"หวยซอง เลขเด็ด เขียนโดยสาธารณชน เป็นการเสนอแนะเพื่อเสี่ยงโชคซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกกฎหมายเท่านั้น ไม่มีการขายหวยทุกชนิด และ ไม่มีใครทราบว่าหวยจะออกตัวไหน โปรดใช้วิจารณญาณ"

เรื่อง: ความรัก
 
 179807

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

  • พลังน้ำใจ: 2803
ตอบกลับ #420 28 มิถุนายน 2010, 11:26:55น.
“รักให้เป็น” จิตวิทยาพื้นฐานในบ้าน
โดย ดร.นวลศิริ เปาโรหิตย์



รากฐานสำคัญของการสร้างคนคุณภาพให้กับสังคม มีสิ่งที่จะบ่งบอกถึงการมีคุณภาพได้นั้น เริ่มต้นคงต้องมาจาก “ความรัก” แต่การจะแสดงออกของความรัก ก็ต้องเป็นไปในทางที่ถูกต้องด้วย โดยเฉพาะคุณคนที่เป็นพ่อหรือเป็นแม่

นั่นคือสิ่งที่เราอยากบอกคนที่เป็นพ่อหรือแม่ทุกคนว่า “รักที่มีคุณภาพ คือต้องรักให้เป็น”


หนังสือจิตวิทยาชีวิตครอบครัว โดย ดร.นวลศิริ เปาโรหิตย์ ได้ข้อคิดไว้อย่างน่าสนใจ และเราอยากจะนำข้อคิดบางอย่างมาฝากกัน เพื่อให้คุณสามารถนำไปใช้เปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงตัวเอง และสามารถสร้างความสุขในบ้านได้
o   ทำตัวเป็น “ต้นแบบ” ให้กับลูก โดยเฉพาะการสร้างวินัยที่ไม่ “ตึง” หรือ “หย่อน” เกินไปแต่ใช้ความเข้าใจ
     และใช้เหตุผล
o   รู้จักให้เกียรติและยอมรับในกันและกัน เคารพในสิทธิส่วนบุคคล ไม่ว่าในฐานะสามี ภรรยา พ่อ หรือแม่
o   มีเวลาให้กับคนที่คุณรักเสมอ เป็นการเติมความรักความอบอุ่นที่ดีที่สุด
o   เมื่อมีใครเกิดทำผิดพลาด ควรพยายามทำความเข้าใจว่า ทุกคนคือมนุษย์ธรรมดาที่สามารถทำผิดพลาดได้
     และต้องยอมรับในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
o   อย่าใช้ความรักที่มีเพียงเพื่อเติมความ “ขาด” ทางใจ เช่น พ่อแม่ไม่ควรพยายามให้ลูกเป็นอย่างที่ตัวเอง
     อยากเป็นหรือฝันไว้ แต่ควรพยายามส่งเสริมลูกไปในทางที่พวกเขาเลือกด้วยตัวเอง
o   เมื่อมีการทะเลาะกัน การแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือใช้สติ จับเข่าคุยกัน และช่วยกันแก้ไขปัญหา
o   หมั่นเติมอารมณ์ขัน มีจิตเมตตา และให้อภัยกันเสมอ


การรักอย่างมีเหตุผลนั้นสำคัญ แต่การจะรักอย่างมีเหตุผลได้นั้นก็ต้องเริ่มจากตัวคุณเอง ไม่ว่าคุณจะเป็นพ่อหรือแม่ คุณคือคนที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในการสร้างความสุขให้เกิดขึ้นได้ในบ้าน อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อตัวคุณเอง


<a href="http://www.madoosi.com/up_images/201007/4d220b899f966ca23c5dd66a786dc033_1.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.madoosi.com/up_images/201007/4d220b899f966ca23c5dd66a786dc033_1.swf</a>
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 กรกฎาคม 2010, 09:25:39น. โดย noinoinoi

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 18068
ตอบกลับ #421 29 มิถุนายน 2010, 02:06:16น.

h*[ สวัสดีค่ะคุณnoinoinoi คุณnatjang h*[ k(*
แวะเข้ามาบอกว่าคิดถึงและเป็นกำลังใจให้กันทุกๆวันค่ะ
คืนนี้นอนหลับฝันดีนะนะ  p]| p]|
k(* k(* h*[ h*[

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #422 29 มิถุนายน 2010, 06:26:39น.
สวัสดีตอนเช้าครับ  h*[ 648
งานเป็นส่วนหนึ่งสำคัญของชีวิต
เราจะมีสุขภาพกายและใจดีขึ้น
เพราะงานเป็นเครื่องมือบริหารกายและใจให้ดีที่สุด

เราจะตื่นและลุกขึ้นอย่างแจ่มใส
เพราะเรามีจุดหมายที่จะไปและจะทำในสิ่งที่เราชอบ

เราจะค้นพบตัวเองและรู้จักผู้อื่นได้ด้วยงาน
เพราะงานจะเปิดเผยธาตุแท้ของมนุษย์
รักษาสุขภาพด้วยนะครับ เป็นกำลังใจให้เสมอ ขอบคุณครับ


<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

  • พลังน้ำใจ: 2803
ตอบกลับ #423 30 มิถุนายน 2010, 11:29:35น.
รักไม่มีวันเปลี่ยนแปลง


