บูชา “พระกริ่ง” เพื่ออะไร?
ซึ่งโดยทั่วๆ ไปมักเข้าใจอยู่ว่าการบูชาพระกริ่งนั้นส่วนใหญ่ที่นิยมคือ นำไปบูชาเพื่อให้เกิดคุณด้านความเจริญรุ่งเรือง เกิดผลในทางคุ้มครองรักษา และมีประวัติว่าได้เคยมีการอาราธนาคุณพระกริ่งทำน้ำมนต์ เพื่อปัดเป่าทุกข์โศกโรคภัยร้ายแรงในสมัยก่อนกาลนานมาแล้ว
แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้ถึงคุณอันวิเศษของ “พระกริ่ง” ที่มีมากไปกว่านั้น นั่นคือจาก มหาปณิธาน 12 ประการ ของ พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต และจากบันทึกของอาจารย์เสถียร โพธินันทะ ปราชญ์ในทางพระพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงพระกริ่งไว้ว่า “พระกริ่ง” คือ พระไภษัชยคุรุพระพุทธเจ้า พระองค์เป็นที่นับถือของปวงพุทธศาสนิกชนฝ่ายมหายาน มีพระประวัติในพระสูตรสันสกฤตสูตรหนึ่ง คือ พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา ราชามูลประณิธานสูตร และ มหาปณิธาน 12 ประการ อันเป็นคุณอันวิเศษที่ผู้ใดก็ตาม ได้ครอบครองหรือบูชา “พระกริ่ง” ด้วยความเลื่อมใส หรือเอ่ยพระนาม รำลึกถึงพระองค์ จะได้รับอานิสงส์แห่งการบูชามีดังต่อไปนี้
1. ขอให้สรรพสัตว์จงมีวรกายดุจเดียวกับพระองค์
2. ขอให้วรกายของพระองค์มีสีสันดุจไพฑูรย์ มีรัศมีรุ่งโรจน์โชตนาการยิ่งกว่าแสงอาทิตย์และแสงจันทร์ เพื่อส่องทางให้สัตว์ที่หลงในอบายคติพ้นไปสู่คติที่ชอบ
3. ขอให้สรรพสัตว์ได้รับโภคสมบัตินานาประการ อย่าได้มีความยากจนใดๆ
4. หากสรรพสัตว์ใดมีมิจฉาทิฐิ ขอให้พระองค์ทำให้เขาตั้งมั่นในสัมมาทิฐิในโพธิมรรค
5. หากสรรพสัตว์ใดประพฤติพรหมจรรย์ในธรรมวินัยแห่งพระองค์ขอให้อย่าได้มีศีลวิบัติ หากมีศีลวิบัติ เมื่อได้สดับพระนามแห่งพระองค์จงบริสุทธิ์บริบูรณ์
6. หากสรรพสัตว์ใดมีรูปกายไม่งาม ผิวไม่ผ่องใส โง่เขลาเบาปัญญา ตาบอด หูหนวก เป็นใบ้ หลังค่อม สารพัดพยาธิทุกข์ต่างๆ เมื่อได้สดับพระนามแห่งพระองค์ขอให้หายและหลุดพ้นจากปวงทุกข์เหล่านั้น มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ผิวกายผ่องใส
7. ขอให้สรรพความเจ็บป่วยทั้งหลายจงหมดไป และขอให้สรรพสัตว์เป็นผู้มีกายใจอันผาสุก มีบ้านเรือนอาศัย พรั่งพร้อมด้วยธนสารสมบัติ จนที่สุดสำเร็จแก่พระโพธิญาณ
8. หากอิสตรีใดเบื่อหน่ายในเพศแห่งตน เมื่อสดับพระนามแห่งพระองค์ จักสามารถเปลี่ยนเพศจากหญิงเป็นชาย จนที่สุดสำเร็จแก่พระโพธิญาณ
9. ขอให้สัตว์ทั้งหลายหลุดพ้นจากข่ายแห่งมาร และตั้งอยู่ในสัมมาทิฐิได้
10. หากสรรพสัตว์ใดต้องพระราชอาญา ต้องคุมขัง หรือต้องอาญาถึงประหารชีวิต ตลอดจนได้รับการดูหมิ่นดูแคลน หากเอ่ยพระนามแห่งพระองค์และอาศัยบารมีและคุณาภินิหาริย์ของพระองค์ ขอสัตว์เหล่านั้นจงหลุดพ้นจากปวงทุกข์
11. ขอให้สัตว์ทั้งหลายบริบูรณ์ด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค มีความอิ่มหนำสำราญ
12. ขอให้สัตว์ทั้งหลายบริบูรณ์ด้วยสรรพอาภรณ์ เครื่องประดับ ธนสารสมบัติและเครื่องบำรุงความสุขต่างๆ
ด้วยมหาปณิธานทั้ง 12 ประการนี้ เพียงเอ่ยหรือได้ยินพระนาม “พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต” หรือ “พระกริ่ง” ยิ่งได้ศรัทธา เลื่อมใส มีไว้ครอบครองบูชา จะยิ่งทำให้มีความสุข ความเจริญ รุ่งเรือง นับเป็นคุณอันวิเศษยิ่งนัก เหล่านี้คือ “บารมีแห่งพระกริ่ง”
คาถาบูชาพระกริ่ง
นะโม ภควเต ไภษัชยคุรุ ไวฑูรยประภา ราชัยยะ
ตถาคตายะ อรหเต สัมมาพุทธายะ ตัทยถา
โอม ไภษัชเย ไภษัชเย ไภษัชเย
สมุรคะเต สมุรคะเต สวาหะ
******************************************************************************
มาถึงตรงนี้...นั่งวิเคราะห์เลขลงข้อมูลมาพอสมควร เวียนหัว ตาลาย...เลยมานั่งคิดว่าน่าจะหาข้อความอะไรมาลง ก็เลยนึกถึงคำว่า "ปีชง" ผู้ที่เกิดปีชงก็ต้องไปแก้เคล็ด สะเดาะเคราะห์ตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ตนนับถือ
ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเป็นมงคลครับ...บางท่านก็นำวัตถุมงคลแก้ปีชงมาบูชาติดตัว ติดบ้านเรือน ที่ทำงาน ผมเองก็ปฏิบัติเช่นกันครับ...สำหรับท่านใดที่ไม่มีเงินบูชาวัตถุมงคลปีชง ผมขออนุญาตเรียนตามตรงว่า
ทุกท่านต้องมีพระเครื่องแน่นอน...พระเครื่องที่มีอยู่นั่นหล่ะครับ คือพระพุทธเจ้า สูงสุดในจักรวาลนี้แล้วไม่มีสิ่งใดทำอันตรายได้หากเราปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีคุณธรรมความดี...นำมาติดตัวแก้ปีชงได้ทุกปี...
