ปกิณณกะ > ธรรมะ
ธรรมะ กับ ธรรมเมา
deejaimai:
สวัสดีครับ .. คุณวลัยพร $|8 ขอบคุณสำหรับน้ำใจไมตรีที่ร่วมแบ่งปัน คติธรรมะสอนใจ P|P
walaioo:
การเรียนรู้
ทุกสภาพธรรมที่มีเกิดขึ้นในชีวิต
เมื่อรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ของสิ่งที่เกิดขึ้นว่า เกิดจากอะไรเป็นเหตุปัจจัย ทำให้เกิดความรู้สึกนึกคิด
การทำความเพียรที่มีอยู่ จึงเป็นไปเพื่อ การลด ละ ในเหตุปัจจัย ที่มีอยู่
การจะรู้ชัดตามความเป็นจริง ของความยึดมั่นถือมั่น จะค่อยๆรู้
เริ่มจาก รู้แบบหยาบๆ รู้ทีละนิด
เมื่อตั้งใจลด ละ ในเหตุปัจจัยที่มีอยู่
จะค่อยๆรู้ชัดในรายละเอียดต่างๆ มากขึ้น
การคำนวณ
เกี่ยวกับ "หวย" หากใครนึกคิดอย่างไร
อาจจะคิดว่า เป็นการมอมเมา อย่างหนึ่ง
อาจจะคิดว่า เป็นมิจฉาอาชีโว อย่างหนึ่ง(สำหรับผู้ประกอบเป็นอาชีพ)
ที่เกิดความรู้สึกนึกคิดเกี่ยวกับ "หวย" อย่างไร นั้น
ล้วนเกิดจากเหตุปัจจัยที่มีอยู่ ของแต่ละคน
และที่กำลังกระทำให้เกิดขึ้นใหม่ คือ กล่าวโทษนอกตัว(หวย)
มอมเมา หรือไม่มอมเมา ล้วนเกิดจากการกระทำของตัวเอง
เกิดจากความไม่รู้ที่มีอยู่ จึงก่อให้เกิดการกระทำ
หากรู้แล้วว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต เกิดจากอะไรเป็นเหตุปัจจัย
การกล่าวโทษ ย่อมลดน้อยลงไปตามเหตุและปัจจัย
สำหรับวลัยพรแล้ว ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับ"หวย"
เพื่อช่วยเหลือ แบ่งเบาภาระของคู่ครอง(ช่วยคำนวณ)
ไม่ได้ทำเพราะ ความอยากได้อย่างแรงกล้า
แฟนเลิกเล่นเมื่อไหร่ เขาคงเลิกคำนวณ
วลัยพรก็ไม่ต้องทำหน้าที่นี้อีก
walaioo:
ของฟรีไม่มีในโลก
ได้มา ย่อมเสียไป เพียงแต่จะเสียไปทางไหนเท่านั้นเอง
ความผิดพลาดในแต่ละครั้ง
เมื่อกลับไปทบทวนการคำนวณ เล่นเอาเหวอเหมือนกัน
การคำนวณ ต้องระวังทุกฝีก้าว ต้องละเอียด
ไปๆมาๆ เกี่ยวกับการคำนวณหวย ที่นำข้อมูลจากหนังสือ มาคำนวณ(ไม่ใช่โปรแกรมสูตร)
การคำนวณตัวเลข ที่เกี่ยวข้องกับหวย
ก็สามารถทำให้กลายเป็นคนที่มีความละเอียดรอบครอบมากขึ้น(ไม่อยากเสียทรัพย์ ถึงจะเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการคำนวณ ก็ไม่อยากเสีย)
มีคนในกลุ่ม ที่ติดตามวลัยพรอยู่(ไม่ใช่เว็บนี้)
เมื่อก่อนคำนวณคนเดียว มีตกๆหล่นๆ
ตอนนี้ปรับเปลี่ยนใหม่ ก็ในเมื่อเขารอข้อมูลจากเรา
เราก็ต้องให้เขาช่วยตรวจสอบตัวเลข ที่นำมาคำนวณ
โอกาสตกหล่น หรือมีเกิน จากที่คำนวณ(เลขไม่มีในกลุ่ม แต่ใส่ลงไปเอง/เผลอ)
การผิดพลาด ย่อมลดน้อยลง หากมีคนช่วยตรวจทานซ้ำให้อีกที
ต้องช่วยกันทำมาหากิน
หากไม่ช่วยกัน เมื่อไม่ถูกขึ้นมา จะมีกล่าวโทษกันได้
ก็ให้รู้ไปเลยว่า ตัวเลขที่ใช้ มีอะไรบ้าง
ผลของการคำนวณเป็นแบบไหน ช่วยกันตรวจทานให้อีกที
วลัยพรก็ต้องระวังมากขึ้น
บางครั้ง ยังมีเผลออยู่ เหมือนหลงตา มองไม่เห็น
เกี่ยวกับ หวย
สำหรับวลัยพรแล้ว หวย
หากเรามองเห็นสภาพธรรมตามความเป็นจริง หวยก็เป็น ธรรมะ อย่างหนึ่งเหมือนกัน
คือ มาสอนไม่ให้ประมาท การคำนวณ ทำให้เป็นคนละเอียดรอบครอบ
walaioo:
สภาวะ
สิ่งที่ควรรู้ ลักษณะอาการที่เกิดขึ้น ของคำ ที่เรียกว่า สภาวะ
คำว่า สภาวะ หมายถึง สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต ประจำวัน ในแต่ละขณะ
ไม่ว่าสิ่งนั้น ทำให้เกิดความรู้สึกนึกคิด หรือ ไม่มีความรู้สึกนึกคิด เกิดขึ้น ก็ตาม
ตั้งแต่ลืมตาตื่น จนกระทั่งหลับ ขณะที่กำลังหลับ และที่มีเกิดขึ้น ขณะจิตเป็นสมาธิอยู่
สิ่งที่เรียกว่า สภาวะ เป็นลักษณะอาการที่เกิดขึ้น
ที่มีสภาพธรรมตามความเป็นจริง ของสิ่งที่เรียกว่า ผัสสะ
ตามคำสอน ที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงทิ้งเป็นแนวทางไว้
เป็นร่องรอย ซึ่งมีปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก จนถึงปัจจุบันนี้
การเริ่มต้นแกะรอย ตามคำสอนที่พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงเริ่มต้นจาก ผัสสะ