ฉันเกิดในหมู่บ้านบนภูเขาที่ห่างไกลผู้คน  แต่ละวันพ่อแม่ของฉันต้องพรวนดินในไร่ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ ฉันมีน้องชายอยู่หนึ่งคน อายุน้อยกว่าฉัน 3 ปี  วันหนึ่งฉันขโมยเงินของพ่อเพื่อไปซื้อผ้าเช็ดหน้าที่เพื่อนๆ ของฉันมีกัน จากนั้นพ่อก็รู้เรื่อง พ่อให้ฉันกับน้องคุกเข่าหันหน้าเข้าหากำแพง  โดยที่ในมือพ่อมีก้านไม่ไผ่อยู่หนึ่งก้าน  "ใครขโมยเงินไป" พ่อตวาด ฉันกลัวมาก ไม่กล้าพูดอะไรออกไป น้องชายฉันก็เช่นกัน พ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า "ก็ได้ ในเมื่อไม่มีคนรับสารภาพก็ต้องโดนลงโทษทั้งคู่นั่นล่ะ"  พ่อชูก้านไม้ไผ่ในมือขึ้น ทันใดนั้น น้องชายของฉันก็ลุกขึ้นคว้าข้อมือของพ่อไว้....แล้วพูดว่า "ผมขโมยเองครับ"  ก้านไม้ไผ่ก้านนั้นได้กระหน่ำลงบนหลังของน้องของฉันอย่างต่อเนื่อง  พ่อโกรธมาก พ่อตีน้องของฉันไม่หยุด จนพ่อหอบด้วยความเหนื่อย พ่อนั่งลงบนเก้าอี้และด่าว่าน้องชายของฉัน  "ของคนในบ้านแกเอง แกยังขโมยได้ต่อไปแกจะทำชั่วอะไรอีก แกน่าจะโดนตีให้ตาย ไอ้หัวขโมย"  คืนนั้น ฉันกับแม่กอดน้องชายของฉันไว้ หลังของน้องมีแผลเต็มไปหมด แต่เขาไม่ได้ร้องไห้แม้แต่น้อย กลางดึกคืนนั้น ฉันนอนร้องไห้เสียงดัง และนานมาก น้องเอามือเล็กๆ ของเขามาปิดปากฉันไว้ แล้วพูดว่า  " พี่ครับ ไม่ต้องร้องไห้นะมันผ่านไปแล้ว" ยังไงฉันก็อดที่จะเกลียดตัวเองไม่ได้ที่ไม่มีความกล้าจะบอกความจริงกับพ่อ

หลายปีผ่านไป…
แต่เหมือนกับว่าเหตุการณ์มันเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง ฉันไม่อาจลืมคำพูดของน้องชายตอนที่เขาปกป้องฉันได้เลย ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 8ปี ส่วนฉันอายุ 11ปี... เมื่อตอนที่น้องชายของฉันใกล้จบ ม.ต้น เขาได้รับการตอบรับจากโรงเรียน ม.ปลาย ว่าเขาสอบได้ ในขณะที่ฉันซึ่งใกล้จบ ม.ปลาย ก็ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยของจังหวัดเช่นกัน


คืนนั้น พ่อได้นั่งสูบบุหรี่อยู่ที่สวนหลังบ้าน  ฉันแอบได้ยินพ่อพูดว่า "ลูกเราทั้งคู่เรียนดีเรียนดีมากนะ"  แม่ซึ่งนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ข้างๆ พ่อ ได้พูดว่า "แล้วเราจะส่งเสียลูกทั้งคู่ได้อย่างไรในเมื่อเราก็ไม่ค่อยมีเงิน"

ทันใดนั้น น้องชายของฉันได้เดินเข้าไปหาพ่อ แล้วพูดว่า  " ผมไม่ต้องการเรียนต่อผมอ่านหนังสือมามากพอแล้ว" พ่อเหวี่ยงมือตบลงที่แก้มของน้องของฉัน "ทำไมถึงคิดโง่ๆ อย่างนี้ ต่อให้พ่อต้องไปเป็นขอทานข้างถนน พ่อก็จะส่งแกทั้งคู่เรียนจนจบให้ได้"

คืนนั้นทั้งคืน พ่อได้เดินไปตามบ้านต่างๆ  ทั่วทั้งหมู่บ้าน....เพื่อขอยืมเงิน  ฉันค่อยๆ เอามือประคบแก้มบวมๆ ของน้องชายเบาๆ และคิดว่า "ต้องให้น้องได้เรียนต่อไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจหลุดพ้นชีวิตลำบากเช่นนี้ไปได้" แต่ในขณะเดียวกันฉันก็ไม่อาจล้มเลิกความคิดอยากจะเรียนต่อไปได้

ใครจะรู้ได้ .......
วันต่อมาในตอนเช้ามืด น้องชายของฉันได้ออกจากบ้านไปพร้อมทั้งเสื้อผ้าติดตัวเพียงไม่กี่ชิ้นและถั่วเพียงเล็กน้อยเพื่อประทังความหิวก่อนไปเขาได้ทิ้งข้อความไว้ใต้หมอนของฉัน ขณะฉันกำลังหลับ "พี่ครับ การจะเข้ามหาวิทยาลัยได้ ไม่ใช่ง่ายๆ นะ ....  ผมจะไปหางานทำ...แล้วจะส่งเงินมาให้พี่" ฉันนั่งอยู่บนเตียง อ่านข้อความของน้องชายด้วยน้ำตานองหน้า .......  ฉันร้องไห้จนเสียงแหบแห้งไป  ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 17 ปี ส่วนฉันอายุ 20 ปี .....


ด้วยเงินที่พ่อยืมมาจากคนในหมู่บ้าน รวมกับเงินที่น้องชายของฉันได้รับเป็นค่าจ้างมาจากการทำงานเป็นกรรมกรแบกหามที่ไซท์ก่อสร้างท่าเรือ .......  ฉันจึงสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้จนถึงปี 3 วันหนึ่งขณะที่ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องพัก เพื่อนร่วมห้องของฉันได้เข้ามาบอกว่า "มีชาวบ้านมาหาเธอ...อยู่ข้างนอกแน่ะ"  ทำไมชาวบ้านถึงมาหาฉันล่ะ ???  ฉันเดินออกไปแล้วมองเห็นน้องชายของฉันยืนอยู่ ตัวของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นปูนและทรายจากงานก่อสร้าง  ฉันถามเขาว่า "ทำไมไม่บอกเพื่อนพี่ไปว่าเป็นน้องชายพี่ล่ะ" น้องชายของฉันตอบยิ้มๆ ว่า "ก็ดูผมสิสกปรกมอมแมมออกอย่างนี้...ขืนบอกว่าเป็นน้องพี่ เพื่อนๆ ก้อได้หัวเราะเยาะพี่กันพอดี" ฉันค่อยๆ เอื้อมมืออันสั่นเทาไปปัดฝุ่นให้น้อง และพยายามพูดด้วยเสียงเครือๆในลำคอ "พี่ไม่สนใจว่าใครจะพูดยังไง เธอเป็นน้องของพี่ ไม่ว่าเธอจะดูเป็นอย่างไรก็ตาม"

