ตอบกลับ #6 28 กรกฎาคม 2024, 13:53:40น.
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (วัดภูเขาทอง)
เริ่มต้นทริปกันที่ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือที่เรารู้จักกันในชื่อวัดภูเขาทอง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมาที่วัดนี้ สิ่งที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือการขึ้นไปชมวิวสวย ๆ และรับลมเย็น ๆ บน‘เจดีย์ภูเขาทอง’ หากใครที่อยากจะหาอะไรรองท้อง รอบ ๆ วัดก็มีร้านอร่อยขึ้นชื่ออยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้าน ‘ทิพย์สมัย ผัดไทยประตูผี’ อันโด่งดัง หรือ ‘ร้านเจ๊ไฝ’ ที่การันตีความอร่อยด้วยรางวัลมิชลินสตาร์ถึง 6 ปีซ้อน
วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
ขยับมาต่อกันที่อีกหนึ่งวัดดังในกรุงเทพฯ ที่มีไฮไลต์เป็น ‘เสาชิงช้า’ อันเก่าแก่ ตั้งอยู่คู่เมืองกรุงมานานกว่า 200 ปี หลังจากถ่ายรูปเช็กอินกับเสาชิงช้าแล้ว เมื่อเข้ามาในวัดก็จะได้พบกับพระวิหารหลวง ที่มี ‘พระศรีศากยมุนี’ พระประธานสำริดที่องค์ใหญ่ที่สุดในสมัยสุโขทัย ให้เราได้กราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดชนะสงคราม ราชวรมหาวิหาร
มาถึงวัดที่ 3 ของทริป ซึ่งเป็นวัดดังในกรุงเทพฯ ที่สายมูทุกคนต้องรู้จัก! ด้วยชื่อของวัดที่บ่งบอกถึงชัยชนะ ทำให้หลายต่อหลายคนมักจะแวะเวียนมากราบไหว้สักการะกันอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งนอกจากชื่ออันเป็นมงคลแล้ว สิ่งที่น่าสนใจก็คือ วัดนี้ยังเป็นวัดที่ขึ้นชื่อในเรื่องของสถาปัตยกรรมอันเลอค่า รับรองว่าหากใครที่ชื่นชอบในงานฝีมือ จะต้องประทับใจอย่างแน่นอน
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)
สำหรับวัดนี้ เป็นวัดที่เปรียบได้กับแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง และถือว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดของการมาเที่ยวกรุงเทพฯ เลยทีเดียว ในแต่ละวันจะมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติแวะเวียนมาเยี่ยมชมอย่างเนืองแน่น นอกจากจะได้กราบไหว้ ‘พระแก้วมรกต’ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทยแล้ว เรายังได้เยี่ยมชมงานศิลปกรรมหลากหลายรูปแบบที่ทั้งงดงามและเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์อีกด้วย
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
เข้าสู่ครึ่งทางของทริปไหว้พระกรุงเทพฯ ฉบับสายมู เราก็เดินทางมาถึง วัดโพธิ์ ที่มี ‘พระพุทธไสยาส’ พระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ประดิษฐานอยู่ ทั้งยังเป็นวัดที่โดดเด่นด้วยมหาเจดีย์ขนาดใหญ่ ที่ประดับประดาด้วยกระเบื้องเคลือบหลากสีสัน ให้เราได้เก็บภาพสวย ๆ ไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งหากใครที่เริ่มหิวแล้วล่ะก็ รอบ ๆ วัดก็มีร้านอร่อยให้เลือกชิมอยู่มากมาย ทั้งได้เติมพลังด้วยอาหารอร่อย ๆ แล้วยังได้ชมวิววัดอรุณฯ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันแบบชัด ๆ เลยทีเดียว
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
หลังจากเติมพลังแล้ว เราก็มาเริ่มครึ่งหลังของทริปกันที่อีกหนึ่งวัดดังในกรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกที่อยู่มานานกว่าร้อยปี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างสไตล์ไทยและตะวันตก บอกเลยว่ากิจกรรมที่ไม่ควรพลาดก็คือการเช่าชุดไทยใส่ถ่ายรูปบริเวณรอบ ๆ วัด รับรองว่าจะได้รูปสุดประทับใจ แบบหาที่ไหนไม่ได้แน่นอน!
วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร
มาต่อกันที่วัดที่ 7 ของทริป ที่สายมูนิยมแวะเวียนมาไหว้ด้วยความเชื่อว่าจะช่วยให้มีมิตรภาพที่ดี และมีโชคลาภหลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย ทั้งยังได้ชื่นชมความงดงามของศิลปะที่ผสมผสานเสน่ห์ของไทย-จีนไว้ได้อย่างลงตัว และที่พลาดไม่ได้ก็คือ ‘หอระฆัง’ ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ที่เชื่อกันว่าหากได้มาเคาะระฆัง ก็จะช่วยให้เรามีชื่อเสียงโด่งดัง เหมือนกับเสียงระฆังที่ดังกังวานนั่นเอง
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง)
มาถึงอีกหนึ่งวัดดังในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวต่างชาติไม่แพ้กับวัดพระแก้ว ด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรม ‘พระปรางค์ใหญ่วัดอรุณ’ ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ประดับประดาด้วยกระเบื้องเคลือบและถ้วยชามเบญจรงค์อันเก่าแก่ เป็นวัดสำคัญที่ไม่ว่าจะเป็นสายมูหรือนักท่องเที่ยวก็ต้องมาเยือนให้ได้สักครั้ง
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
ปิดท้ายทริปไหว้พระกรุงเทพฯ ฉบับสายมูกันที่วัดระฆัง ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเชื่อกันว่าหากได้มากราบไหว้ที่วัดนี้ จะช่วยให้มีชื่อเสียงโด่งดังตลอดปี เหมือนกับเสียงระฆังอันไพเราะ หลังจากที่ไหว้พระแล้ว เราก็สามารถเดินไปกินของอร่อย ๆ ที่ ‘ตลาดวังหลัง’ กันต่อได้เลย! เป็นการจบทริปที่ทั้งอิ่มท้อง อิ่มใจ และได้ความทรงจำดี ๆ กลับบ้านไปเพียบ!ขอบคุณเจ้าของข้อมูล และ แหล่งที่มาของข้อมูลค่ะ
บันทึกการเข้า