เนื่องจาก ผัสสะ เป็นจุดเริ่มต้น
ของการสร้างเหตุแห่งภพชาติปัจจุบัน ให้เกิดขึ้น
และผลของการสร้างเหตุภพชาติปัจจุบัน ให้เกิดขึ้น
เป็นเหตุปัจจัย ให้เกิดการเวียนว่าย ในสังสารวัฏฏ์
หากจะแก้ ให้แก้ที่ต้นเหตุ คือ แก้ที่ปัจจุบัน(ธรรมปัจจุบัน ได้แก่ ผัสสะ)
ได้แก่ การดับเหตุปัจจัย ที่ทำให้เกิด การสร้างเหตุภพชาติปัจจุบัน ให้เกิดขึ้น กล่าวคือ
การไม่สร้างเหตุออกไป(วจีกรรม กายกรรม) ตามความรู้สึกนึกคิดที่เกิดขึ้น จาก ผัสสะ เป็นเหตุปัจจัย
มโนกรรม(ความรู้สึกนึกคิด) เป็นเรื่องของเหตุปัจจัยที่มีอยู่(สังโยชน์) ห้ามไม่ได้
แค่รู้ว่า มีอยู่วจีกรรม กายกรรม สามารถห้ามได้ หากรู้ชัด ในผัสสะที่เกิดขึ้น
ฉะนั้น จึงควรเริ่มต้นศึกษาที่ ผัสสะ ว่าเพราะอะไร เป็นเหตุปัจจัย
เมื่อมีผัสสะเกิด ทำไม สิ่งที่เกิดขึ้น จึงทำให้เกิดความรู้สึกนึกคิด และ ไม่ทำให้เกิดความรู้สึกนึกคิด
ทั้งที่บางครั้ง สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งเดียวกันแท้ๆ แค่มีเกิดขึ้นคนละขณะ
การเริ่มต้นศึกษา ควรเริ่มต้นจาก คำสอนที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงทิ้งเป็นแนวทางไว้ให้
เกี่ยวกับว่าด้วย ผัสสะ และอุบาย ที่ใช้เป็นเครื่องสลัดออกแห่ง ผัสสะ ที่เกิดขึ้น
การกระทำ เพื่อดับเหตุแห่งทุกข์
และกระทำเพื่อให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์
จึงเริ่มต้นที่ ผัสสะ
ผัสสายตนสูตรที่ ๓
[๘๗] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง
ไม่ทราบชัดความเกิด ความดับ คุณ โทษ และอุบายเครื่องสลัดออกแห่ง ผัสสายตนะ ๖ ตามความเป็นจริง
พรหมจรรย์อันเธอไม่อยู่จบแล้ว เธอเป็นผู้ไกล จากธรรมวินัยนี้
เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว ภิกษุรูปหนึ่งได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เป็นผู้ฉิบหายแล้วในธรรมวินัยนี้
เพราะข้าพระองค์ไม่ทราบชัดความเกิด ความดับ คุณ โทษ
และอุบายเครื่องสลัดออกแห่งผัสสายตนะ ๖ ตามความเป็นจริง ฯ
พ. ดูกรภิกษุ เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน จักษุเที่ยงหรือ ไม่เที่ยง ฯ
ภิ. ไม่เที่ยง พระเจ้าข้า ฯ
พ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า ฯ
ภิ. เป็นทุกข์ พระเจ้าข้า ฯ
พ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
ควรหรือหนอที่จะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตนของเรา ฯ
ภิ. ไม่ควรเห็นอย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
พ. หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เที่ยงหรือไม่เที่ยง ฯ
ภิ. ไม่เที่ยง พระเจ้าข้า ฯ
พ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า ฯ
ภิ. เป็นทุกข์ พระเจ้าข้า ฯ
พ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
ควรหรือหนอที่จะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตนของเรา ฯ
ภิ. ไม่ควรเห็นอย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรภิกษุ อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้
ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในจักษุ แม้ในหู แม้ในจมูก แม้ในลิ้น แม้ในกาย แม้ในใจ
เมื่อเบื่อหน่ายย่อมคลายกำหนัด เพราะคลายกำหนัดจึงหลุดพ้น เมื่อหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณหยั่งรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว
รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=18&A=990&Z=1026&pagebreak=0
walaioo:
มหันตภัยของการเกิด ได้แก่ อวิชชา
กิเลส ไม่ได้เป็นภัยของการเกิด
เป็นเพียงปลายเหตุ
ตัณหา เป็นตัวแปรของทุกเรื่องราวที่มีเกิดขึ้นในชีวิต
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version