จากนั้น น้องของฉันได้ล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง เป็นกิ๊บหนีบผมรูปผีเสื้อ  เขาติดกิ๊บให้ฉัน แล้วพูดว่า "ผมเห็นสาวๆ ในเมืองเค้าติดกัน ผมเลยอยากให้พี่ติดบ้าง" ฉันหมดเรี่ยวแรงลงในทันใด ดึงน้องชายเข้ามาสวมกอดและร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลานาน  ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 20 ปี ส่วนฉันอายุ 23 ปี

วันที่ฉันพาแฟนหนุ่มของฉันมาที่บ้านเป็นครั้งแรก ฉันสังเกตเห็นว่า หน้าต่างบ้านที่เคยแตกไป ได้ถูกซ่อมเรียบร้อยแล้ว เมื่อเข้าไปในบ้านก็เห็นว่าบ้านสะอาดขึ้นมาก หลังจากที่แฟนของฉันกลับไป ฉันพูดกับแม่ว่า "แม่ไม่ต้องเสียเงินเพื่อทำความสะอาดบ้านกับซ่อมกระจกเพียงเพราะหนูจะพาแฟนมาที่บ้านหรอกนะคะ" แม่ยิ้ม แล้วพูดว่า " แม่ไม่ได้จ้างหรอก...น้องชายลูกต่างหาก วันนี้เค้าขอเลิกงานเร็วเพื่อกลับมาทำความสะอาดบ้าน ลูกยังไม่เห็นมือน้องหรอกเหรอ น้องโดนกระจกบาดตอนกำลังเปลี่ยนกระจกบานใหม่น่ะ" 

ฉันรีบเข้าไปหาน้องที่ห้องนอนของเขา ฉันรู้สึกเหมือนถูกเข็มนับร้อยเล่มทิ่มลงกลางใจเมื่อได้เห็นบาดแผลบนมือ ฉันจับมือน้องเอาไว้อย่างเบามือที่สุด "เจ็บมากไหม"  ฉันถาม  "ไม่เจ็บสักหน่อย พี่ก็รู้นี่ผมทำงานก่อสร้างนะ วันๆ มีหินตกมาใส่เท้าผมเต็มไปหมด แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมคิดเลิกทำงานหรอกนะ และ..." น้องชายของฉันยังพูดไม่จบประโยค แต่ก็ต้องหยุดพูด เพราะฉันหันหน้าหนีเขา น้ำตาไหลอาบหน้าของฉันอีกครั้ง "เพราะพี่เป็นพี่สาวของผมนี่ครับ"  ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 23 ปี ส่วนฉันอายุ 26 ปี...

หลังจากนั้น ฉันก็ได้แต่งงานและย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง หลายครั้งที่สามีของฉันชักชวนให้พ่อแม่ของฉันย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองด้วยกัน... แต่ท่านทั้งสองก็ปฏิเสธ ท่านบอกว่า ท่านเคยย้ายออกจากหมู่บ้านครั้งหนึ่ง แต่เมื่อออกไปแล้ว ท่านไม่รู้จะทำอะไรดี จึงได้ย้ายกลับเข้ามาใช้ชีวิตในหมู่บ้านตามเดิม น้องชายของฉันก็ไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้เขาและพ่อแม่ย้ายออกไป ... เขาบอกกับฉันว่า "พี่คอยอยู่ดูแลพ่อและแม่ของสามีพี่ทางนั้นเถอะผมจะดูแลพ่อและแม่ทางนี้เอง"

สามีฉันได้ขึ้นเป็นประธานของบริษัทของครอบครัว
เราทั้งคู่อยากให้น้องชายของฉันเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการบริษัท ..  แต่น้องชายของฉันก็ไม่รับตำแหน่งนี้ เขาขอเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานธรรมดา  วันหนึ่ง น้องชายของฉันต้องปีนบันไดขึ้นไปซ่อมสายเคเบิล และตกลงมาเพราะโดนไฟดูด เขาถูกรีบหามส่งโรงพยาบาล  ฉันและสามีรีบไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล  น้องชายของฉันขาหักต้องเข้าเฝือกที่ขา  ... ฉันโกรธมาก จึงตวาดน้องไปว่า "ทำไมถึงไม่ยอมรับตำแหน่งผู้จัดการ หา!!!  ถ้าเป็นผู้จัดการก็จะได้ไม่ต้องมาทำงานเสี่ยงๆ อย่างนี้  ดูตัวเองซิ...เจ็บเจียนตายอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่ยอมฟังพี่บ้าง"


คำตอบจากปากน้องของฉันรวมถึงสีหน้าเคร่งเครียด
ยังยืนยันความคิดเดิมของเขา  "พี่ลองคิดถึงพี่เขยสิครับ พี่เขยเพิ่งจะได้เป็นประธาน ส่วนผมมันการศึกษาต่ำถ้าผมได้เป็นผู้จัดการ คงจะมีเสียงนินทาว่าร้ายเต็มไปหมด" น้ำตาปริ่มดวงตาของฉันรวมทั้งสามีของฉันด้วย ..... ฉันบอกกับน้องว่า "แต่ที่เธอไม่ได้เรียนต่อก็เพราะพี่..."  "ทำไมต้องพูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วด้วยล่ะครับ" น้องชายของฉันจับมือฉันไว้ ตอนนั้นน้องของฉันอายุ  26 ปี ส่วนฉันอายุ 29 ปี...


