แต่ข่มผู้อื่น แม้เขาจะดีก็พูดข่ม ไม่ให้กำลังใจ คนเช่นนี้จะไม่ค่อยมีใครอยากคบค้าสมาคม ไม่มีใครพอใจให้ทำงานหรือทำงานด้วย ฉะนั้น คนดีทั้งหลาย จึงพยายามหลีกเลี่ยงนิสัยที่ตรงกันข้ามนี้เสีย แล้วพยายามฝึกฝน ตนเองให้เป็นคนน่ารัก อันมีผลสะท้อนเป็นความสุข และความเจริญทั้งแก่ตนเองและสังคมโดยรวม

ท่านสาธุชนทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะเห็นได้แล้วว่า คนที่มีลักษณะนิสัยน่ารักนั้น ย่อมเป็นที่รักของคนทั้งหลาย นำความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองมาแก่ตนและสังคมส่วนรวมได้อย่างไร ส่วนคนที่มีลักษณะนิสัยตรงข้าม ย่อมเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งหลาย และนำความเสื่อมมาแก่ตนและสังคมโดยรวมอย่างไร เมื่อทราบชัดเช่นนี้ ก็พึงฝึกฝนอบรมตนให้มีลักษณะนิสัยที่น่ารัก ๙ ประการ คือ ไม่เป็นคนอวดดี ไม่พูดมากจนเขาเบื่อ เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว พูดจาอ่อนหวาน เป็นคนเสียสละ ไม่เอาเปรียบผู้อื่น เป็นคนกตัญญูกตเวที เป็นคนไม่มีนิสัยริษยาเสียดสีผู้อื่น และเป็นคนมีนิสัยสุขุมรอบคอบ ไม่ยกตนข่มท่าน ก็จะเป็นที่รักใคร่ชอบใจของคนทั้งหลาย ซึ่งย่อมเป็นไปเพื่อความสุข ความเจริญทั้งแก่ตนเองและสังคมโดยส่วนรวม ไม่เสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา

ปาฐกถาธรรมในวันนี้ เห็นว่าพอสมควรแล้ว ขอยุติด้วยเวลาเพียงเท่านี้

ในที่สุดนี้ ขออำนวยพรให้ท่านสาธุชนผู้ฟังทุกท่าน จงประสบแต่ความสุข ความเจริญ เป็นที่รักใคร่ เคารพ นับถือ ของคนทั้งหลาย ด้วยการสร้างลักษณะของคนที่น่ารัก ๙ ประการ ดังกล่าวมาแล้วโดยทั่วกันเทอญ.

ขออนุญาต นำมาเผยแผ่ให้เพื่อนๆๆ ชาว อภิโชค..ได้อ่าน สาธุ สาธุ สาธุ พระคุณเจ้า

_/|\_ _/|\_ _/|\_

คัดลอกจาก: นิตยสารธรรมจักษุ

ปีที่ ๗๗ ฉบับที่ ๕ ประจำเดือน กันยายน ๒๕๓๖


[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

  • พลังน้ำใจ: 15627
ตอบกลับ #4 24 สิงหาคม 2009, 15:18:17น.
 *^% *^% *^%ขอบคุณคะ  ป้าบัว   *^% *^%
ทำดีต้องได้ดีซินะ 

หวยซอง เลขเด็ด อภิโชควิเคราะห์เลขรวย หวยรัฐบาล : Apichoke.net

Re: ลักษณะของคนที่น่ารัก
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2009, 15:18:17น. »

สมาชิกวัยรุ่น **
  • พลังน้ำใจ: 11
ตอบกลับ #5 04 กันยายน 2009, 21:17:15น.
ขอบคุณค๊าป้าบัววว  *^% *^% *^% .K. .K.
[size=22]สิ่งที่น่าเศร้าในชีวิต คือการพบคนที่มีความหมายอย่างมากสำหรับเรา แต่มาค้นพบภายหลังว่า เราไม่ได้ถูกกำหนดมาเพื่อสิ่งนั้น และจะต้องปล่อยให้ผ่านพ้นไป[/size]

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #6 22 สิงหาคม 2011, 22:51:29น.
bua
สมาชิกกิตติมศักดิ์
Sr. Member

พลังน้ำใจ: 608


 k(* k(* k(*
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

 

เว็บไซต์ในเครือข่ายอภิโชค : apichokeonlin.com | apichoke.net | apichoke.biz | apichoke.me | apichoke.org | apichoke.info
"ศาสตร์ของการคำนวณหวย สถิติหวยความน่าจะเป็น บนเว็บนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน-นักคำนวณ และบุคคลทั่วไปตลอดจนเลขจากไสยศาสตร์ต่างๆ การที่ใครจะถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือถูกหวย รวยด้วยหวย ก็เป็นเพียงแต่ การเสี่ยงโชค เสี่ยงดวง เท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ และไม่ควรงมงาย หากต้องการเสี่ยงโชค ซื้อหวย เล่นหวย ก็ขอให้ เสี่ยงโชคแต่พอเพียงตามกำลังของตนเอง อย่าซื้อเกินกำลังอาจทำให้เดือนร้อนได้"
คำเตือน : อย่าหลงเชื่อหากมีผู้อ้างตนเป็นอาจารย์ดังสามารถให้หวยถูก100%หรือให้ถูกทุกงวดแน่นอน หรืออวดอ้างว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่กองสลาก แล้วเรียกเก็บเงินจากท่าน
ข้อมูลในเว็บนี้ใช้ประกอบเสี่ยงโชคสำหรับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น ไม่สนับสนุนหวยที่ผิดกฏหมาย