สำหรับข้อความนี้...ขอเขียนถึงเรื่อง พระกริ่ง ข้อความที่นำมาลงผมนำมาจากเวปพี่กูเกิ้ล ไม่ได้เขียนเองต้องขอขอบพระคุณท่านที่ได้นำข้อมูลมาลง ณ ที่นี้ด้วยครับ เป็นบทความที่มีประโยชน์เกี่ยวกับพระกริ่งและในอีก
หลายด้านที่ไม่รู้ได้รับทราบกันมาก่อน ส่วนตัวผมเองนั้นก็ศึกษามาเรื่อยตั้งแต่วิชาโหราศาสตร์ รวมทั้งพระเครื่องในประเทศไทย ผมยอมรับว่าหลงใหลวิชาต่าง ๆ เหล่านี้ของไทยเราครับ ดีใจเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย ประเทศอื่นไม่มีการศึกษาวิชาทางด้านนี้มามากมายเหมือนประเทศเราหรอกครับ อะไร ๆ ก็เทคโนโลยี อะไร ๆ ก็วิทยาศาสตร์ ถามหน่อยบางเรื่องวิทยาศาสตร์มันพิสูจน์ได้ไหม มีเครื่องมือจะตรวจจับวัดได้ไหม....
สิ่งเหล่านี้ต้องศึกษารู้ได้ตนเองเหมือนพระพุทธเจ้าท่านทรงตรัสไว้...นอกจากพระเครื่องชุดเบญจภาคีแล้ว ผมหลงใหลในองค์พระกริ่งมากมาย...ขอบอก ตั้งแต่เด็กผมเห็นคนรุ่นปู่ รุ่นพ่อ แขวนพระกริ่ง ผมถามว่า พระอะไรครับ ท่านก็ตอบว่าพระกริ่งวัดสุทัศน์ เพราะหลายท่านไม่มีพระสมเด็จมาครอบครอง คนไทยสมัยนั้นกระทั่งสมัยนี้ต้องไขว่คว้าหาพระสมเด็จ สร้างโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี วัดระฆัง มาบูชากันทั้งนั้น ถือได้ว่าเป็นจักรพรรดิแห่งพระเครื่อง...แต่ในเมื่อไม่มีเขาก็หาพระแบบอื่น ๆ มาบูชากัน ซึ่งในพระเครื่องใต้ฟ้าเมืองไทยแล้ว พระกริ่งสายวัดสุทัศน์ ซึ่งสร้างโดย สมเด็จพระสังฆราช แพ ติสสเทโว นับได้ว่าทรงคุณวิเศษนานับประการ แต่พอหาไปหามา .... พระกริ่งบางรุ่นหาได้ยากยิ่งกว่าพระสมเด็จเสียอีก....แต่ไม่เป็นไร รุ่นหลัง ๆ ที่เขาสร้างกันก็มีให้บูชา ทุกวันนี้ผมเองก็ห้อยพระกริ่งติดตัวตลอดเวลา ขอบารมีจากองค์ท่าน และสำหรับในความเชื่อของผมส่วนตัวน่ะครับ พระกริ่งเป็นพระที่แก้ปีชงได้ดีที่สุด สาเหตุที่คนสมัยก่อนห้อยพระกริ่งติดตัวนั้นมีที่มาที่ไปน่ะครับ...เพราะเขาเชื่อกันว่า หากใครมีโรคประจำตัวที่รักษาไม่หาย หรือเป็นโรคที่เกิดจากโรคเวรโรคกรรม เขาจะอารธนาพระกริ่งทำน้ำมนต์และมาบูชาติดตัว โรคต่าง ๆ ก็จักหาย
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่น่ะครับ...สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงครับ เขาอยู่เหนือหัวเราไปเพียง 3 ฟุต การกระทำใดที่เราทำเขารู้หมดครับ....
พระพุทธเจ้า ถึงได้ตรัสเอาไว้ว่า มีเพียง 3 สิ่งในจักรวาลที่ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้ นั่นคือ
พระอาทิตย์....พระจันทร์ และ ความลับ...

บันทึกการเข้า
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 มกราคม 2018, 03:40:34น. โดย Surathan15