เมื่อน้องชายของฉันอายุได้ 30 ปี  เขาได้แต่งงานกับผู้ห¬ิงในที่ทำงานที่เดียวกัน ในงานแต่งงาน ประธานในงานได้ถามน้องชายของฉันว่า "ใครคือคนที่คุณรักที่สุดในชีวิตนี้"  น้องชายของฉันตอบอย่างไม่ลังเล "พี่สาวของผมครับ" .....  และเขาก็เล่าเรื่องราวที่แม้แต่ฉันยังจำไม่ได้ "ตอนผมอยู่โรงเรียนประถม โรงเรียนอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง เราสองคนพี่น้องต้องใช้เวลาถึง 2 ชม. เพื่อเดินไปเรียน...และเดินกลับบ้าน วันหนึ่งในวันที่หิมะตกหนักผมทำถุงมือหายไปข้างหนึ่ง  พี่สาวผมจึงได้ให้ถุงมือของเธอข้างหนึ่ง และเธอก็ใส่ถุงมือเพียงข้างเดียวเดินเป็นระยะทางไกล  เมื่อเรากลับถึงบ้านมือเธอบวมแดงเพราะอากาศหนาว เธอไม่สามารถจับช้อนทานข้าวได้ด้วยซ้ำ .......นับจากวันนั้น ผมสาบานกับตัวเองว่าตลอดชีวิตของผม ผมจะดูแลพี่สาวของผมให้ดีและจะทำดีกับเธอ" เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่ว สายตาทุกคู่ของแขกเหรื่อหันมาจับจ้องที่ฉัน คำพูดจากปากฉันออกมาอย่างยากลำบาก ....... "ในโลกใบนี้คนเดียวที่ฉันรู้สึกขอบคุณที่สุด คือน้องชายของฉันค่ะ" ในวาระที่มีความสุขที่สุดเช่นนี้ น้ำตาได้รินไหลออกมาจากสองตาของฉันอีกครั้ง...

จงรัก และห่วงใยคนที่คุณรักในทุกๆ วันในชีวิตของคุณและเขา คุณอาจจะคิดว่าสิ่งที่คุณทำให้ใครสักคนเป็นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆ แต่สำหรับคนคนนั้นอาจจะมีความหมายมากอย่างคาดไม่ถึง .. ไม่ว่าเขาคนนั้นจะคือ พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ คนรัก เพื่อน หรือแม้คนที่คุณไม่รู้จัก ก็ตาม

จบบริบูรณ์....

ปล. ปัจจุบันผู้เป็นพี่สาวอายุ 86 ปี ตำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารให้บริษัทฮุนได และในเครือกว่า 20 บริษัท  น้องชายอายุ 83 ปี เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเล็กๆ ที่มีชื่อเป็นภาษาเกาหลีว่า "ซัมซุง"

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #424 30 มิถุนายน 2010, 14:44:16น.
สวัสดีครับ เป็นกำลังใจให้เสมอ  h*[ 659

<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

หวยซอง เลขเด็ด อภิโชควิเคราะห์เลขรวย หวยรัฐบาล : Apichoke.net

Re: ความรัก
« ตอบกลับ #424 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2010, 14:44:16น. »

สมาชิกระดับอาจารย์ C6 *****
  • พลังน้ำใจ: 51775
ตอบกลับ #425 30 มิถุนายน 2010, 22:00:42น.
  แวะมาส่ง "กุหลาบสีน้ำเงิน Blue Rose"
ให้คุณ noinoinoi และสมาชิกที่เข้ามาเยี่ยมครับ



ความหมายคือ ...
ดอกไม้แห่งความสมหวัง  ดอกไม้นำความสุข
เช่นเดียวกับ "นกสีน้ำเงิน"




พรุ่งนี้ขอให้ทุกคนโชคดี ถูกหวย ร่ำรวย ร่ำรวย และมีความสุข
<a href="http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf" target="_blank" class="new_win">http://www.swfcabin.com/swf-files/1379918811.swf</a>

  • พลังน้ำใจ: 11064
ตอบกลับ #426 01 กรกฎาคม 2010, 04:34:00น.
?6,> ?6,> ?5,> h*[คุณหน่อย k(*
 ?1,> ?2,> ?4,> h*[คุณcane k(*
 ?2,> 0,> ?8,> ?4,> h*[คุณsonic x 5<*
 J@: J@:ขอให้รวยๆค่ะ J@: J@:

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 18068
ตอบกลับ #427 02 กรกฎาคม 2010, 02:08:42น.
สวัสดีค่ะ h*[
ขอบคุณสำหรับทุกข้อมูล และเป็นกำลังใจให้กันทุกๆวันค่ะ

  • พลังน้ำใจ: 11064
ตอบกลับ #428 02 กรกฎาคม 2010, 02:47:09น.
คุณหน่อย h*[+1= ?6,> ?6,> ?6,>
คุณsonic x h*[+1= ?2,> ?1,> ?1,> 0,>
 J@: k(* k(* J@:

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 18068
ตอบกลับ #429 02 กรกฎาคม 2010, 02:53:56น.
คุณหน่อย h*[+1= ?6,> ?6,> ?6,>
คุณsonic x h*[+1= ?2,> ?1,> ?1,> 0,>
 J@: k(* k(* J@:


ขออนุญาตคุณnoinoinoi
 h*[ +1ให้คุณnatjung แล้วนะคะ ตอนนี้กดไม่ได้น่ะ ต้องรอก่อน แหะๆๆ  p]|คิดถึงเช่นกันนะคะ h*[
กะลังจะไปตามที่ดอทคอมพอดีเลยอ่ะ อิอิ p]| p]| p]| ]E[ ]E[

  • พลังน้ำใจ: 11064
ตอบกลับ #430 03 กรกฎาคม 2010, 15:20:36น.
คุณหน่อย h*[+1= ?6,> ?6,> ?6,>
คุณsonic x h*[+1= ?2,> ?1,> ?1,> 0,>
 J@: k(* k(* J@:


ขออนุญาตคุณnoinoinoi
 h*[ +1ให้คุณnatjung แล้วนะคะ ตอนนี้กดไม่ได้น่ะ ต้องรอก่อน แหะๆๆ  p]|คิดถึงเช่นกันนะคะ h*[
กะลังจะไปตามที่ดอทคอมพอดีเลยอ่ะ อิอิ p]| p]| p]| ]E[ ]E[

5<* 5<* 5<*

  • พลังน้ำใจ: 11064
ตอบกลับ #431 03 กรกฎาคม 2010, 15:23:19น.
คุณหน่อย+ ?1,> h*[ ?6,> ?6,> ?9,> J@:
คุณsonic x+ ?1,> h*[ ?2,> ?1,> ?4,> ?3,>
 k(* k(* J@: J@:

  • พลังน้ำใจ: 6372
ตอบกลับ #432 03 กรกฎาคม 2010, 20:00:35น.
 h*[ ?6,> ?7,> 0,>  หวัดดีค่ะ แวะมาทักทายคนน่ารักนะค่ะ     k(* k(* k(* p]| p]|



ชีวิตนี้ไม่มีอะไร.แค่มีเธอทุกวัน...ฉันก็พอใจ..

  • พลังน้ำใจ: 2803
ตอบกลับ #433 03 กรกฎาคม 2010, 20:28:35น.

คุณ sonic   ?2,> ?1,> ?4,> ?7,>
คุณ cane   ?1,>  ?1,> ?5,> ?4,>
คุณ ตาคม    ?6,> ?8,> ?6,>
คุณ นัท       ?1,> 0,> ?1,>

  • พลังน้ำใจ: 19270
ตอบกลับ #434 03 กรกฎาคม 2010, 20:47:51น.
รักไม่มีวันเปลี่ยนแปลง


ฉันเกิดในหมู่บ้านบนภูเขาที่ห่างไกลผู้คน  แต่ละวันพ่อแม่ของฉันต้องพรวนดินในไร่ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ ฉันมีน้องชายอยู่หนึ่งคน อายุน้อยกว่าฉัน 3 ปี  วันหนึ่งฉันขโมยเงินของพ่อเพื่อไปซื้อผ้าเช็ดหน้าที่เพื่อนๆ ของฉันมีกัน จากนั้นพ่อก็รู้เรื่อง พ่อให้ฉันกับน้องคุกเข่าหันหน้าเข้าหากำแพง  โดยที่ในมือพ่อมีก้านไม่ไผ่อยู่หนึ่งก้าน  "ใครขโมยเงินไป" พ่อตวาด ฉันกลัวมาก ไม่กล้าพูดอะไรออกไป น้องชายฉันก็เช่นกัน พ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า "ก็ได้ ในเมื่อไม่มีคนรับสารภาพก็ต้องโดนลงโทษทั้งคู่นั่นล่ะ"  พ่อชูก้านไม้ไผ่ในมือขึ้น ทันใดนั้น น้องชายของฉันก็ลุกขึ้นคว้าข้อมือของพ่อไว้....แล้วพูดว่า "ผมขโมยเองครับ"  ก้านไม้ไผ่ก้านนั้นได้กระหน่ำลงบนหลังของน้องของฉันอย่างต่อเนื่อง  พ่อโกรธมาก พ่อตีน้องของฉันไม่หยุด จนพ่อหอบด้วยความเหนื่อย พ่อนั่งลงบนเก้าอี้และด่าว่าน้องชายของฉัน  "ของคนในบ้านแกเอง แกยังขโมยได้ต่อไปแกจะทำชั่วอะไรอีก แกน่าจะโดนตีให้ตาย ไอ้หัวขโมย"  คืนนั้น ฉันกับแม่กอดน้องชายของฉันไว้ หลังของน้องมีแผลเต็มไปหมด แต่เขาไม่ได้ร้องไห้แม้แต่น้อย กลางดึกคืนนั้น ฉันนอนร้องไห้เสียงดัง และนานมาก น้องเอามือเล็กๆ ของเขามาปิดปากฉันไว้ แล้วพูดว่า  " พี่ครับ ไม่ต้องร้องไห้นะมันผ่านไปแล้ว" ยังไงฉันก็อดที่จะเกลียดตัวเองไม่ได้ที่ไม่มีความกล้าจะบอกความจริงกับพ่อ

หลายปีผ่านไป…
แต่เหมือนกับว่าเหตุการณ์มันเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง ฉันไม่อาจลืมคำพูดของน้องชายตอนที่เขาปกป้องฉันได้เลย ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 8ปี ส่วนฉันอายุ 11ปี... เมื่อตอนที่น้องชายของฉันใกล้จบ ม.ต้น เขาได้รับการตอบรับจากโรงเรียน ม.ปลาย ว่าเขาสอบได้ ในขณะที่ฉันซึ่งใกล้จบ ม.ปลาย ก็ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยของจังหวัดเช่นกัน


คืนนั้น พ่อได้นั่งสูบบุหรี่อยู่ที่สวนหลังบ้าน  ฉันแอบได้ยินพ่อพูดว่า "ลูกเราทั้งคู่เรียนดีเรียนดีมากนะ"  แม่ซึ่งนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ข้างๆ พ่อ ได้พูดว่า "แล้วเราจะส่งเสียลูกทั้งคู่ได้อย่างไรในเมื่อเราก็ไม่ค่อยมีเงิน"

ทันใดนั้น น้องชายของฉันได้เดินเข้าไปหาพ่อ แล้วพูดว่า  " ผมไม่ต้องการเรียนต่อผมอ่านหนังสือมามากพอแล้ว" พ่อเหวี่ยงมือตบลงที่แก้มของน้องของฉัน "ทำไมถึงคิดโง่ๆ อย่างนี้ ต่อให้พ่อต้องไปเป็นขอทานข้างถนน พ่อก็จะส่งแกทั้งคู่เรียนจนจบให้ได้"

คืนนั้นทั้งคืน พ่อได้เดินไปตามบ้านต่างๆ  ทั่วทั้งหมู่บ้าน....เพื่อขอยืมเงิน  ฉันค่อยๆ เอามือประคบแก้มบวมๆ ของน้องชายเบาๆ และคิดว่า "ต้องให้น้องได้เรียนต่อไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจหลุดพ้นชีวิตลำบากเช่นนี้ไปได้" แต่ในขณะเดียวกันฉันก็ไม่อาจล้มเลิกความคิดอยากจะเรียนต่อไปได้

ใครจะรู้ได้ .......
วันต่อมาในตอนเช้ามืด น้องชายของฉันได้ออกจากบ้านไปพร้อมทั้งเสื้อผ้าติดตัวเพียงไม่กี่ชิ้นและถั่วเพียงเล็กน้อยเพื่อประทังความหิวก่อนไปเขาได้ทิ้งข้อความไว้ใต้หมอนของฉัน ขณะฉันกำลังหลับ "พี่ครับ การจะเข้ามหาวิทยาลัยได้ ไม่ใช่ง่ายๆ นะ ....  ผมจะไปหางานทำ...แล้วจะส่งเงินมาให้พี่" ฉันนั่งอยู่บนเตียง อ่านข้อความของน้องชายด้วยน้ำตานองหน้า .......  ฉันร้องไห้จนเสียงแหบแห้งไป  ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 17 ปี ส่วนฉันอายุ 20 ปี .....


ด้วยเงินที่พ่อยืมมาจากคนในหมู่บ้าน รวมกับเงินที่น้องชายของฉันได้รับเป็นค่าจ้างมาจากการทำงานเป็นกรรมกรแบกหามที่ไซท์ก่อสร้างท่าเรือ .......  ฉันจึงสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้จนถึงปี 3 วันหนึ่งขณะที่ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องพัก เพื่อนร่วมห้องของฉันได้เข้ามาบอกว่า "มีชาวบ้านมาหาเธอ...อยู่ข้างนอกแน่ะ"  ทำไมชาวบ้านถึงมาหาฉันล่ะ ???  ฉันเดินออกไปแล้วมองเห็นน้องชายของฉันยืนอยู่ ตัวของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นปูนและทรายจากงานก่อสร้าง  ฉันถามเขาว่า "ทำไมไม่บอกเพื่อนพี่ไปว่าเป็นน้องชายพี่ล่ะ" น้องชายของฉันตอบยิ้มๆ ว่า "ก็ดูผมสิสกปรกมอมแมมออกอย่างนี้...ขืนบอกว่าเป็นน้องพี่ เพื่อนๆ ก้อได้หัวเราะเยาะพี่กันพอดี" ฉันค่อยๆ เอื้อมมืออันสั่นเทาไปปัดฝุ่นให้น้อง และพยายามพูดด้วยเสียงเครือๆในลำคอ "พี่ไม่สนใจว่าใครจะพูดยังไง เธอเป็นน้องของพี่ ไม่ว่าเธอจะดูเป็นอย่างไรก็ตาม"

จากนั้น น้องของฉันได้ล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง เป็นกิ๊บหนีบผมรูปผีเสื้อ  เขาติดกิ๊บให้ฉัน แล้วพูดว่า "ผมเห็นสาวๆ ในเมืองเค้าติดกัน ผมเลยอยากให้พี่ติดบ้าง" ฉันหมดเรี่ยวแรงลงในทันใด ดึงน้องชายเข้ามาสวมกอดและร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลานาน  ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 20 ปี ส่วนฉันอายุ 23 ปี

วันที่ฉันพาแฟนหนุ่มของฉันมาที่บ้านเป็นครั้งแรก ฉันสังเกตเห็นว่า หน้าต่างบ้านที่เคยแตกไป ได้ถูกซ่อมเรียบร้อยแล้ว เมื่อเข้าไปในบ้านก็เห็นว่าบ้านสะอาดขึ้นมาก หลังจากที่แฟนของฉันกลับไป ฉันพูดกับแม่ว่า "แม่ไม่ต้องเสียเงินเพื่อทำความสะอาดบ้านกับซ่อมกระจกเพียงเพราะหนูจะพาแฟนมาที่บ้านหรอกนะคะ" แม่ยิ้ม แล้วพูดว่า " แม่ไม่ได้จ้างหรอก...น้องชายลูกต่างหาก วันนี้เค้าขอเลิกงานเร็วเพื่อกลับมาทำความสะอาดบ้าน ลูกยังไม่เห็นมือน้องหรอกเหรอ น้องโดนกระจกบาดตอนกำลังเปลี่ยนกระจกบานใหม่น่ะ" 

ฉันรีบเข้าไปหาน้องที่ห้องนอนของเขา ฉันรู้สึกเหมือนถูกเข็มนับร้อยเล่มทิ่มลงกลางใจเมื่อได้เห็นบาดแผลบนมือ ฉันจับมือน้องเอาไว้อย่างเบามือที่สุด "เจ็บมากไหม"  ฉันถาม  "ไม่เจ็บสักหน่อย พี่ก็รู้นี่ผมทำงานก่อสร้างนะ วันๆ มีหินตกมาใส่เท้าผมเต็มไปหมด แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมคิดเลิกทำงานหรอกนะ และ..." น้องชายของฉันยังพูดไม่จบประโยค แต่ก็ต้องหยุดพูด เพราะฉันหันหน้าหนีเขา น้ำตาไหลอาบหน้าของฉันอีกครั้ง "เพราะพี่เป็นพี่สาวของผมนี่ครับ"  ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 23 ปี ส่วนฉันอายุ 26 ปี...

หลังจากนั้น ฉันก็ได้แต่งงานและย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง หลายครั้งที่สามีของฉันชักชวนให้พ่อแม่ของฉันย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองด้วยกัน... แต่ท่านทั้งสองก็ปฏิเสธ ท่านบอกว่า ท่านเคยย้ายออกจากหมู่บ้านครั้งหนึ่ง แต่เมื่อออกไปแล้ว ท่านไม่รู้จะทำอะไรดี จึงได้ย้ายกลับเข้ามาใช้ชีวิตในหมู่บ้านตามเดิม น้องชายของฉันก็ไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้เขาและพ่อแม่ย้ายออกไป ... เขาบอกกับฉันว่า "พี่คอยอยู่ดูแลพ่อและแม่ของสามีพี่ทางนั้นเถอะผมจะดูแลพ่อและแม่ทางนี้เอง"

สามีฉันได้ขึ้นเป็นประธานของบริษัทของครอบครัว
เราทั้งคู่อยากให้น้องชายของฉันเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการบริษัท ..  แต่น้องชายของฉันก็ไม่รับตำแหน่งนี้ เขาขอเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานธรรมดา  วันหนึ่ง น้องชายของฉันต้องปีนบันไดขึ้นไปซ่อมสายเคเบิล และตกลงมาเพราะโดนไฟดูด เขาถูกรีบหามส่งโรงพยาบาล  ฉันและสามีรีบไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล  น้องชายของฉันขาหักต้องเข้าเฝือกที่ขา  ... ฉันโกรธมาก จึงตวาดน้องไปว่า "ทำไมถึงไม่ยอมรับตำแหน่งผู้จัดการ หา!!!  ถ้าเป็นผู้จัดการก็จะได้ไม่ต้องมาทำงานเสี่ยงๆ อย่างนี้  ดูตัวเองซิ...เจ็บเจียนตายอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่ยอมฟังพี่บ้าง"


คำตอบจากปากน้องของฉันรวมถึงสีหน้าเคร่งเครียด
ยังยืนยันความคิดเดิมของเขา  "พี่ลองคิดถึงพี่เขยสิครับ พี่เขยเพิ่งจะได้เป็นประธาน ส่วนผมมันการศึกษาต่ำถ้าผมได้เป็นผู้จัดการ คงจะมีเสียงนินทาว่าร้ายเต็มไปหมด" น้ำตาปริ่มดวงตาของฉันรวมทั้งสามีของฉันด้วย ..... ฉันบอกกับน้องว่า "แต่ที่เธอไม่ได้เรียนต่อก็เพราะพี่..."  "ทำไมต้องพูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วด้วยล่ะครับ" น้องชายของฉันจับมือฉันไว้ ตอนนั้นน้องของฉันอายุ  26 ปี ส่วนฉันอายุ 29 ปี...


เมื่อน้องชายของฉันอายุได้ 30 ปี  เขาได้แต่งงานกับผู้ห¬ิงในที่ทำงานที่เดียวกัน ในงานแต่งงาน ประธานในงานได้ถามน้องชายของฉันว่า "ใครคือคนที่คุณรักที่สุดในชีวิตนี้"  น้องชายของฉันตอบอย่างไม่ลังเล "พี่สาวของผมครับ" .....  และเขาก็เล่าเรื่องราวที่แม้แต่ฉันยังจำไม่ได้ "ตอนผมอยู่โรงเรียนประถม โรงเรียนอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง เราสองคนพี่น้องต้องใช้เวลาถึง 2 ชม. เพื่อเดินไปเรียน...และเดินกลับบ้าน วันหนึ่งในวันที่หิมะตกหนักผมทำถุงมือหายไปข้างหนึ่ง  พี่สาวผมจึงได้ให้ถุงมือของเธอข้างหนึ่ง และเธอก็ใส่ถุงมือเพียงข้างเดียวเดินเป็นระยะทางไกล  เมื่อเรากลับถึงบ้านมือเธอบวมแดงเพราะอากาศหนาว เธอไม่สามารถจับช้อนทานข้าวได้ด้วยซ้ำ .......นับจากวันนั้น ผมสาบานกับตัวเองว่าตลอดชีวิตของผม ผมจะดูแลพี่สาวของผมให้ดีและจะทำดีกับเธอ" เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่ว สายตาทุกคู่ของแขกเหรื่อหันมาจับจ้องที่ฉัน คำพูดจากปากฉันออกมาอย่างยากลำบาก ....... "ในโลกใบนี้คนเดียวที่ฉันรู้สึกขอบคุณที่สุด คือน้องชายของฉันค่ะ" ในวาระที่มีความสุขที่สุดเช่นนี้ น้ำตาได้รินไหลออกมาจากสองตาของฉันอีกครั้ง...

จงรัก และห่วงใยคนที่คุณรักในทุกๆ วันในชีวิตของคุณและเขา คุณอาจจะคิดว่าสิ่งที่คุณทำให้ใครสักคนเป็นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆ แต่สำหรับคนคนนั้นอาจจะมีความหมายมากอย่างคาดไม่ถึง .. ไม่ว่าเขาคนนั้นจะคือ พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ คนรัก เพื่อน หรือแม้คนที่คุณไม่รู้จัก ก็ตาม

จบบริบูรณ์....

ปล. ปัจจุบันผู้เป็นพี่สาวอายุ 86 ปี ตำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารให้บริษัทฮุนได และในเครือกว่า 20 บริษัท  น้องชายอายุ 83 ปี เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเล็กๆ ที่มีชื่อเป็นภาษาเกาหลีว่า "ซัมซุง"

    ...s#y.. ..s#y.... s#y...
...#t@.. ..#t@.. ..#t@.. ..#t@.. ..#t@...

   มีวาสนา  ไกลหมื่นลี้  ยังพบพาน
ไม่มีวาสนา ใกล้เพียงตา มองไม่เห็น

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 18068
ตอบกลับ #435 03 กรกฎาคม 2010, 22:53:15น.
T|g สวัสดีค่ะคุณnoinoinoi เคน+ที่ห้องเพลงแล้วนะคะ ::)
k(* k(* h*[ h*[ J@: J@:

  • พลังน้ำใจ: 2803
ตอบกลับ #436 04 กรกฎาคม 2010, 09:34:14น.

คุณ sonic   ?2,> ?1,>  ?5,> 0,>
คุณ cane   ?1,>  ?1,>  ?6,> ?1,>
คุณ ตาคม    ?6,>  ?9,> ?1,>
คุณ นัท       ?1,> 0,>  ?5,>
คุณ PURPLE   ?4,> ?4,> ?5,>



ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 18068
ตอบกลับ #437 04 กรกฎาคม 2010, 10:32:04น.

h*[ฝนตกบ่อยๆรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ เป็นห่วงมากมาย ]'y
 k(* h*[ h*[ p]| p]|

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 18068
ตอบกลับ #438 05 กรกฎาคม 2010, 17:48:05น.
h*[ h*[ k(* k(* J@: J@: p]| p]|

  • พลังน้ำใจ: 11064
ตอบกลับ #439 06 กรกฎาคม 2010, 02:23:28น.
?6,> ?9,> ?4,>คุณหน่อยค่ะ h*[ J@:
 ?2,> ?1,> ?7,> ?6,>คุณsonic xค่ะ h*[
 k(* k(* J@: J@:

  • พลังน้ำใจ: 2803
ตอบกลับ #440 06 กรกฎาคม 2010, 14:35:17น.
?6,> ?9,> ?4,>คุณหน่อยค่ะ h*[ J@:
 ?2,> ?1,> ?7,> ?6,>คุณsonic xค่ะ h*[
 k(* k(* J@: J@:


 h*[  ?1,> ?2,> ?1,>   h*[

  • พลังน้ำใจ: 11064
ตอบกลับ #441 07 กรกฎาคม 2010, 02:50:20น.
?7,> 0,> ?5,>คุณหน่อยค่ะ h*[
 ?2,> ?1,> ?9,> ?7,>คุณsonic xค่ะ h*[
 ?4,> ?7,> ?5,>คุณPURPLEค่ะ h*[
 J@:เป็นกำลังใจให้คุณหน่อยนะคะ J@:
 k(* k(* k(* k(* 

  • พลังน้ำใจ: 6372
ตอบกลับ #442 07 กรกฎาคม 2010, 10:05:08น.


h*[  707  ทักทายตอนสายนะค่ะ คุณ noinoinoi  มีความสุขมากๆนะค่ะ  k(* k(* k(* p]| p]| p]|



ชีวิตนี้ไม่มีอะไร.แค่มีเธอทุกวัน...ฉันก็พอใจ..

  • พลังน้ำใจ: 2803
ตอบกลับ #443 07 กรกฎาคม 2010, 15:36:56น.
?7,> 0,> ?5,>คุณหน่อยค่ะ h*[
 ?2,> ?1,> ?9,> ?7,>คุณsonic xค่ะ h*[
 ?4,> ?7,> ?5,>คุณPURPLEค่ะ h*[
 J@:เป็นกำลังใจให้คุณหน่อยนะคะ J@:
 k(* k(* k(* k(* 


  h*[  ?1,> ?2,> ?8,>  h*[ 

  • พลังน้ำใจ: 11064
ตอบกลับ #444 08 กรกฎาคม 2010, 04:41:12น.
?7,> ?1,> ?6,>คุณหน่อย h*[
 ?2,> ?2,> ?2,> ?1,>คุณsonic x h*[
 k(* k(* J@: J@:

  • พลังน้ำใจ: 2803
ตอบกลับ #445 08 กรกฎาคม 2010, 16:02:55น.
?7,> ?1,> ?6,>คุณหน่อย h*[
 ?2,> ?2,> ?2,> ?1,>คุณsonic x h*[
 k(* k(* J@: J@:



   ?1,> ?3,> 0,>

ขอบคุณความรู้สึกดีดีที่เธอนั้นมีให้
ขอบคุณความห่วงใยที่เธอนั้นมีให้มา
ขอบคุณทุกสิ่งทุกช่วงเวลา ที่ทำให้ฉันดูมีค่า…เมื่อมีเธอ
ขอบคุณความรักที่เธอนั้นมอบให้
ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่เธอมีให้กันเสมอ
ขอบคุณสำหรับความอบอุ่นที่ได้จากแววตาเธอ
ตั้งแต่วันที่ฉันได้เจอจนมีเธอทุกวันนี้เสมอมา…
มากมายกว่าคำขอบคุณ
เพราะอบอุ่นเหลือเกินกับรักที่เธอให้
ในวันนี้ฉันขอสัญญาด้วยหัวใจ
สักวันจะตอบแทนเธอให้ได้.. อย่างที่เธอให้มา


ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 18068
ตอบกลับ #446 09 กรกฎาคม 2010, 01:10:04น.
T|g r#*

Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 183720
ตอบกลับ #447 09 กรกฎาคม 2010, 13:34:41น.
?7,> ?2,> ?6,>

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 18068
ตอบกลับ #448 10 กรกฎาคม 2010, 01:42:31น.
คุณหน่อย h*[+1= ?6,> ?6,> ?6,>
คุณsonic x h*[+1= ?2,> ?1,> ?1,> 0,>
 J@: k(* k(* J@:





ขออนุญาตคุณnoinoioi นะคะ
h*[ สวัสดีค่ะคุณnatjang คืนนี้นอนหลับฝันดีนะคะ p]|

ผู้ช่วย Webmaster *
  • พลังน้ำใจ: 18068
ตอบกลับ #449 10 กรกฎาคม 2010, 01:48:04น.

คุณ sonic   ?2,> ?1,> ?4,> ?7,>
คุณ cane   ?1,>  ?1,> ?5,> ?4,>
คุณ ตาคม    ?6,> ?8,> ?6,>
คุณ นัท       ?1,> 0,> ?1,>


สวัสดีค่ะคุณnoinoinoi คืนนี้นอนหลับฝันดีนะคะ เทคแคร์ด้วยนะคะ  p]| k(* k(* k(*

 

เว็บไซต์ในเครือข่ายอภิโชค : apichokeonlin.com | apichoke.net | apichoke.biz | apichoke.me | apichoke.org | apichoke.info
"ศาสตร์ของการคำนวณหวย สถิติหวยความน่าจะเป็น บนเว็บนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน-นักคำนวณ และบุคคลทั่วไปตลอดจนเลขจากไสยศาสตร์ต่างๆ การที่ใครจะถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือถูกหวย รวยด้วยหวย ก็เป็นเพียงแต่ การเสี่ยงโชค เสี่ยงดวง เท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ และไม่ควรงมงาย หากต้องการเสี่ยงโชค ซื้อหวย เล่นหวย ก็ขอให้ เสี่ยงโชคแต่พอเพียงตามกำลังของตนเอง อย่าซื้อเกินกำลังอาจทำให้เดือนร้อนได้"
คำเตือน : อย่าหลงเชื่อหากมีผู้อ้างตนเป็นอาจารย์ดังสามารถให้หวยถูก100%หรือให้ถูกทุกงวดแน่นอน หรืออวดอ้างว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่กองสลาก แล้วเรียกเก็บเงินจากท่าน
ข้อมูลในเว็บนี้ใช้ประกอบเสี่ยงโชคสำหรับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น ไม่สนับสนุนหวยที่ผิดกฏหมาย